พิมพ์

[Soccer]

ทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล พลิกสถานการณ์จากการตกเป็นรอง ก่อนกลับมาเป็นฝ่ายเอาชนะ “หมูชรา” โอลด์แฮม ได้ 5-1 ได้ผ่านเข้าสู่รอบที่ 4 ของศึกเอฟเอ คัพ 

โอลด์แฮม สตาร์ทได้ดีทีเดียวในเกมนี้ สามารถยันกับแนวรุกของเจ้าบ้านได้เป็นอย่างดีในช่วง 10 นาทีแรก ขณะที่ ลิเวอร์พูล มีโอกาสจากจังหวะกลับตัวยิงด้วยซ้ายหน้าเขตโทษของ เบลลามี่ แต่ทีมเยือนก็ทำได้เสียวพอกันในจังหวะลูกเตะมุม อัดเยมี่ โฉบมาขวิดบอลจากระยะ 12 หลาลูกเฉี่ยวเสาไปนิดเดียว

เจ้าบ้านยังเล่นเกมตามจังหวะตัวเองไม่ได้ และเกือบโดนทีเด็ดอีกครั้งเมื่อ เทย์เลอร์ ปีกขวาลากหลบ ออเรลิโอ ได้สวยก่อนทำชิ่งกับเพื่อนจนหลุดเข้าเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายพยายามดีดไซด์ก้อยกะเข้าเสาไกล แต่ลูกไม่ติดไซด์หลุดเสาไกลไป

นาทีที่ 26 ลิเวอร์พูล ได้โอกาสบ้างจากลูกฟรีคิกริมเส้นฝั่งซ้าย เบลลามี่ เปิดโค้งมากลางประตูถึงเดิร์ค เคาท์ โหม่งแต่โดนไม่ดีบอลข้ามคานไปเยอะ แต่ในนาทีถัดมา โอลด์แฮม กลับเป็นฝ่ายได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 โดยเป็นจังหวะการยิงสุดยอดของ ร็อบบี้ ซิมป์สัน ที่ได้บอลแถว 25 หลาจับจังหวะเดียวแล้วซัดเต็มเหนี่ยวด้วยซ้ายทันที ลูกพุ่งเป็นจรวดเบียดเสาเข้าชนิด เรน่า หมดสิทธิ์เซฟ

แต่นาทีถัดมา ลิเวอร์พูล ก็ตีเสมอได้อย่างรวดเร็วทันที โดยเป็นจังหวะเซ็ตเกมรุกขึ้นทางขวา จอนโจ เชลวีย์ ลากตัดมายิงด้วยซ้าย บอลไปแฉลบ เบลลามี่ เปลี่ยนทางเข้าประตูไปแบบง่ายๆ ให้สกอร์กลับมาเสมอกันที่ 1-1

อีก 2 นาทีถัดมา ลิเวอร์พูล น่าจะยิงแซงได้เมื่อ เจอร์ราร์ด แทงบอลให้ เบลลามี่ หลุดไปทางขวาก่อนจะตบกลับมากลางประตู เคาท์ จับบอลไม่อยู่แต่ลูกทะลักมาถึง มักซี่ แต่งบอลก่อนซัดแต่ว่าไปตรงตัวประตูทีมเยือน เชลวีย์ จะซ้ำก็ลื่นหัวคว่ำอีก

มาถึงนาทีที่ 43 เจ้าบ้านก็มาได้จุดโทษในจังหวะที่ เจอร์ราร์ด เปิดเร็วจากขวาเข้ามาถึง มักซี่ แต่โดนกระโดดเบียดทับจนล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษ และเป็น เจอร์ราร์ด ที่รับอาสาซัดเองเสียบตาข่ายเข้าไป เป็นประตูนำ 2-1 ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว

เข้าสู่ครึ่งหลัง โอลด์แฮม ขอทักทายก่อนเลยจากจังหวะยิงไกลของ ซิมป์สัน ที่ไปติดบล็อก โคอาเตส ออกหลังไปต่อด้วยลูกฟรีคิกจากแนวลึกที่เปิดเข้าไปเสาไกลถึงอัด เยมี่ โฉบมายิงแต่ก็หลุดกรอบ โดยเจ้าบ้านตอบโต้กับโอกาสของ เบลลามี่ ที่ได้วางเท้ายิงหน้าเขตโทษโล่งๆแต่ไม่เข้ากรอบ

เกมสวนกลับของ ลิเวอร์พูล เกือบได้ผลอีกครั้งเมื่อ เบลลามี่ ได้ลูกวางยาวจนหลุดเข้าเขตโทษเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ตบเข้ากลางมาให้ เคาท์ แต่โดนสกัดทิ้งไปได้อย่างหวุดหวิด ซึ่งหลังจากนั้นยังมีโอกาสของ มาร์ติน เคลลี่ ที่โดนเซฟได้ราวปาฏิหารย์ด้วย

มาถึงนาทีที่ 68 สกอร์ก็ขยับเป็น 3-1 จากจังหวะที่ เชลวีย์ ตัดบอลได้ในแดนโอลด์แฮม เป็นจังหวะให้ ลิเวอร์พูล เคาน์เตอร์ทันทีและเป็น เบลลามี่ ได้หลุดไปทางขวาก่อนใส่พานกลับมากลางประตูให้ เชลวีย์ เติมมาแปด้วยขวาเข้าไป เป็นประตูแรกในฤดูกาลของกองกลางดาวรุ่งหัวใส

ช่วงท้ายเกม ลิเวอร์พูล ยังมาได้ประตูเพิ่มอีกจากตัวสำรองอย่าง แอนดี้ แคร์โรลล์ ที่ลงสนามมาไม่ทันไรก็ได้โอกาสทันที ในจังหวะที่เพื่อนลากลุยมาแล้วบอลกระเด้งมาเข้าทาง แคร์โรลล์ ตวัดยิงตามน้ำด้วยซ้ายจากระยะ 20 หลาบอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงามเป็นประตู 4-1

และก่อนหมดเวลา 20 วินาที เจ้าบ้านมาได้ประตูปิดท้าย 5-1 จากจังหวะต่อบอลเข้าเขตโทษทางซ้าย เจอร์ราร์ด เติมมาก่อนล็อกเข้าขวาแล้วซัดเต็มๆจังหวะแรกไปติดเซฟ แต่ว่ายังมาเข้าทาง สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง อีกหนึ่งตัวสำรองที่ยิงซ้ำเข้าไป ให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบ 4 เอฟเอ คัพ แบบสบายๆ