"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด คงความแข็งแกร่งในเกมรุกได้กดดันใส่ตั้งแต่เริ่มมีลุ้นมากมายสุดท้ายมาเจาะได้หลังพ้นครึ่งชั่วโมงแรก และเป็น "แกเร็ธ เบล" ซุปตาร์หน้าลิงที่สวมบทฮีโร่มีส่วนทุกลูกยิงแฮตทริคได้แถมจ่ายถวายใส่พานทองให้ "เบนเซม่า" อีกหนึ่ง พาทีมเปิดบ้านถลุง "เรอัล บาญาโดลิด" 4-0 ไล่ตามติดสองทีมนำต่อไป
ลา ลีกา สเปน
สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2556
เรอัล มาดริด 4-0 เรอัล บาญาโดลิด ออกสตาร์ทเกมมาในครึ่งแรกเล่นกันมาได้ 3 นาทีเปิดฉากมาไม่นาน เจ้าถิ่นมาดริดได้ลุ้นแล้วจากจังหวะเตะมุมฝั่งขวา ชาบี้ อลอนโซ่ เปิดโค้งมาเสาไกล เซร์คิโอ้ รามอส ขยับที่จุดนัดพบขึ้นเทคตัวโหม่งเน้นๆแต่กดไม่ลงข้ามคานไปนิดเดียว
นาที 6 เกือบจะเป็นประตูสุดสวยแห่งค่ำคืนนี้แล้วสำหรับปีกอาร์เจนไตน์ พามาได้ฟรีคิก ชาบี้ รับหน้าที่เตะลูกนิ่งเปิดมาโดนเคลียร์ บอลตกใส่อังเคล ดิ มาเรีย แต่งบอลเข้าเท้าซ้ายบอลกระดอนเป็นใจให้ใส่เน้นๆลูกใบไม้ร่วงพุ่งย้อยชนคานลั่นสนาม น่าเสียดายอย่างยิ่ง
นาที 11 มาดริดต่อเกมบุกต่อเนื่องแถมเป็นการบุกที่สวยงามจากชาบี้ อลองโซ่ ชิ่งให้อิสโก้ หลุดไปทางซ้ายเปิดมาตรงกลางให้รามอส หัวติดเรดาร์มาถึงจุดนัดพบได้แต่บอลมาต่ำเกือบระดับเอวเลย กองหลังบาญาโดลิดเลือกยื่นขาสกัด เจ้าตัวเลยโหม่งแบบแหยงๆข้ามคานออกไป
นาที 13 จังหวะแทบไม่หยุดพักหายใจเลย มาดริดขึ้นเกมทางซ้ายอีกครั้ง เป็นดิ มาเรีย หลุดกระชากไปเปิดข้ามมาเสาไกล มีคาริม เบนเซม่า วิ่งมาเตรียมยิงแต่ตวัดยิงแบบฝืนๆนิดๆเลยเข้าข้างตาข่ายไป
นาที 28 โอกาสทองของดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส จุดเริ่มต้นจากลูก้า โมดริช แทงทะลุช่องให้มาร์เซโล แต่โดนดักด้านหน้าเลยไหลคืนมาทางเบนเซม่าด้านหลัง จับและล็อกหนีกองหลังบาญาโดลิดอย่างยอดเยี่ยม มีเวลาและช่องให้ยิงปั่นเข้าเสาไกลสไตล์ถนัดของเขาเป๊ะแต่กลับตั้งใจมากจนยิงโค้งหลุดเสาไปแบบเสียของไม่น้อย
นาที 31 มาดริด หาทางจอมตีทุกรูปแบบหลังจากลูกเส้นข้างยังไม่ได้ ต้องเปลี่ยนมาแทงทะลุช่องจากแผงกลางและได้ลุ้นทีเดียวจากอิสโก้ จ่ายให้ดิ มาเรีย ที่มีพื้นที่ให้สปีดฉีกกองหลังไปรับบอลก่อนจะโดนไล่บีบจากด้านหลังต้องยิงยัดเสาแรดแต่ดิเอโก้ มารินโญ่ ยังไว้ลายเซฟไว้ได้
นาที 33 ในที่สุดหลังจากชวดโอกาสไปหลายต่อหลายครั้ง มาดริด ก็เจาะบาญาโดลิดยิงออกนำได้สักทีจากจังหวะของดิ มาเรีย ได้บอลทางซ้าย มุมแทบไม่มีแต่เจ้าตัวรั้นยิงด้วยความแรงยัดใส่ดิเอโก้ มารินโญ่ ปัดออกมาแต่โชคร้ายบอลเข้าหัวของแกเร็ธ เบล ยืนอยู่เฉยโขกซ้ำเข้าประตูไปเลย มาดริดนำ 1-0
