"แลมพ์" ซัดประตูชัยก่อนหมดเวลาเพียง 4 นาที พา "สิงห์บลูส์" บุกเฉือน "วูล์ฟส์" ที่สู้ได้อย่างสูสีไปแบบตื่นเต้นและลุ้นระทึก 2-1 ศึกพรีเมียร์ ลีก คืนวันจันทร์
การเเข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ประจำวันจันทร์ที่ 2 มกราคม 2555 ที่สนาม โมลินิวส์ กราวนด์ เจ้าบ้าน "หมาป่า" วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ ต้อนรับการมาเยือนของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ทีมดังจากกรุงลอนดอน
มิค แม็คคาธี่ กุนซือเจ้าบ้านมาในระบบ 4-4-2 โดยวันนี้ให้โอกาส เอ็มมานูเอล ฟริมปง กองกลางตัวใหม่ที่เพิ่งยืมตัวมาจาก "ปืนใหญ่" มาสดๆ ร้อนๆ ลงสนามทันที ส่วนแดนหน้าใช้ เควิน ดอย์ล ยืนคู่กับ เดวิด เอ็ดเวิร์ด
ด้าน อังเดร วิลลาส-โบอาส กุนซือเก้าอี้ร้อนของ เชลซี วันนี้มาในระบบ 4-2-3-1 โดยวาง เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงค้ำคนเดียวในแดนหน้า ส่วนแดนกลางใช้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ได้รับโอกาสลงสนามร่วมกับ ราอูล เมยเรเลส และ ฆวน มาต้า ลงสนาม โดยมี โอริออล โรเมอู คอยช่วยตัดเกมด้านหลัง ขณะที่แนวรับยังใช้ ดาวิด ลุยซ์ ยืนคู่กับ จอห์น เทอร์รี่ เช่นเคย
เริ่มเกมมาได้เพียงไม่กี่วินาที เจ้าถิ่นได้โอกาสทักทายก่อนเมื่อ เดวิด เอ็ดเวิร์ด ฉวยโอกาสจากจังหวะที่ โจเซ่ โบซิงวา ผิดพลาดแย่งบอลมาได้ก่อนจะซัด แต่ ปีเตอร์ เช็ก ยังไม่พลาดรับติดมือเอาไว้ได้
นาที 12 เชลซี ได้ลุ้นบ้างเมื่อ รามิเรส กระชากขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะได้ซัดเต็มข้อด้วยขวา แต่บอลก็พุ่งเข้าไปข้างตาข่ายไปดื้อๆ จากนั้นนาทีถัดมา ฆวน มาต้า เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ก่อน รามิเรส จะได้ลองจักรยานอากาศทำประตูแต่ เวย์น เฮเนสซี่ ก็เซฟเอาไว้ได้
หลังจากนั้นเกมผ่านไป 10 นาที ทั้งสองทีมยังผลัดกันทำเกมบุกใส่กัน แต่ต่างฝ่ายก็ทำได้แค่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาเท่านั้น ขณะที่บางครั้งผู้เล่นของทั้งสองทีมก็สามารถป้องกันเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
นาที 24 แฟร้งค์ แลมพาร์ด พุ่งเข้าไปเสียบใส่ อดัม แฮมมิล อย่างน่าเกลียด ทำให้ผู้ตัดสินไม่รอช้าชักใบเหลืองให้แก่เจ้าตัวทันที และเป็นเหลืองแรกของเกมนี้ด้วย หลังจากนั้นอีก 2 นาที โรเจอร์ จอห์นสัน และ แฮมมิล ก็โดนใบเหลืองให้ฝั่งเจ้าถิ่นบ้างเช่นกัน แถมไม่กี่นาทีถัดมา เควิน ดอย์ล ก็มารับเหลืองไปอีกคน หลังเข้าทำฮึดฮัดใส่ แอชลี่ย์ โคล จากจังหวะที่เจ้าตัวถูกแบ็กรายนี้เตะเข้าไป
และในจังหวะเดียวกันเป็นฟรีคิกหน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น แฮมมิล เปิดไปหน้าประตูให้ จอห์นสัน ได้โหม่งเต็มๆ บอลพุ่งไปถูกเสากระเด้งออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้น โอริออล โรเมอู ก็มาโดนเหลืองอีกคน เมื่อเข้าไปผลักใส่ แฮมมิล และเจ้าตัวลุกขึ้นมาเปิดฟรีคิกอีกครั้งคราวนี้ให้ สตีเฟ่น วอร์ด โหม่งบ้าง แต่บอลก็พุ่งเฉี่ยวเสาออกไป
