"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมนี้ตอนแรกคิดว่าจะปล่อยผ่านซะแล้วที่ไหนได้ต่อให้ก่อนซะงั้นเมื่อถือคติเสียเท่าไหร่ยิงให้มากกว่าล่าสุดพลิกสถานการณ์หลังตาม "วัตฟอร์ด" 2-0 ในครึ่งแรกสุดท้ายได้ "แซร์จิโอ เอวเกรโร่" สวมบทพระเอกสุดหล่อซัดแฮทริคไล่ปาดหน้าถล่ม 4-2 ฉลุยรอบ 5 แบบแฟนบอลนั่งกัดเล็บขบร่วมหนึ่งชั่วโมงเต็ม
เอฟเอ คัพ รอบ 4
วันเสาร์ที่ 25 มกราคม 2557
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-2 วัตฟอร์ด
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม เปิดฉากเริ่มเกมมาทีมเยือน "วัตฟอร์ด" เป็นฝ่ายได้ลุ้นก่อนเลยในจังหวะฟรีคิกที่เดมิเคลิสไปทำฟาวล์ใส่ฟอเรสติเอรี่ซึ่งดาวยิงอาร์เจนไตน์ลุกขึ้นมาสังหารเองแต่บอลก็หลุดเสาซ้ายมือออกไปไม่ได้ลุ้นเลย
นาทีที่ 11 ซิตี้เกือบได้ประตูขึ้นนำโดยเริ่มจากเตะมุมของนาบาสที่มาตกใส่โคลารอฟปาดเข้าไปหน้าปากประตูแต่กลับไม่มีใครเข้าโดนบอลไม่งั้นน่าจะตุงตาข่ายไปเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ดีกองเชียร์เจ้าถิ่นถึงกับเงียบกริบเลยในนาทีที่ 21 โดยเป็นจังหวะที่ดีนี่ย์ต่อบอลไปถึงฟอเรสติเอรี่ที่เอาชนะเดมิเคลิสเพื่อนร่วมชาติก่อนยิงด้วยขวาผ่านปานติลิม่อนเข้าประตูไปแบบสุดช็อค
รูปเกมของซิตี้วันนี้ดูเหมือนจะทำอะไรไม่ได้เลยและอีก 9 นาทีถัดมาก็ต้องมาเสียประตูไปอีกจากจังหวะที่อันย่าเปิดบอลเข้ากลางแล้วดีนี่ย์วิ่งมาจากด้านหลังเดมิเคลิสแล้วแหย่บอลถึงก่อนแปด้วยขวาผ่านปานติลิม่อนเข้าไปตุงตาข่ายแบบหมดจด
เกมของ"เรือใบสีฟ้า"แทบไม่ดีขึ้นโดยดูเหมือนจะมีเพียงนาบาสที่วูบวาบบริเวณริมเส้นขวาอยู่คนเดียวและก็เกือบจะมาโดนอีกดอกในจังหวะที่ดีนี่ย์ได้ลูกโต้กลับก่อนจะสับไกไปเข้าข้างตาข่ายนิดเดียวเท่านั้นก่อนจะจบครึ่งแรกกันแบบที่กองเชียร์เจ้าถิ่นต้องเงียบกริบ
ต่อมาในช่วงครึ่งหลัง "เปเญกรินี่" มองเห็นชัดเจนว่าเกมรับของทีมนั้นเป็นปัญหาทำให้ต้องเปลี่ยนแวงซ็องต์ กอมปานีและปาโบล ซาบาเลต้าลงสนามมาแทนไมก้าห์ ริชาร์ดส์และแจ็ค ร็อดเวลล์ที่เล่นไม่เอาไหนออกไปตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง
นาทีที่ 50 "เรือใบสีฟ้า"ได้โอกาสก่อนเลยจากลูกฟรีคิกที่นาบาสเปิดมาให้โคลารอฟสะกิดบอลเข้าไปหน้าปากเขตโทษแต่ว่าไม่มีใครที่เข้าถึงบอลทำให้วัตฟอร์ดรอดตัวไม่เสียประตูในจังหวะนี้
เปเญกรินี่ตัดสินใจเปลี่ยนเอาโยเวติชมาแทนโลเปสอีกคนแล้วการบุกของซิตี้ก็เป็นผลทันทีเมื่อโคลารอฟเปิดบอลเข้ากลางอย่างสวยเชโก้สไลด์ถึงบอลแต่บอนด์เซฟได้ก่อนในจังหวะแรกทว่ากุนยังจมูกไวเข้ามาตามซ้ำไปไม่เหลือซากท่ามกลางเสียงเชียร์ของแฟนๆ
"เรือใบสีฟ้า"ยังดาหน้าบุกอย่างต่อเนื่องและเดมิเคลิสที่เติมขึ้นมาทำเกมรุกด้วยไปโดนทำฟาวล์หน้าปากเขตโทษทำให้เชโก้ได้โอกาสยิงฟรีคิกแต่ก็ยังไม่ผ่านมือของบอนด์โดยสถานการณ์ตอนนี้วัตฟอร์ดลงไปตั้งรับลึกอย่างเดียวเลย
แต่แล้วนาทีที่ 79 กองเชียร์ในเอติฮัด สเตเดี้ยมก็ร้องกันเสียงหลงเมื่อกุนแผลงฤทธิ์อีกแล้วโดยเขาได้บอลตรงกรอบเขตโทษก่อนลากเข้าไปยิงด้วยซ้ายเต็มตีนเตี่ยบอลพุ่งเสียบมุมประตูเข้าไปแบบสุดเด็ดขาดทำให้สถานการณ์กลับมาเท่ากันหมดแล้วในตอนนี้
ในที่สุดสาวก"เรือใบสีฟ้า"ก็ได้เฮกันสนามแทบแตกจากจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุมบอลมาตกใส่เท้าของโคลารอฟซัดด้วยอีซ้ายเปรี้ยงจากระยะ 35 หลาบอนด์น่าจะเซฟได้แต่บอลกลับผ่านขาเขาแล้วผ่านเข้าประตูไปเลย
และนาทีสุดท้ายนาบาสได้เปิดบอลจากริมเส้นด้านซ้ายมาเข้าหัวของกุนที่โขกสะบัดผ่านบอนด์เข้าไปทำให้ตอนนี้เกมจบแล้ว"เรือใบสีฟ้า"พลิกสถานการณ์ยิงทีเดียว 4 ประตูผ่านเข้ารอบ 5 แบบต้องลุ้นเหนื่อยเลย