นาที 36 พอเบิกร่องได้ มาดริด ก็ติดเครื่องทะยานหนีห่างทันทีและต้องชมความสุดยอดของดาวเตะเวลส์ทีได้บอลจากทางกราบขวาเกือบกลางสนาม ก่อนบรรจงเปิดครอสบอลติดแบ็คสปินข้ามกองหลังทีมเยือนให้เบนเซม่า แค่ตั้งหัวโหม่งให้ตรงกรอบและก็ไม่พลาด มาดริดนำ 2-0 แล้ว
จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด อยู่พักใหญ่ราวครึ่งชั้วโมงกว่าจะได้ลูกขึ้นนำและได้ติดกันอีกไม่ถึง 5 นาที นำบาญาโดลิดอย่างสบายใจ 2-0
กลับเข้าสู่เกมช่วงครึ่งหลังในนาทีที่ 46 ครึ่งหลังเริ่มไม่กี่อึกก็ลุ้นก่อนจากจังหวะที่จอมปั้นทีมชาติโครเอเชีย ลากกระชากต่อหาช่องว่าง สุดท้ายตัดสินใจยิงเลยหน้ากรอบเขตโทษแต่ยิงเล่นทางมากไปนิด เฉี่ยวเสาขวามือโกล์ออกไป
นาที 60 โอกาสลุ้นมาอีกครั้งของมาดริดหลังจาดกเงียบไปช่วงหนึ่ง เบล จ่ายออกขวาให้ดาเนี่ยล การ์บาฆาล แบ็คขวาจ่ายป้อนมาให้เบนเซม่าแปเข้าไปง่ายๆ แต่สุดท้ายเฮเก้อกันหมดเพราะผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้าน่าเสียดายแถมภาพช้าชี้ว่าการ์บาฆาลยืนเท่ากับกองหลังตัวสุดท้ายพอดี
นาที 62 ถัดมาเหมือนฉายหนังซ้ำ การ์บาฆาล เติมขึ้นมาจากแบ็คขวาอีกครั้ง ครางนี้ไม่ล้ำแล้ว ปาดมาให้เบนเซม่าได้ลุ้นแต่ให้บอลใกล้มารินโญ่ไปนิด นายด่านทีมเยทือนพุ่งคว้าบอลแต่ไม่ถึงเบนเซม่าตัดสินใจอย่างรวดเร็วยกบอลข้ามมารินโญ่แต่ไม่ตรงกรอบออกไปเอง
นาที 64 วันนี้พกดวงมาเต็มกระเป๋า ทุกอย่างเป็นใจให้เบลยิงประตูลูกที่สองของตัวเองและลูกสามของราชันชุดขาว ปั้นมาจากเขาจ่ายออกซ้ายให้มาร์เซโล เปิดเรียดเข้ากลาง เฆซุส รูเอด้า ยื่นสกัดแต่บอลย้อนตัวเขาเลยสกัดไม่ถนัดกลายเป็นตั้งให้เบล กดด้วยขวาเข้าไม่ต้องจับไม่เหลือซาก 3-0 ไปแล้ว
นาที 65 จังหวะลุ้นไม่กี่ครั้งของบาญาโดลิด หลังครึ่งแรกมีสัก 2 จังหวะที่ได้ลุ้นเล็กๆ คราวนี้เป็นโอกาสดีเพราะกองหลังมาดริด มีช่องให้ซาการ์ย่า เบิร์กดิช ปีกโมร็อคโกยิงไกลบอลพุ่งเข้ากรอบเหมือนจะหนีมือดิเอโก้ โลเปซไปทางขวามือโกล์แต่เจ้าตัวคว้าติดหนึบไม่มีหลุด
นาที 89 ปิดฉากอย่างสมบูรณ์แบบในวันนี้ของแกเร็ธ เบล แถมเป็นคนเริ่มสร้างและจบงานด้วยตัวเองด้วย เบลไหลออกซ้ายให้มาร์เซโล่เติมมาเลี้ยงกระชากเข้ากรอบเขตโทษก่อนไหลให้เบล ตามคำขอมาแต่ไกลแปเผาขนเข้าไปเป็นแฮตทริคแรกในสีเสื้อ ราชันชุดขาว ชนะเด็ดขาด 4-0
ตอนทดเจ็บ อัลบาโร่ โมราต้า จะขอเกิดบ้างแต่เจอมารินโญ่สกัดดาวรุ่งปัดทิ้งได้ จบเกม ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด คงความแข็งแกร่งในเกมรุกได้กดดันใส่ตั้งแต่เริ่มมีลุ้นมากมายสุดท้ายมาเจาะได้หลังพ้นครึ่งชั่วโมงแรก และเป็นแกเร็ธ เบล ที่สวมบทฮีโร่มีส่วนทุกลูกยิงแฮตทริคได้แถมจ่ายให้เบนเซม่าอีกหนึ่ง พาทีมเปิดบ้านถลุงเรอัล บาญาโดลิด 4-0 ไล่ตามติดสองทีมนำต่อไป