เกมนี้บอกได้เลยว่า "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังโชคดีที่เก็บผลเสมอกลับบ้านไปได้เพราะว่าโดนไล่กวดทั้งเกม ถึงแม้ว่าจะเป็นฝ่ายที่ได้ขึ้นนำก่อนจาก "เซอร์จิโอ อเกวโร่" แต่เจอตีเสมอจากประตูสุดสวยของ "ปาโบล ออสวัลโด้" ทำให้ "เรือใบ" ได้แค่เจ๊า "นักบุญ" เซาท์แธมป์ตัน 1-1 ร่วงลงไปอยู่อันดับ 4
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม
วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2556
เซาท์แธมป์ตัน 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เริ่มเกมมาในช่วงครึ่งแรกในนาที 6 "นักบุญ" เซาท์แธมป์ตัน ได้โอกาสทักทาย ลุค ชอว์รับบอลจากแดนกลางแล้วเปิดเข้าเขตโทษ อดัม ลัลลาน่าโขกชงให้สตีเว่น เดวิสฮาล์ฟวอลเลย์ตรงหัวกระโหลก บอลเฉียดเสาออกไปไม่ห่างนัก
นาที 10 ซิตี้ได้ประตูนำจากการต่อเกมอย่างสวยงามตามคอนเซปต์ดิ เอ็นจิเนียร์ ซามีร์ นาสรี่เลี้ยงไต่เส้นฝั่งซ้ายแล้วจ่ายขึ้นหน้าให้อเล็กซานดาร์ โคลารอฟวิ่งไปเปิดหักเข้ากลาง บอลหลุดผู้เล่นหลายคนมาถึงเซอร์จิโอ อเกวโร่ ‘กุน’ตวัดยิงด้วยซ้ายตุงตาข่ายอย่างเฉียบคม ทีมเยือนฟอร์มแรงเหลือเกินบุกนำก่อน 1-0
นาที 20 เซาท์แธมป์ตันได้ลุ้นตีเสมอ เจมส์ วอร์ด-พราวส์เปิดเตะมุมฝั่งขวา บอลโค้งเห็นๆเข้าหัวเดยัน ลอฟเรนโขกกดลงพื้นแต่ไม่ตรงกรอบ ต่อด้วยโอกาสยิงไกลในนาที 29 จากเท้าขวาของแจ็ค คอร์ค แต่คอสเตล ปันติลิม่อนล้มตัวรับไว้ได้สบายๆ
ถ้าเป็นคนอื่นยิงพลาดอาจจะพอเข้าใจได้แต่นี่เป็นการยิงของกุนเลยน่าผิดหวังหน่อยๆ นาที 31 ปาโบล ซาบาเลต้าตะลุยขึ้นมาทางขวาแล้วเปิดหักเข้ากลางให้กุนวิ่งมาแปด้วยขวาเหินข้ามคานไปอย่างน่าผิดหวัง
แนวรับซิตี้สมาธิยังหลุดง่ายเหมือนเคย นาที 37 เซาท์แธมป์ตันน่าตีเสมอได้สุดๆ ชอว์เติมขึ้นมาเปิดบอลเข้าจุดกั๊กระหว่างแนวรับกับผู้รักษาประตูจนเลยไปเสาสอง คาลั่ม แชมเบอร์ส แบ็คขวาดาวรุ่งเติมขึ้นมาโขกเหน่งๆเฉียดเสาอย่างน่าเสียดาย อีกครั้งในนาทีถัดมาจากจังหวะยิงไกลของวอร์ด-พราวส์ บอลพุ่งตรงกรอบได้เสียวแต่ปันติลิม่อนไม่เสียวด้วย ล้มตัวรับติดหนึบอีกครั้ง
ประตูนี้คุ้มค่าตัวแล้วสำหรับปาโบล ออสวัลโด้หลังรับบอลจากลุค ชอว์แล้วกระชากเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายแตะหลบซาบาเลต้า ก่อนล็อคหนีแว็งซ็องต์ กอมปานีไปทางซ้าย ซาบาเลต้าตามมาขวางเลยเจอออสวัลโด้ล็อคกลับออกนอกแล้วปั่นโค้งเน้นๆด้วยขวา บอลลอยเสียบสามเหลี่ยมเสาสองอย่างสุดงามชนิดความสูง 203 เซนติเมตรของปันติลิม่อนไร้ความหมายไปเลย เป็นประตูที่เพอร์เฟกต์เกินคำบรรยายจริงๆช่วยให้ทีมตีเสมอได้สำเร็จในนาที 42
นาทีสุดท้ายครึ่งแรกซิตี้ได้ลุ้นเล็กๆ เจมส์ มิลเนอร์แตะหนีชอว์แล้วเปิดโด่งไปเสาสอง นาสรี่วิ่งมาซัดตูมเดียวด้วยซ้าย บอลพุ่งข้ามคานไปไกล
จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1-1 แต่ไม่น่าเชื่อว่าเซาท์แธมป์ตันครองบอลเหนือกว่าซิตี้ด้วยสถิติ 61%-39% ทั้งที่ขาดผู้เล่นตัวหลักหลายคน
กลับมาเล่นกันต่อในนาทีที่ 51 "เรือใบ" ได้ลุ้นก่อนในครึ่งหลัง ยาย่า ตูเร่ที่ครึ่งแรกเงียบๆลากตะลุยถึงหน้าเขตโทษไถผ่านทั้งเพื่อนทั้งแนวรับเซาท์แธมป์ตันทั้งกรรมการจนเห็นช่องยิงแล้วปั่นด้วยขวาหน้าเขตโทษ บอลโค้งแต่ไม่พอเฉียดเสาไปนิดเดียว
นาที 53 เซาท์แธมป์ตันน่าขึ้นนำอย่างยิ่ง บอลยาวจากแดนกลางเข้าเขตโทษ ลัลลาน่าวันนี้ลูกกลางอากาศเด่นมาก เบียดชนะมาร์ติน เดมิเคลิสโหม่งชงให้โรดริเกซแตะเข้าเขตโทษแล้วจิ้มด้วยขวาแต่ติดบล็อคปันติลิม่อนที่ออกมาเร็ว บอลกระฉอกเข้าทางออสวัลโด้กะย้ำรอยแค้นปั่นด้วยขวาอีกครั้งแต่ลืมดูหลอดพลัง บอลโค้งข้ามคานไปไหนไม่รู้
ไม่ใช่เบี้ยวไม่จ่ายเงินแต่เป็นเท้าของออสวัลโด้ที่เริ่มยิงไม่ตรงแล้ว หลังได้โอกาสซัดเต็มเท้าซ้ายในนาที 58 จากจังหวะพลาดมหันต์ของกอมปานีแต่บอลหลุดเสาสองไปไกล ส่วนปันติลิม่อนไม่รู้เลียนแบบตัวละครในการ์ตูนอะไรหรือเปล่า ลูกยิงจากนอกเขตโทษไม่ยอมปล่อยให้เข้าเลยหลังรับลูกยิงไกลของเดวิสได้อีกครั้งในนาที 60
เซาท์แธมป์ตันวันนี้รุกหลากหลายดีเหลือเกินและได้โอกาสอีกครั้งในนาที 64 วอร์ด-พราวส์เปิดเตะมุมแม่นอีกแล้วเข้าหัวโรดริเกซสะบัดโหม่งแต่มากไปหน่อย บอลเลยหลุดกรอบออกไป
นาที 76 ซิตี้ขอโอกาสบ้างอะไรบ้าง กุนรับลูกจ่ายไต่เส้นฝั่งซ้ายก่อนลากจี้เข้าเขตโทษหลอกจะตัดเข้าในแล้วตบไปที่ว่างข้างหน้าให้โคลารอฟตะบึงขึ้นมายิงเรียดด้วยซ้าย บอลพุ่งเข้าหน้าต่างออกหลังไป
จบเกมเป็นอันว่าแมนฯซิตี้เสมอเซาท์แธมป์ตัน 1-1 ตกลงมาอยู่อันดับ 4 ส่วนเจ้าบ้านรั้งอันดับ 8 เช่นเดิม