ผู้เขียน หัวข้อ: ใส่ไม่ยั้ง~!! "เหยินน้อย" กดแฮตทริก "หงส์" พลิกแซง "คาร์ดิฟฟ์" 6-3 CL ใส  (อ่าน 1367 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

เกมนี้เล่นเอาเหล่าบรรดา "เดอะ ค็อป" ใจหายใจคว่ำหลังปล่อยให้ทีมท้ายตารางอย่าง "เดอะ บลูเบิร์ดส์" คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ยิงนำก่อนถึง 2 ครั้ง 2 คราสุดท้ายได้ "หลุยส์ ซัวเรส" ทำแฮตทริกและ "มาร์ติน สเคอร์เทล" เบิ้ลแซงเฮ 6-3 ตามหลัง "สิงห์บลูส์" เชลซี เหลือ 4 แต้มเท่าเดิมแต่โอกาสไปลุยแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นหน้าเริ่มส่อแววมั่นคงในอีก 8 นัดที่เหลือ



พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สเตเดี้ยม
เสาร์ที่ 22 มีนาคม 2557
กรรมการ นีล ชวาร์บริค
คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 3-6 ลิเวอร์พูล

              ออกสตาร์ทมาในช่วงแรก "คาร์ดิฟฟ์" ที่ครองบอลบุกได้ดีกว่าและสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดไปเสียใบเหลืองเร็วด้วยโดยหลังจากนั้นเคเธอรีนมีโอกาสยิงในกรอบเขตโทษจากลูกชุลมุนหน้าปากประตูแต่งัดเยอะไปทำให้บอลข้ามคานออกไปไกล

นาที 9 หลังจากลงไปตั้งรับอยู่แป๊ปเดียวเจ้าถิ่นก็ได้ประตูขึ้นนำเลยโดยเป็นความขยันของแคมป์เบลล์ที่ไปตัดบอลได้ในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจ่ายย้อนกลับไปให้มัตช์จับบอลหนีเจอร์ราร์ดก่อนสับไกไปที่เสาซ้ายมือมิโญเล่ต์ได้แต่ยืนมองเท่านั้น

นาที 16 แต่ลิเวอร์พูลก็มาเอาคืนจนได้หลังจากต่อบอลไปมากันหน้าปากเขตโทษของคาร์ดิฟฟ์อยู่นานแล้วเป็นเฮนเดอร์สันที่แทงทะลุช่องให้จอห์นสันหลุดไปจนสุดเส้นหลังด้านขวาก่อนจ่ายเข้ากลางตามสูตรมาให้ซัวเรซตวัดไม่กี่หลาหน้าปากประตูเข้าไปเป็นประตูที่ 26 ของเขาในพรีเมียร์ลีก

นาที 22 ลิเวอร์พูลเริ่มตั้งหลักได้แล้วดาหน้าบุกอย่างเดียวและเป็นคูตินโญ่ที่ผ่านบอลไปให้เฮนเดอร์สันไหลเร็วไปถึงสเตอร์ริดจ์วางเท้าซ้ายส่งเรียดเข้ากลางประตูแต่ย้อนหลังซัวเรซที่พยายามวิ่งเข้าฮอร์สไปนิดเดียวทำให้บอลค่อยๆกลิ้งออกหลังไป

นาที 24 คาร์ดิฟฟ์ไม่ยอมปั้นเกมขึ้นมาบ้างโดยเป็นทางเบลลามีที่ลากบอลยึกยักด้านขวาก่อนจะครอสอย่างสวยเข้าไปตรงกลางมีแคมป์เบลล์เหินทะยานฟ้ามาโขกเต็มกบาลแต่โดนสเคอร์เทลเบียดเอาไว้ทำให้บอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 25 แต่แล้วคาร์ดิฟฟ์มาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ฟาบิโอจ่ายทะลุช่องไปให้แคมป์เบลล์เลี้ยงหลบแอ็กเกอร์ทีเดียวหายก่อนซัลโวด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงาม

นาที 34 "หงส์แดง"เล่นเตะมุมสั้นระหว่างคูตินโญ่กับอัลเลนก่อนที่มิดฟิลด์ชาวเวลส์จะพลิกบอลได้ในกรอบเขตโทษด้านขวาแต่จังหวะยิงทำได้ไม่ดีเบาหวิวแถมยังไม่ตรงกรอบชนิดที่แฟนเจ้าถิ่นร้องเฮเยาะเย้ยกันสนั่น

นาที 37 สเตอร์ริดจ์มาทำเกมเสียอีกแล้วเมื่อลิเวอร์พูลกำลังต่อบอลกันดีๆฟลานาแกนวิ่งทำทางไปแล้วตรงริมเส้นด้านซ้ายแต่ไม่ยอมไหลให้ก่อนจะลากเข้าหากองหลังของคาร์ดิฟฟ์ 3 ตัวแล้วยิงยัดไปเลยทำให้บอลไปเข้ามือของมาร์แชลล์สบายๆ

นาที 41 ทว่า"หงส์แดง"ก็ไม่ยอมตายง่ายๆและมาได้ประตูตีเสมอเมื่อคูตินโญ่ได้บอลตรงริมเส้นด้านขวาในจังหวะต่อเนื่องจากจังหวะเตะมุมแล้วเปิดเข้ากลางกองหลังของคาร์ดิฟฟ์ยืนกันเพียงแต่คนที่โดนบอลคือสเคอร์เทลที่วิ่งมาเอาตีนถีบเข้าไปตุงตาข่าย

นาที 45+2 ลิเวอร์พูลทำชิ่งกันสวยอีกแล้วเป็นจังหวะที่ซัวเรซฝากบอลไปให้อัลเลนก่อนต่อให้จอห์นสันทำชิ่งกลับไปให้"หม่อมกัด"อีกครั้งแต่มาร์แชลล์ออกมาเร็วและคอลเกอร์ก็ช่วยเบียดแล้วเตะบอลทิ้งก่อนที่ซัวเรซจะได้ลั่นไกทำประตู

            กลับมาเข้าสู่ช่วงครึ่่งหลัง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล มีลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่สเตอร์ริดจ์พยายามเลี้ยงบอลฝ่าเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่โดนเตะล้มลงก่อนทำให้ซัวเรซรับหน้าที่สังหารฟรีคิกจังหวะแรกไปติดกำแพงส่วนจังหวะสองก็โดนบล็อคออกหลังไปอีกครั้ง

นาที 54 และจากจังหวะเตะมุมนี่เอง"หงส์แดง"ได้ประตูขึ้นนำเป็นครั้งแรกของเกมเมื่อคูตินโญ่เปิดเตะมุมมาทางเสาแรกมีสเคอร์เทลที่สลัดหนีคอลเกอร์ได้เทกตัวขึ้นโขกไปทางเสาไกลบอลตกลงพื้นก่อนเข้าไปซุกก้นตาข่ายเป็นประตูที่สองของเขาในนัดนี้

นาที 60 ภายหลังจากครองบอลอยู่พักใหญ่ลิเวอร์พูลก็มาได้อีกประตูเมื่อจอห์นสันลากหลุดมาสุดเส้นด้านขวาก่อนจ่ายเข้ากลางไปติดกองหลังคาร์ดิฟฟ์แล้วสเตอร์ริดจ์ที่หันหลังให้ประตูตอกส้นเข้ากลางมี"หม่อมกัด"วิ่งเข้ามาพอดียิงเสียบเสาแรกไม่เหลือซากเป็นประตูที่ 27 ของเขาแล้ว

นาที 70 เกมเหลืออีกเพียง 20 นาทีเป็นทางทีมเยือนที่ครองบอลบุกได้เกือบหมดและร็อดเจอร์สส่งราฮีม สเตอร์ลิ่งลงสนามมาแทนคูตินโญ่ที่ทำไปสองแอสซิตส์ในวันนี้ออกจากสนามด้านโซลชาร์ก็ส่งเคนวิน โจนส์ลงเป็นไพ่ใบสุดท้ายมาแทนเบลลามีที่เริ่มหมดแรง

นาที 75 คู่หูSASผสานงานกันอย่างลงตัวอีกครั้งโดยเป็นจังหวะเริ่มแรกของจอห์นสันโยนยาวมาจากแดนหลังคอลเกอร์โขกไม่ดีทำให้ซัวเรซเก็บบอลได้กระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วไหลเข้ากลางที่สเตอร์ริดจ์วิ่งมารออยู่แล้วยิงเข้าไปง่ายๆเลย

นาที 88 เกมเหมือนจะจบอยู่แล้วแต่คาร์ดิฟฟ์มายิงได้อีกประตูเมื่อโจนส์โขกบอลตั้งให้มัตช์วิ่งเข้ามาชาร์จบอลพุ่งกองก้นตาข่ายทำให้แฟนเจ้าถิ่นยังมีหวังอยู่ลึกๆ

นาที 90+6 ก่อนหมดเวลาลิเวอร์พูลมายิงได้อีกประตูเป็นลูกแฮตทริกของซัวเรซที่ไปเบียดกาล่าเหมือนจะฟาวล์แต่ได้บอลมาก่อนลากเข้าไปล่อเป้ามาร์แชลล์ทำให้เป็นประตูที่ 28 ของเขาแล้ว

อย่างไรก็ตามเมื่อจบเกม"หงส์แดง"เป็นฝ่ายบุกมาคว้า 3 แต้มออกจากแอนฟิลด์ไปได้พร้อมขยับตามหลังเชลซีเหลือ 4 แต้มตามเดิมก่อนเจอซันเดอร์แลนด์ในเกมกลางสัปดาห์ส่วนคาร์ดิฟฟ์โอกาสอยู่รอดน้อยลงไปอีก
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา