ผู้เขียน หัวข้อ: "อัสไซดี้" เหนี่ยวไกลท้ายเกม~!! "สิงห์บลูส์" สิโรราบ "หม้อ" สุดระทึก 3-2  (อ่าน 1028 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

"สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี เกมนี้เจอทีเด็ดไปต้องยอมสิโรราบเลยทีเดียวหลังจากที่อุตส่าห์ออกนำไปก่อนตั้งแต่ไก่โห่และจะโดนยิงแซงยังได้ "อันเดร ชูร์เล่" กดเบิ้ลให้พวกเขาตีเสมอได้ก่อนนาทีสุดท้ายมาเจอทีเด็ดของ "อุสซาม่า อัสไซดี้" ดาวยิงอียืมจาก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่เป็นตัวสำรองลงมาเหนี่ยวตั้งแต่ไกลแบบงามหยดในนาทีสุดท้ายช่วยแซงคว้าชัยได้แบบระทึก 3-2 โดนเบียดลงมาอยู่อันดับ 3 แล้วแถม "ช่างปั้นหม้อ" ยังมีชัยเหนือ "สิงห์บลูส์" หนแรกในลีกรอบ 38 ปีด้วย



ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
สนาม บริทาเนีย สเตเดี้ยม
วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม 2556
สโต๊ค ซิตี้ 3-2 เชลซี

           ออกสตาร์ทเกมมาโอกาสแรกเป็นของ "สิงห์บลูส์" จากบอลที่ชูร์เล่โฉบพาบอลตัดจากแข้งสโต๊คมาได้ลากเข้าเขตโทษทางขวาก่อนปาดกลับเข้ากลางให้รามิเรสที่วิ่งตามมายิงแบบไม่ต้องจับแต่สุดท้ายข้ามคานออกหลังไป

แล้วนาทีที่ 10 "สิงห์บลูส์"ทะยานออกนำไปเรียบร้อยแล้วจากบอลกลางสนามมิเกลฝากมาให้กับชูร์เล่ข้างหน้าล็อกหลอกโยกหนีชอว์ครอสก่อนหนแรกแล้วก็โยกชอว์ครอสคนเดิมอีกทีก่อนกดด้วยซ้ายจากหน้าเขตโทษส่งบอลผ่านมือเบโกวิชเข้าไปตุงตาข่าย เชลซีนำเรียบร้อย 1-0

เล่นมาไม่ถึง 20 นาที"ช่างปั้นหม้อ"เจอข่าวน่าเซ็งเพิ่มขึ้นอีกเพราะอดัมดันไปเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวแล้วโดนเปลี่ยนออกจากสนามไปให้ไอร์แลนด์ลงสนนามาแทน

สโต๊คทำเกมบุกใส่เหมือนกันแต่โอกาสจะยังไม่มาก่อนเชลซีได้ลุ้นอีกแล้วด้วยบอลขึ้นทางขวาฝากมาให้ตอร์เรสแต่ไปไม่รอดเจอสกัดอยู่ก่อนมูเนียซ่าจะจ่ายพลาดไปเข้าทางชูร์เล่ซะงั้นเบิ้ลจังหวะเดียวมาหน้าเขตโทษให้กับรามิเรสแต่งเข้าซ้ายแล้วยิงข้ามคานไปเอง

เข้านาที 37 แล้วโอกาสได้พอหวาดเสียวเล็กๆของเจ้าบ้านเพิ่งมาจากเอ็นซองซี่หลบมาสวยก่อนฝากไปทางซ้ายให้อาร์เนาโตวิชขยับขึ้นมารับบอลริมกรอบเขตโทษก่อนเปิดเข้ากลางบอลยาวไปถึงเสาไกลให้วอลเตอร์สได้โหม่งก่อนหลุดกรอบไปเอง

โอกาสของเชลซีถือว่ามาเรื่อยๆหนนี้เป็นการโต้กลับบ้างตัดบอลได้กลางสนามรามิเรสพาบอลขึ้นมาเองจนถึงหน้าเขตโทษมีเพื่อนวิ่งเติมทั้งซ้ายทั้งขวาแต่ตัดสินใจขอยิงเองเลยสุดท้ายตรงตัวของเบโกวิช

ก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาทีเชลซีเซ็งกันไปหลัง"ช่างปั้นหม้อ"ตามตีเสมอได้สำเร็จจนได้จากบอลเตะมุมทางซ้ายเปิดโด่งมาแล้วชอว์ครอสที่โฉบไปจะโหม่งแต่ไม่ถึงทำให้บอลมันมาตกเท้าของเคราช์จับได้ก็ยิงสวนเข้าไปเช็คตั้งตัวไม่ทันตั้งตัวคุมปากประตูจะสกัดก็ไม่ทันอีกผ่านเข้าไปจนได้ สโต๊คตีเสมอเป็น 1-1 แล้วจบด้วยสกอร์นี้
 
             ลงสนามมาเล่นกันในช่วงครึ่งหลังได้ 5 นาที "ช่างปั้นหม้อ" พลิกออกนำหน้าตาเฉยจากบอลโยนมาทางริมเส้นขวาแล้ววอลเตอร์สเบียดอัซปิลิกวยต้านิดนึงล้มลงไปไร้เสียงนกหวีดก่อนวอลเตอร์สจะเป็นคนพาบอลไต่ริมเส้นขึ้นมาเองก่อนจะฝากไปหน้าเขตโทษให้กับไอร์แลนด์เล็งก่อนปั่นด้วยขวาส่งบอลโค้งเสียบโคนเสาไกลหมดจดขิงๆ สโต๊คแซงนำ 2-1

แต่"สิงห์บลูส์"ก็ยังฟื้นกลับมาได้ไวให้หลังไม่กี่นาทีไล่ตามตีเสมอได้เรียบร้อยจากฟรีคิกระยะไกลที่มาต้าหยอดเข้าเขตโทษไปโดนสกัดออกมาแต่ไม่ดีเข้าทางปืนของชูร์เล่หน้าเขตโทษวิ่งมากดด้วยซ้ายเต็มเท้าบอลเรียดแต่พุ่งแรงจนเบโกวิชล้มปัดไม่ทันจริงๆส่งเชลซีไล่เจ๊า 2-2 เรียบร้อย

เกือบมีประตูออกนำให้เชลซีไปแล้วในจังหวะที่ตอร์เรสได้บอลหน้าเขตโทษทางขวาเลือกยิงอัดเข้ามาติดบล็อกแต่บอลยังเข้าทางก็เบิ้ลฝากให้กับชูร์เล่ยืนพิงกับแนวรับสโต๊คพลิกเข้าขวาได้ก็จัดการซัดซะเลยแต่แม่นเกินบอลโค้งผ่านเบโกวิชก่อนชนคานอย่างจังยังไม่กลับมานำ

เจ้านาที 67 แล้วน่าเป็นประตูให้สโต๊คออกนำจริงๆเลยจากบอลมาทางซ้ายของเอ็นซองซี่ไม่จ่ายให้ไอร์แลนด์ทีแรกกลัวล้ำหน้าก็เลยดึงรอก่อนแล้วเลือกเปิดเข้าไปทีหลังให้เคราช์ที่วิ่งสอดเข้ามาพักออกเอาบอลลงได้ก่อนดีดให้ไอร์แลนด์ไม่ล้่ำหน้ายืนโล่งๆแต่จังหวะยิงซัดหลุดสามเหลี่ยมออกไปเองแบบน่าเสียดายแทน

โอกาสของเชลซีมาอันซักทีจากอาซาร์ลากเลี้ยงตัดเข้าในมาแล้วฝากบอลไปในเขตโทษให้กับเอโต้ดีดไขว้ต่อถึงเพื่อนแต่ไม่ได้ยิงกลับมาถึงเท้าเอโต้รีบยิงไปนิดส่งบอลไหลเอื่อยๆไปหลุดเสาไกล

เข้าช่วง 10 นาทีสุดท้ายแล้วเชลซีได้ฟรีคิกในหัวกะโหลกกลางๆประตูเลยหลังบาโดนสกัดลงล้มไปก่อนจะเป็นแลมพาร์ดมารับหน้าที่สังหารให้วิ่งเข้ามากดเรียดเต็มข้อแต่บอลไปตรงตัวของเบโกวิชพอดีเลยล้มรับติดซองเลย

แต่แล้วนาทีสุดท้ายของเกมทีมเยือนช็อกกันตาตั้งเลยเมื่อพวกเขาโดนนำอีกแล้วจากบอลทิ้งออกมาทางซ้ายให้กับอัสไซดี้สำรองที่เพิ่งลงมาก่อนเลี้ยงโยกหลบอิวาโนวิชก่อนแล้วตัดสินใจสับไกเข้าไปเลยส่งบอลพุ่งไปเสียบสามเหลี่ยมเสาไกลไม่เหลือหมดปัญญาเช็คจะเซฟ สโต๊คนำอีกหน 3-2

จบเกมเชลซีช็อคกันไปพ่ายสโต๊คนาทีสุดท้าย 3-2 ทำให้พวกเขาโดนยัดเยียดความปราชัยจา"ช่างปั้นหม้อ"ในเกมลีกเป็นหนแรกรอบ 38 ปีพร้อมโดนลิเวอร์พูลแซงไปนั่งรองจ่าฝูงแทนด้วยลูกได้เสียที่ดีกว่า ส่วนสโต๊คขยับสู่อันดับ 12
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา