ผู้เขียน หัวข้อ: ลองเชิง~!! "ปืน" ไฟว้ "สิงห์" เจ๊ากลางฝน 0-0 ขึ้นรองจ่าฝูง  (อ่าน 913 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายในกรุงลอนดอน "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เปิดศึกไฟ์โตน้ำเงินคราม" เชลซีแบบเสียบกันมันส์กว่าหาจังหวะยิงประตูก่อนจับมือต้มไข่เจ๊ากันไป 0-0 ไม่เสียสุขภาพทั้งสองฝ่ายส่งให้"ปืนใหญ่"เก็บ 1 แต้มขึ้นมาเท่าลิเวอร์พูลจ่าฝูงแต่เป็นรองลูกได้เสีย



พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2556
อาร์เซน่อล 0-0 เชลซี
สนาม เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม

            ออกสตาร์ทเกมช่วงครึ่งแรกโอกาสแรกเป็นของเชลซีที่ต่อบอลกันอย่างช้าๆก่อนแทงไปทางฝั่งซ้ายให้อัซปิลิกวยต้าหลุดไปจนถึงเส้นหลังแล้วตบกลับมาตรงกลางให้แลมพาร์ดยิงจังหวะแรกเลยไปติดบล็อคแบ็คสเปนพยายามตามมาเล่นก็ล้ำหน้าไปเรียบร้อยแล้ว

เกมผ่านมาครบ 15 นาทีแล้วทั้งสองฝั่งยังไม่มีโอกาสยิงกันเลยโดยพยายามเคาะบอลไปมาแต่จังหวะผ่านบอลสุดท้ายหน้าปากประตูยังไม่เฉียบขาดทำให้กองหลังแต่ละฝั่งยังดักเอาไว้ได้ตลอดโดยทั้งคู่ครองบอลได้พอๆกัน

ไม่น่าเชื่อว่าผ่านมากว่า 25 นาทีแล้วทั้งสองทีมยังแทบไม่มีจังหวะทำประตูจะแจ้งกันเลยโดยอาร์เซน่อลมาได้ลุ้นจากจังหวะฟรีคิกระยะ 40 หลาที่แรมซี่ย์ตักไปในกรอบเขตโทษแต่ก็ไม่มีใครเข้าถึงรวมทั้งจังหวะที่ซานญ่าลากบอลไปตรงกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนผ่านเข้ากลางก็โดนเคฮิลล์ล้มตัวเตะออกหลัง

นาทีที่ 27 เชลซีมีลุ้นอีกครั้งเมื่อพยายามทำเกมกันขึ้นมาทางด้านขวาแล้วอิวาโนวิชหยอดจากนอกกรอบเขตโทษมาตรงหลางให้รามิเรสขึ้นโขกคนเดียวทว่าก็ยังกดบอลไม่ลงเหินข้ามคานออกไปเยอะพอสมควร

ยิงเล่นยิ่งใกล้เคียงขึ้นเรื่อยๆสำหรับเชลซีเมื่อเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 32 แล้วแลมพาร์ดกับอาซาร์ทำชิ่งกันอยู่หน้าปากเขตโทษก่อนทีมเบลเยี่ยมตักบอลมาให้แลมพาร์ดได้ยิงเต็มข้อบอลผ่านมือของเชสนี่ไปแล้วแต่ไปชนคานสนั่นแล้วตกลงมากระทบพื้นไม่เข้าไปในเส้นประตูอย่างน่าเสียดาย

ช่วงท้ายครึ่งแรกอาร์เซน่อลได้บุกเพลินไปหน่อยก่อนที่แรมซี่ย์จะเห็นตอร์เรสเป็นเพื่อนทีมเดียวกันเลยจ่ายไปให้เชลซีได้โต้กลับเร็วมาทางวิลเลี่ยนริมเส้นด้านซ้ายก่อนปีกบราซิลกระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วสับทันทีทว่าก็ยังไปเข้าซองของเชสนี่ที่ล้มตัวเซฟเอาไว้

เหลือเชื่อตริงๆที่จังหวะยิงครั้งแรกของ"ปืนใหญ่"มาเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรกซึ่งเป็นโอซิลวอลเล่ย์นอกกรอบระยะราว 20 หลาแต่เคฮิลล์ยังพุ่งทั้งตัวไปบล็อคเอาไว้โดยมิดฟิลด์เยอรมนีพยายามฟ้องว่าบอลโดนแขนแต่ก็ไม่เป็นผล

              ลงสนามมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลัง "สิงห์บลูส์" ยังดักสวนกลับได้น่ากลัวอยู่หลายครั้งแต่ดีเด็ดทีขาดหน้าประตูยังไม่มีเหมือนเดิมโดยจังหวะใกล้เคียงเป็นตอนที่วิลเลี่ยนลากบอลมาจากริมเส้นฝั่งซ้ายแล้วตบเข้ากลางจะให้รามิเรสทว่าย้อนหลังบอลเลยไปเข้าทางอาซาร์จับบอลยาวเกินไปทำให้ไม่ได้ยิงแล้วบอลออกหลังไปเลย

เกมผ่านมาครบชั่วโมงแล้วเริ่มมีการเข้าบอลหนักขึ้นเรื่อยๆและจังหวะนี้เป็นคราวของรามิเรสที่พุ่งเข้ายันอาร์เตต้าแบบเต็มๆทำให้นักเตะทั้งสองฝ่ายจะมามุงด้วยความไม่พอใจก่อนที่กรรมการจะควักใบเหลืองให้มิดฟิลด์บราซิลเลี่ยนเป็นของกำนัลคนแรกก่อนวันคริสต์มาส

ยังคงเป็นเชลซีที่มีโอกาสมากกว่าอย่างชัดเจนและอิวาโอวิชเปิดบอลมาจากแดนตัวเองให้ตอร์เรสโหม่งตั้งอยู่หน้าปากเขตโทษระยะราว 20 หลาก่อนจะเป็ยแลมพาร์ดวิ่งเข้ามาไม่คิดมากยิงทันทีทว่าเชสนี่ก็ยังล้มตัวรับเอาไว้ได้สบายๆ

เกมเริ่มเดือดปุดๆอีกแล้วโดยเป็นจังหวะทุ่มด้านซ้ายที่กิ๊บบ์สทุ่มมาให้โอซิลก่อนที่อิวาโนวิชจะเหยียดขามาถีบบอลบริเวณหน้าของเพลย์เมคเกอร์เยอรมนีก่อนทั้งสองคนจะมีปากเสียงกันแถมใช้หัวดันกันไปมาก่อนนักเตะทั้งสองฝ่ายต้องเข้ามาห้ามทัพเป็นการใหญ่อีกรอบ

โอกาสทองของเจ้าถิ่นมีขึ้นในจังหวะโต้กลับที่แรมซี่ย์หยอดบอลมาจากกลางสนามให้ชิรูด์หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนซัดด้วยซ้ายข้างถนัดทว่าโดนไม่ดีบอลปลิ้นก่อนออกหลังไปอย่างน่าเสียดายทั้งที่เขาน่าจะยิงได้ดีกว่านั้นเยอะ

นาทีที่ 84 อาร์เซน่อลมีโอกาสเลยเมื่อกิ๊บบ์สได้บอลทะลุช่องจากโรซิชกี้เข้าไปเปิดในกรอบเขตโทษด้านซ้ายให้ชิรูด์วิ่งเข้ามายิงตามน้ำแต่ต้องชมเช็คเลยที่ปิดมุมได้ไวก่อนบล็อคบอลทิ้งออกหลังไปได้ท่ามกลางความเสียดายจากเหล่าสาวก

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บอาร์เซน่อลมาได้ลุ้นอีกจากจังหวะเตะมุมด้านขวาที่เปิดมาทางเสาไกลให้ซานญ่าได้โขกกดลงพื้นแต่อัซปิลิกวยต้าที่ยืนคุมเสาอยู่ยังไม่หลับเตะทิ้งออกหลังไปได้ก่อนที่"ปืนใหญ่"จะได้เตะมุมอีกครั้งแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนเดิม

หลังจากแฟนบอลยืนดูเกมด้วยความเซ็งมา 90 นาทีก็ได้กลับไปนอนฝันดีพร้อมกับการแบ่งแต้มของทั้งสองทีมทำให้อาร์เซน่อลแซงแมนเชสเตอร์ ซิตี้มาเป็นรองจ่าฝูงมี 36 คะแนนเท่าลิเวอร์พูลส่วนเชลซียึดอันดับ 4 มี 34 แต้ม
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา