เกมนี้แนวรับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทำเอาเหล่าแฟนบอล "เดอะ ค็อป" ต้องใจสลายหลังจากที่อุตสาห์ไล่ขโยกนำ "ปราสาทเรือนแก้ว" คริสตัล พาเลซ ก่อนแบบขาดลอยไร้ปัญหา 3-0 แต่อยู่ดีๆก็มีดราม่าเมื่อโดนไล่ถลุง 3 ประตูภายใน 9 นาทีลงท้ายเจ๊าช็อกมวลมหาประชาชน 3-3 ทำให้ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขยับเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกเต็มแก่แล้วโดยหลังสิ้นสุดเกม "หลุยส์ ซัวเรซ" ร้องไห้ฟูมฟายจนเพื่อนต้องเข้ามาปลอบเป็นการใหญ่
พรีเเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม เซลเฮิร์ทส พาร์ค
จันทร์ที่ 5 พฤษภาคม 2557
กรรมการ มาร์ค แคลทเท่นเบิร์ก
คริสตัล พาเลซ 3-3 ลิเวอร์พูล ออกสตาร์ทเกมช่วงครึ่งแรก "ปราสาทเรือนแก้ว" เกือบเสียจุดโทษเลยในจังหวะที่เดลานี่ย์ไปเตะพรวดพราดใส่จอห์นสันล้มลงในกรอบแต่กรรมการให้เป็นเพียงเตะมุมเท่านั้นซึ่งลูกคอนเนอร์ทางด้านขวานี่เองซาโก้ได้โขกโล่งๆตรงเสาไกลแต่ดันโหม่งไม่ดีบอลออกไปเฉย
นาที 15 ลิเวอร์พูลเกือบได้ประตูขึ้นนำเลยในจังหวะโยนยาวจากกลางสนามของอัลเลนไปให้จอห์นสันที่วิ่งแลบขึ้นมาแล้วได้โขกคนเดียวแต่ดันโหม่งแรงไปทำให้บอลลอยโด่งไปตกด้านหลังแทน
นาที 18 "หงส์แดง"ยังบุกได้น้ำได้เนื้อมากกว่าและมาได้ยิงอีกครั้งเมื่อสเตอร์ริดจ์ลากบอลมาเดี่ยวๆก่อนตวัดยิงด้วยซ้ายหน้าปากเขตโทษไปติดเดลานี่ย์แฉลบออกหลังไปและจากจังหวะเตะมุมนี่เองเจอร์ราร์ดเปิดมาจากด้านซ้ายให้อัลเลนที่วิ่งหนีตัวประกบจากเสาแรกไปโหม่งเน้นๆทางเสาสองเข้าไปกองก้นตาข่าย
นาที 22 เกมต้องหยุดไปชั่วคราวเมื่อสเคอร์เทลไปโขกใส่ท้ายทอยของเล็ดลี่ย์กลางสนามจนต้องเรียกแพทย์ลงมาดูอาการซึ่งต่อมานักเตะทั้งสองคนก็สามารถกลับมาลงสนามได้หลักออกไปปฐมพยาบาลแป๊ปนึง
นาที 28 เกมทะลุช่องของลิเวอร์พูลวันนี้ได้เรื่องเหมือนกันและคนสำคัญก็เป็นซัวเรซที่ลากเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนเปิดจังหวะแรกโดนเคลียร์ทิ้งแล้วบอลมาเข้าเท้าของเขาอีกทียิงไปติดมือสเปโรนี่
นาที 31 "หงส์แดง"มาได้ลุ้นฟรีคิกระยะกว่า 30 หลาเป็น"หม่อมกัด"ที่ขันอาสาปั่นเองโดยวิ่งมายิงด้วยขวาบอลข้ามกำแพงไปแล้วแต่หลุดสามเหลี่ยมเสาไกลออกไปนิดเดียวเท่านั้น
นาที 33 พาเลซมาได้ยิงแบบสุดเสียวเลยในจังหวะที่ดูเหมือนไม่มีอะไรพันเชี่ยนจับบอลได้ก่อนยิงไกลทันทีระยะ 25 หลาบอลพุ่งลอดขาซาโก้ไปที่โคนเสาขวามือแต่มิโญเล่ต์ยังไม่หลับพุ่งปัดออกหลังได้ทันเวลา
นาที 35 มิโญเลต์ต้องออกแรงอีกแล้วในจังหวะที่พาเลซถ่ายบอลไปมาหน้าปากเขตโทษก่อนบอลมาถึงเจดินัคจับบอลได้ก่อนส่องด้วยขวาเต็มตีนบอลจะเสียใต้คานอยู่แล้วแต่นายด่านเบลเยี่ยมยังปัดมือเดียวทิ้งออกไปอีกหน
นาที 37 ราฮีมที่วันนี้ดูเงียบๆได้โชว์จนได้เมื่อลากบอลหนีกองหลังพาเลซเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วไหลคืนมาให้ซัวเรซยิงแต่ดันไปลื่นล้มทำให้บอลลอยออกไปไกลพอสมควร
นาที 42 ลิเวอร์พูลบุกมาอีกชุดได้ลุ้นเหมือนกันโดยอัลเลนแทงบอลให้ซัวเรซหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วเจ้าตัวเลี้ยงบอลม้วนกลับมายิงยัดไปที่เสาแรกแต่สเปโรนี่ยังล้มตัวปัดบอลพ้นอันตรายได้หวุดหวิด
กลับเข้าสู่เกมช่วงครึ่งหลัง "ซัวเรซ" โวยวายจะเอาจุดโทษในจังหวะที่เขาทำชิ่งกับสเตอร์ริดจ์เข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนจะโดนแดนน์ชนล้มลงในกรอบจังหวะไม่มีบอลทว่าแคลทเท่นเบิร์กใจแข็งไม่เป่าเป็นการฟาวล์ในจังหวะนี้
นาที 51 "หงส์แดง"น่าได้ประตูนำห่างเหลือเกินในจังหวะสวนกลับเร็วราฮีมจ่ายไปให้สเตอร์ริดจ์พลิกยิงด้วยซ้ายไปติดปลายมือของสเปโรนี่ก่อนบอลไปชนเสากระดอนมาเข้าทางซัวเรซยิงเอาแรงเข้าว่าทำให้บอลไม่ตรงกรอบ
นาที 53 หลังจากชนเสาไปก็เอาจนได้เป็นสเตอร์ริดจ์ที่รับบอลยาวมาจากเจอร์ราร์ดก่อนลากบอลตัดตรงหน้าปากประตูแล้วตวัดยิงด้วยซ้ายบอลไปแฉลบขากองหลังของพาเลซก่อนเปลี่ยนทางผ่านมือของสเปโรนี่เข้าไปซุกก้นตาข่าย
นาที 55 ลิเวอร์พูลมาได้อีกประตูในจังหวะที่ซัวเรซทำชิ่งกับราฮีมก่อนที่จะเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วเป็น"หม่อมกัด"ที่ซัดด้วยซ้ายผ่านสเปโรนี่เข้าไปกองก้นตาข่ายอีกครั้งเป็นประตูที่ 31 ของเขาในฤดูกาลนี้
นาที 67 ลิเวอร์พูลยังคงบุกอย่างต่อเนื่องและเกือบมาได้อีกประตูเมื่อจอห์นสันลากบอลตัดเข้ากลางก่อนตัดสินใจยิงด้วยซ้ายบอลไปตรงตัวของสเปโรนี่ต้องปัดทิ้งออกหลังไปและจังหวะเตะมุมสเคอร์เทลได้โขกแต่ไม่ตรงกรอบ
นาที 76 กองหลังพาเลซทำพลาดแล้วให้สเตอร์ริดจ์หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจะไม่มีมุมยิงเลยส่งกลับหลังไปให้ราฮีมที่เติมขึ้นมาได้ยิงไปติดแดนน์ทำให้บอลกระดอนออกไปไม่ได้ประตู
นาที 79 แต่แล้วพาเลซมาตีไข่แตกจนได้ในจังหวะที่กองหลังของลิเวอร์พูลหลวมไปหน่อยปล่อยให้เดลานี่ย์ได้ยิงไปแฉลบจอห์นสันก่อนบอลพุ่งเข้าเสียบสามเหลี่ยมไปเสียอย่างนั้น
นาที 81 พาเลซมาได้อีกลูกเลยในจังหวะโต้กลับเร็วของโบลาซี่ที่ลากเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนไหลไปให้เกลยิงจังหวะแรกบอลผ่านมือของมิโญเล่ต์เข้าไปเฉยเลย
นาที 88 ท้ายที่สุดหลังจากพาเลซบุกหนักอยู่นานก็มาได้ประตูจนได้และเป็นเกลที่ได้บอลหลุดเข้าไปซัดบอลผ่านมือของมิโญเล่ต์ไปเรียบร้อยทำให้แข้ง"หงส์แดง"ต่างกุมหัวกันหมดแล้วในตอนนี้
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บลิเวอร์พูลมีลุ้นจากลูกขลุกขลิกหน้าปากประตูแต่ทำไม่ได้สุดท้ายลิเวอร์พูลเครื่องช็อตไปดื้อๆโดนพาเลซตีเสมอได้ทำให้ความหวังการเป็นแชมป์ของพวกเขาดูเหมือนจะหลุดลอยไปเรียบร้อยแล้วพร้อมส่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้มีโอกาสเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ในเวลานี้