นาที 44 แลมพาร์ด ลองซัดไกลจากนอกกรอบดู แต่ เฮเนสซี่ ก็ยังไม่พลาดเซฟเอาไว้ได้อีกครั้ง ถัดมา โบซิงวา ขอลองซัดไกลอีกคนคราวนี้ เฮเนสซี่ ยังคงปัดออกหลังไปได้ และจากลูกเตะมุม มาต้า เปิดเข้าไปให้ จอห์น เทอร์รี่ ได้โหม่งแต่บอลก็ข้ามคานไปแบบไม่ได้ลุ้น
ช่วงทดเจ็บ ดอย์ล ลุยมาถึงนอกกรอบก่อนจะล็อกเข้าซ้าย และยิงแต่บอลก็พุ่งเฉียดเสาออกหลังไป จากนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น หมดครึ่งแรกทั้งคู่ยังเสมอกันอยู่ 0-0
มาในครึ่งหลังกันต่อเจ้าถิ่นแก้เกมก่อนโดยส่ง แม็ทธิว จาร์วิส ลงสนามแทน แอนโทนี่ ฟอร์เด ที่ดูจะไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกมมากนักออกไป
นาที 53 เชลซี มาได้ประตูขึ้นสำเร็จจากลูกเตะมุมที่เปิดไปหน้าประตูเป็น รามิเรส ที่ไหวตัวทันเมื่อเห็นบอลตกลงพื้น ก่อนจะพลิกตัวหลบผู้เล่นเจ้าถิ่นและซัดด้วยขวาบอลพุ่งกระทบบนตาข่ายเข้าประตูไป ทีมเยือนขึ้นนำไปก่อน 1-0
พอเสียประตูเจ้าถิ่นต้องแก้เกมอีกครั้งคราวนี้ถอด ฟริมปง ที่ดูจะหายไปจากเกมเช่นเดียวกันออกไปและส่ง สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ ลงไปเพิ่มจังหวะลุ้นประตูแทน
นาที 66 เชลซี ได้จังหวะสวนกลับเมื่อ รามิเรส เลี้ยงตะลุยมาจากทางฝั่งขวาก่อนจะซัดเต็มเท้า แต่ เฮเนสซี่ ยังปิดมุมป้องกันเอาไว้ได้ ก่อนจะส่งบอลให้เพื่อนเล่นสวนกลับบ้าง แต่สุดท้าย จาร์วิส กลับเปิดบอลออกหลังประตูไปแบบเสียของแทน
ต่อมานาทีที่ 71 ตอร์เรส ได้ลุยมาถึงหน้าเขตโทษทีมเยือน แต่ถูกคู่แข่งปิดทางจนหมดทำให้ต้องจ่ายบอลไปให้ มาต้า ที่ยืนอยู่โล่งๆ ก่อนเจ้าตัวจะซัดเรียดด้วยซ้าย แต่บอลก็ผ่านเสาออกหลังไปแบบได้เสียวเล็กๆ
เจ้าถิ่นแก้เกมครั้งสุดท้ายส่ง เควิน โฟลี่ย์ ลงสนามแทน เดวิด เอ็ดเวิร์ด เพื่อลุ้นตีเสมอให้ได้ จากนั้นทีมเยือนก็เอา มาต้า ออกเอา โจชัว แม็คเอนคราน ลงสนามแทน
นาที 84 "วูล์ฟส์" มาตามตีเสมอได้สำเร็จ เมื่อ จาร์วิส เปิดบอลเข้าไปหน้าประตูไปให้ เฟล็ทเชอร์ แต่ถูกโหม่งสกัดออกไปบอลตกมาเข้าเท้า สตีเฟ่น วอร์ด ซัดด้วยขวาเต็มๆ บอลพุ่งเรียดเข้าประตูไป หมดโอกาสที่ เช้ก จะป้องกันได้ ตีเสมอให้เจ้าถิ่นสำเร็จเป็น 1-1
โดนไปเพียง 4 นาที เชลซี มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อ แลมพาร์ด หาจังหวะอยู่นอกกรอบ ก่อนจะจ่ายบอลไปให้ ตอร์เรส ที่อยู่ด้านข้าง และต่อด้วยไหลไปให้ โคล ที่ยืนโล่งๆ วิ่งหลุดไปถึงเส้นหลัง ก่อนจะครอสเรียดกลับมาหน้าประตูให้ "แลมพ์" ที่วิ่งมาแปบอลเต็มๆ เข้าประตูไป ทีมเยือนขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1
เข้าสู่ช่วงเจ็บ "วูล์ฟส์" พลาดโอกาสตีเสมอไปอย่างน่าเสียดาย จากลูกทุ่มไกลเข้ามาหน้าประตู คริสตอฟ แบร์รา โหม่งย้อนไปให้ ดอย์ล ที่อยู่โล่งๆ ได้โหม่งเต็มหัว แต่ เช็ก โชว์ซุปเปอร์เซฟปัดข้ามคานไปได้แบบเหลือเชื่อ เจ้าถิ่นชวดโอกาสสำคัญแบบน่าเจ็บใจสุดๆ
และสุดท้ายผู้ตัดสินเป่าหมดเวลาการแข่งขันทำให้ เชลซี บุกเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน ไปได้ 2-1
ผู้เขียน
หัวข้อ: แลมพ์ ฮีโร่! สิงห์บลูส์ บุกเฉือด วูล์ฟส์ 2-1 สุดระทึก (อ่าน 1415 ครั้ง)
