งานนี้ต้องบอกว่าอัลเคไลฟี่มีเคืองครับ เมื่อจู่ๆทางด้านของรองประธานสโมสรบาร์เซโลน่า ฆาเบียร์ เฟาส์ ได้ออกมากล่าวเชิงกึ่งหยัน กึ่งเตือนว่าทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่เงินมากมายสามารถทุ่มเงินซื้อนักเตะชั้นนำเข้าทีมได้ไม่รู้กี่รายต่อกี่รายนั้นไม่อาจที่จะก้าวขึ้นมาเป็นยอดทีมชั้นนำของยุโรปจริงๆเฉกเช่นทีมบาร์เซโลน่าของเขาหรอก เพราะเพียงแค่เงินมหาศาลนั้นมันไม่เพียงพอที่จะทำให้ทีมฟุตบอลสักทีมประสบความสำเร็จได้ในชั่วพริบตา หรือก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์ยุโรปในระยะเวลาเพียงแค่ 2-3 ซีซั่น
หากแต่มันยังจะต้องอาศัยเวลาเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนสิ่งต่างๆให้ค่อยๆก้าวเดินไปข้างหน้าอีกด้วย ทั้งนี้ฆาเบียร์ เฟาส์กล่าวยกตัวอย่างทีมบาร์เซโลน่าของเขาว่าในช่วงระยะเวลาการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รื้อระบบ รื้อโครงสร้างทีมเพื่อให้พัฒนาก้าวขึ้นมาเป็นยอดทีมชั้นนำทีมหนึ่งของยุโรปนั้นพวกเขาใช้เวลามากถึง 10 ปีเลยทีเดียวจากนั้นก็พัฒนามาเรื่อยๆอีก (เช่นเดียวกับทีมชั้นนำอื่นๆในยุโรปที่สามารถประสบความสำเร็จในรายการฟุตบอลถ้วยยุโรปใบโตได้พวกเขาต่างใช้เวลากว่า 40 ปีในการสร้างมัน) ต่างจากเปแอสเชเวลานี้ที่กำลังพยายามจะใช้เงินกับช่วงเวลาสั้นๆเพื่อเถลิงแชมป์ยุโรป ซึ่งในความคิดของเขา (ฆาเบียร์ เฟาส์) มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
นอกจากนี้ก็ยังได้กล่าวไปถึงเรื่องของการซื้อตัวผู้เล่นของทีมเปแอสเชอีกด้วยทำนองว่า เปแอสเชอาจจะมีเงินมากมายซื้อนักเตะเก่งได้เยอะ (อาทิเช่น ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวิด ลุยซ์ ลูคัส มูร่า ติอาโก้ ซิลวา เป็นต้น) แต่ทว่าหากเป็นนักเตะชั้นยอดของโลกเวลานี้ และอยู่ในทีมบาร์เซโลน่าเวลานี้อย่างหลุยส์ ซัวเรซ ลิโอเนล เมสซี่ และเนย์มาร์ พวกเขาจะไม่มีทางประสบความสำเร็จในการซื้ออย่างแน่นอน สรุปกันได้แบบชัดๆว่าเวลานี้มุมมองของรองประธานทีมบาร์ซ่าไม่คิด หรือมองว่าทีมอย่างเปแอสเชจะเป็นคู่แข่งรายสำคัญในเวทีฟุตบอลยุโรปเฉกเช่นที่มองทีมอย่างรีล มาดริด บาเยิร์น มิวนิค