"เคราร์ด เดวโลเฟว" กองหน้าดาวรุ่งของทีม "ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน" เกมนี้โชว์ฟอร์มพริ้วไหวดั่งสายน้ำลากเลื้อยเป็นพระเอกแถมยิงเปิดหัวก่อนที่ เซมุส โคลแมน, ไบรอัน โอเวียโด้ และ โรเมลู ลูกากู เรียงหน้าถล่ม "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ 4-0 แถมยังทำอันดับขยับมาที่ 4 อีกต่างหาก
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2556
เอฟเวอร์ตัน 4-0 สโต๊ค ซิตี้
สนาม กูดิสัน พาร์ค ออกสตาร์ทเกมมาในช่วง 3 นาทีแรกเจ้าบ้านได้ยิงสองหนติดกันเน้นๆโดยเริ่มจากจังหวะที่เดวโลเฟวได้ส่องด้วยขวานอกกรอบเขตโทษแต่โดนเบโกวิชเซฟออกไปได้และจากลูกเตะมุมนี่เองโอเวียโด้ครอสบอลมาให้แบร์รี่ได้ยิงด้วยซ้ายกลางประตูแต่ก็โดนบล็อคทิ้งไปได้
เกมผ่านมา 15 นาทีแล้วเดวโลเฟวได้บอลจากการจ่ายของแบร์รี่หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนยิงด้วยเท้าขวาเต็มๆไปยังเสาแรกแต่ก็ยังโดนเบโกวิชเซฟเอาไว้ได้ในครั้งนี้
เอฟเวอร์ตันยังคงบุกหนังเหลือเกินและมาได้ลุ้นอีกในนาทีที่ 26 เมื่อออสแมนได้ส่องด้วยขวานอกกรอบเขตโทษบอลพุ่งเกือบเข้าไปเสียบคานแล้วแต่เบโกวิชก็ยังปัดบอลทิ้งไป
ก่อนหมดเวลา 5 นาทีโอเวียโด้ครอสบอลมาจากริมเส้นด้านซ้ายให้ลูกากูขึ้นโขกเต็มหัวตรงกลางประตูเลยแต่ก็คุมบอลไม่ทีทำให้ไม่ตรงกรอบ
แต่แล้วในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกเจ้าถิ่นมาได้ประตูสำคัญเหลือเกินในจังหวะที่แบร์รี่ผ่านบอลมาให้เดลโลเฟวเข้าชาร์จด้วยเท้าซ้ายในกรอบ 6 หลาเข้าไปตุงตาข่ายหมดปัญญาที่เบโกวิชจะช่วยทีมเยือนในคราวนี้และนับเป็นการยิงประตูแรกในการออกสตาร์ตพรีเมียร์ลีกนัดแรกของดาวรุ่งบาร์เซโลน่าด้วย
กลับลงมาเล่นกันต่อเพียงแค่ 4 นาทีเอฟเวอร์ตันมาได้อีกประตูในจังหวะที่เดวโลเฟวลากบอลขึ้นมาจาถึงกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วโยนบอลมาตรงกลางแบร์รี่จับบอลไม่ดีแต่กลายเป็นดีที่โคลแมวิ่งขึ้นมายิงพอดิบพอดีแม้ไม่เต็มเท้าแต่บอลเข้าไปตรงสามเหล่าเสาซ้ายมือพอดีเลย
วันนี้เดวโลเฟวเล่นเด่นเหลือเกินและในจังหวะนี้เขาลากเดี่ยวมาจากกลางสนามเลยก่อนเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วยิงไปติดเซฟของเบโกวิชบอลยังไม่พ้นอันตรายลูกากูไปเก็บตกได้ก่อนตวัดยิงด้วยซ้ายก็ยังโดนเบโกวิชพุ่งมาบล็อคไว้ทันอีกจังหวะหนึ่ง
ถัดมาอีกไม่กี่อึดใจในนาทีที่ 58 "ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน"มานำท้างเลยในจังหวะเตะมุมที่จ่ายมาให้โอเวียโด้จับบอลนอกกรอบเขตโทษก่อนเลี้ยงหนีนักเตะของสโต๊คหนึ่งคนแล้วก้มหน้าส่องด้วยขวาทันทีบอลพุ่งเลียดเสียบเสาซ้ายมือไปอย่างสวยงาม
สโต๊คเกือบได้ประตูบ้างในจังหวะที่โจนส์ซึ่งลงมาเป็นสำรองไหลให้เคร้าช์ทะลุหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนจิ้มบอลในจังหวะสุดท้ายแต่ไปโดนตัวของฮาวเวิร์ดปัดป้องเอาไว้ได้ก่อนตามไปเก็บอีกหนึ่งจังหวะไม่มีอะไร
นาทีที่ 79 ลูกากูมีชื่อขึ้นสกอร์บอร์ดจนได้ในจังหวะที่โอเวียโด้ได้บอลหลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนช็อคหนีเชียจนหลังหักแล้วปาดเข้าไปตรงเสาแรกให้ดาวยิงเบลเยี่ยมวิ่งเข้าจิ้มบอลตุงตาข่ายเป็นประตูที่ 8 ของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้
ช่วงท้ายเกมลูกทีมของโรเบร์โต้ มาร์ติเนซรอเล่นจังหวะโต้กลับอย่างเดียวทว่ายังไม่สามารถเบิกประตูได้เพิ่มโดยมีลุ้นจากลูกทีมเยลาวิชจ่ายให้มิรันญาสยิงติดเซฟของเบโกวิชเท่านั้น
ในช่วงนาทีสุดท้ายนั้นออสแมนต่อบอลไปให้มิรัลญาสทำชิ่งเร็วแล้วเยลาวิชเบียดหนีกองหลังสโต๊คได้แล้วเข้าไปล่อเป้าเบโกวิชเดี่ยวๆทว่าเขาดันยิงไปติดเซฟนายด่านบอสเนียอย่างน่าเสียดาย
แต่ผลการแข่งขันก็ล้นเหลือต่อการเก็บเพิ่มอีก 3 คะแนนทำให้"ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน"ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 4 มีคะแนนเท่ากับเชลซีและลิเวอร์พูลแต่ลูกได้เสียน้อยกว่าด้านสโต๊คร่วงไปอยู่อันดับ 15 ของตารางต้องมาลุ้นหนีตกชั้นกันแล้ว