เจอแบบนี้ส่ายหน้ากันทั้งโลกสำหรับฟอร์มของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไม่เอาอ่าวเลยทั้งเกมรุกเกมรับมาโดนจุดโทษของ "เลห์ตัน เบนส์" ก่อน "เควิน มิราญาส" มายิงประตูซ้ำแผลอีกดอกพ่าย "ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน 2-0 โดนทำลายอีกสถิติแพ้แบบไปกลับให้ "ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน" หนแรกในรอบ 44 ปี
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
สนาม กูดิสัน ปาร์ค
วันที่ 20 เมษายน 2557
กรรมการ มาร์ค แคลตเท่นเบิร์ก
เอฟเวอร์ตัน 2-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดฉากเริ่มเกมมาทั้งคู่ผลัดกันลองบุกและเอฟเวอร์ตันได้โอกาสลองส่องจากการลุยขึ้นมาทางขวาก่อนเปิดเข้ามาในเขตโทษเจอสมอลลิ่งโหม่งเคลียร์เข้าทางบาร์คลี่ย์มาตามเก็บแล้วเลือกซัดเลยแต่บอลก็ยังโด่งหลุดเป้าหมายออกไปไกล
นาที 16 มีจังหวะที่แฟนบอลของ"ท๊อฟฟี๋"อยากได้จุดโทษด้วยเป็นลูกากูพัวพันกับสมอลลิ่งอยู่แล้วบอลมันมาตกใส่แขนจนแฟนบนอัฒจันทร์ร้องแต่แคลตเท่นเบิร์กยังเฉยไม่ได้สนใจ
นาที 19 แล้วก็มีจังหวะแฟนบอลเจ้าบ้านอยากเห็นจุดโทษอีกเป็นบอลเปิดจากขวาเข้ามาด้านใน เนสมิธโฉบมายิงแล้วไปติดอีแวนส์และเหมือนจะโดนแขนแต่แคลตเท่นเบิร์กยังเฉย พอมาดูภาพช้าเหมือนๆจะโดนช่วงผสมกับต้นแขนมากกว่า
นาที 22 โอกาสของเอฟเวอร์ตันมาอีกแล้วเป็นฟรีคิกกลางสนามเปิดยาวขึ้นหน้าไปเลย ถึงลูกากูโหม่งชงกลับมาตรงกลางให้เนสมิธที่ขยับมารอได้แต่น่าเสียดายรีบยิงแล้วบอลปลิ้นหลุดกรอบออกไปไกลลิบเลย
นาที 27 แล้วคราวนี้เกิดจุดโทษขึ้นจนได้เป็น"ท๊อฟฟี่"ที่ได้จากจังหวะโต้กลับของเนสมิธฝากบอลไปให้กับลูกากูทางขวาพักบอลก่อนจะตัดเข้ามาแล้วซัด ทีนี้โจนส์ที่ล้มเสียหลักพยายามจะขวางลูกยิงเลยมีแขนกางมาโดนเต็มเหนี่ยวแคลตเท่นเบิร์กก็แจกจุดโทษให้เจ้าบ้านไป เบนส์รับหน้าที่สังหารก็ไม่พลาด เอฟเวอร์ตันออกนำ 1-0
นาที 35 "ปีศาจแดง"อยู่ในช่วงน่าเป็นห่วงเพราะพยายามจะบุกกดดันมากขึ้นแต่ทำอะไรไม่ได้เลยโอกาสยิงก็ไม่มีจริงๆตั้งแต่เริ่มเกมมาได้ยิงแค่หนเดียวเท่านั้น แอบลุ้นหน่อยก็จังหวะเกือบฉกบอลคืนหลังไม่ดีของรูนี่ย์แต่ก็ไม่ได้อีกดิสแต็งมาตัดกลับไปได้
นาที 40 แมนฯ ยูไนเต็ดดูจะมีปัญหากับการหาจังหวะจบสุดๆเพราะก็ยังไม่มีโอกาสยิงเพิ่มซักที ได้พาบอลไปถึงกรอบเขตโทษเขาแต่ก็ได้แค่เคาะไปมาก่อนจะหาตัวต่อบอลไม่เจอแถมยังไม่ลองยิงไกลอีกกลายเป็นโอกาสเลยไม่มี
นาที 43 บุกแล้วไม่ได้ยิงทำไม่ได้ก็โดนลงโทษไปจากบอลโต้กลับของเจ้าบ้านที่เฉียบขาดเนสมิธกลางสนามออกบอลไปทางขวาให้โคลแมนพาบอลขึ้นมาแล้วไหลตามช่องเข้าเขโต?าให้มิราญาสโฉบมารับบอลก่อนซัดมุมแคบทางซ้ายตรงกรอบ 6 หลาส่งบอลเสียบเสาไกลหมดจดเลย เอฟเวอร์ตันนำห่าง 2-0
นาที 45+2 แมนฯ ยูไนเต็ดมีโอกาสลุ้นประตูเพิ่มซักทีแต่ก็ไม่ได้มาจากนักเตะตัวเองซะอีก เป็นเตะมุมเปิดเข้ามาแล้วแบร์รี่โหม่งเคลียร์แต่บอลมันย้อนหลังหาประตูแทนยังดีตรงตัวฮาเวิร์ด
เข้าสู่เกมช่วงครึ่งหลัง "ทัพผี" พยายามเพิ่มสปีดเกมบุกขึ้นอีกให้มันคึกคักและก็ได้จังหวะซัดไปแล้วจากบอลมาอยู่กับคากาวะหน้าเขตโทษเลือกยิงเข้าไปเลยแต่บอลตรงตัวฮาเวิร์ดเลยโดนเซฟไว้ได้ไม่ยากเย็น
นาที 51 เอฟเวอร์ตันก็ยังมีช่องให้บุกใส่เรื่อยๆเหมือนกัน หนนี้บอลให้โคลแมนทางขวากลางสนามก่อนติดเครื่องลากยาวๆมาเรื่อยๆก่อนพาเข้าเขตโทษไปอีกก่อนจะยิงแต่บอลติดปลิ้นหลุดกรอบไม่ได้ลุ้น
นาที 58 แมนฯ ยูไนเต็ดมาอีกชุดจากมาต้าเลือกออกบอลไปทางซ้ายสุดมีบุตต์เนอร์ขยับมาสูงจนถึงกรอบเขตโทษมีเวลาก็มาตั้งป้อมเปิดบอลยาวไปทางเสาสอง คากาวะรออยู่แต่ด้านหลังสมอลลิ่งก็สอดมาแล้วสุดท้ายแย่งกันโหม่งหน่อยๆก่อนลอยเข้ามือฮาเวิร์ด
นาที 62 โอกาสมีให้ลุ้นฝั่งละทีกลับมาเป็นเจ้าบ้านได้ลองอีกแล้วใช้บอลไดเร็คจากริมเส้นที่มิราญาสจ่ายตามช่องยาวๆขึ้นหน้าให้กับลูกากูโฉบไปรอในเขตโทษก่อนเลือกซัดเลยอัดเสาแรกแต่เด เกอามาดักรอแล้วยังรับเข้าซองได้
นาที 70 เหลือ 20 นาทีสุดท้ายแล้วแต่เกมรุกของแมนฯ ยูไนเต็ดยังหาช่องจบลำบากเหมือนเดิมไปตันเอาหน้าเขตโทษนี่เองทำให้ตอนนี้ได้ยิงไปเพียงแค่ 5 ครั้งเท่านั้น ขณะที่เอฟเวอร์ตันยิงไปแล้ว 12 ที
นาที 77 "ท๊อฟฟี่"ยังมีลุ้นประตูที่สามต่อไปเป็นการขึ้นเกมโดยมิราญาสอีกแล้วติดเครื่องจากริมเส้นขวาลากมายาวๆก่อนจะได้เปิดเข้าเขตโทษย้อนหลังลูกากูยังถึงเนสมิธแต่เหมือนยังไม่ทันตั้งตัวผวายิงหลุดกรอบออกไป
นาที 80 หวิดมีลูกสามให้เจ้าบ้านอีกแล้วจากการตัดบอลได้กลางสนามแล้วพากันสวนขึ้นมาถึงสี่คนขณะที่แนวรับแมนฯ ยูไนเต็ดเหลือสามคน โคลแมนลากมาตรงกลางก่อนจะฝากให้เนสมิธทางซ้ายได้ลองยิงจากหน้าเขตโทษเดือดร้อนเด เกอาต้องพุ่งปัดปลายมือ
นาที 87 "ปีศาจแดง"จะเอาประตูตีไข่แตกก็ไม่ได้อีกเป็นชิชาริโต้เจอรุมหน้าเขตโทษยังเอาอยู่ก่อนไหลให้รูนี่ย์หลุดเข้าเขตโทษมาเดี่ยวๆเลยดวลกับฮาเวิร์ดระยะเผาขนแต่ก็ยังยิงไปโดนซูเปอร์เซฟอีก
สุดท้ายจบเกมแมนฯ ยูไนเต็ดพ่ายเอฟเวอร์ตัน 2-0 ทำให้พวกเขาห่างอาร์เซน่อลอันดับ 4 ที่ 13 คะแนนเหลือการแข่งขันแค่อีก 4 นัดทำให้หมดโอกาสไปแชมเปี้ยนส์ลีกในทางทฤษฎีเรียบร้อยแล้ว
ส่วนเอฟเวอร์ตันยังขับเคี่ยวในเส้นทางลุ้นจบท็อปโฟร์ต่อไปกลับมาไล่หลังอาร์เซน่อลเหลือแต้มเดียวเหมือนเดิม