ผู้เขียน หัวข้อ: "แลมพ์" ซัดเบิ้ล~!! "ออสการ์" ย้ำอีกเม็ด "สิงห์บลูส์" ขย้ำ "ค้อน" 3-0  (อ่าน 967 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

"แฟร้งค์ แลมพาร์ด" เกมนี้โชว์ฟอร์มโหดเต็มที่โดยรับหน้าที่ยิงคนเดียว 2 ประตูบวกกับผลงานของ "ออสการ์" อีกหนึ่งเม็ดช่วยให้ "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี ขย้ำ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เละเทะ 3-0 พร้อมทำคะแนนขึ้นมาเท่ากับลิเวอร์พูลที่ 24 แต้มจาก 12 เกม



พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2556
 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-3 เชลซี
สนาม โบลีน กราวน์

              เปิดฉากเริ่มเกมมาได้ 10 นาทีแรกนั้นทั้งสองทีมยังต่อบอลกันผิดพลาดในจังหวะเข้าทำซึ่งทำให้โอกาสส่องประตูนั้นยังไม่เกิดขึ้นกันเลยทำได้เพียงแต่ต่อบอลกันไปมากลางสนามเท่านั้น

โอกาสยิงครั้งแรกมาในนาทีที่ 15 เมื่อแลมพาร์ดเปิดบอลเข้ากลางมอร์ริสันตัดบอลได้แต่มัวเลี้ยงกลับหลังทำให้ออสการ์วิ่งมาฉกบอลก่อนหาจังหวะส่องด้วยขวาหน้าปากเขตโทษซึ่งบอลก็บอลโด่งออกไปไกลและแม้ดูเหมือนว่าจะแฉลบนิดๆก็ไม่ได้ลูกเตะมุมด้วย

เจ้าบ้านมีโอกาสบ้างจากจังหวะเติมเกมริมเส้นด้านซ้ายแล้วดาวนิ่งเปิดไปทางเสาสองให้โนแลนโขกกดลงพื้นบอลไปติดตัวเคฮิลล์ก่อนที่โจ โคลจะวิ่งเข้ามาพยายามยิงก็ยังคงไปติดบล็อคของเทอร์รี่ที่เคลียร์พ้นอันตรายออกมาได้แบบใจหายวาบ3

นาทีที่ 20 เวสต์แฮมมาเสียจุดโทษเฉยแบบไม่น่าเลยจริงๆเมื่อเดเมลใช้ต้นขาส่งบอลคืนหลังพลาดเบาเกินไปทำให้ยาสเคไลเน่นต้องออกมารวบออสการ์จนล้มกลิ้งไปในเขตโทษกรรมการเป่าฟาวล์เป็นจุดโทษแบบไม่ต้องสงสัย

แฟร้งค์ แลมพาร์ดมือปืนประจำทีมรับอาสาส่องเองและก็ไม่มีพลาดกดตูมเดียวเต็มหลังเท้าขวาบอลพุ่งเสียบตาข่ายด้านขวามือชนิดที่ยาสเคไลเน่นหมดโอกาสเซฟ

"ขุนค้อน"ยังคงพลาดอย่างต่อเนื่องในแดนหลังของตัวเองคราวนี้เป็นโอไบรอันเสียบอลตรงริมเส้นด้านซ้ายโดนออสการ์ฉกมาได้ก่อนปาดเข้ามาให้แลมพาร์ดที่ง้างรอมาจากบ้านได้ยิงทว่าคราวนี้ไปติดเซฟของยาสเคไลเน่น

เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมงพอดีแล้วอาซาร์วิ่งไปตามเก็บบอลที่เลยกำลังจะออกเส้นหลังด้านขวาได้ก่อนตวัดเปิดจังหวะเดียวเลยบอลพุ่งแรงมาเข้าหัวของแลมพาร์ดเทกตัวขึ้นโขกเต็มๆแต่สะบัดมากไปหน่อยทำให้บอลหลุดเสาซ้ายมือออกไป

เชลซีมาได้ประตูที่สองแบบง่ายๆเลยในจังหวะที่อาซาร์ทำชิ่งสวยไปให้ออสการ์ลากเข้าไปถึงระยะทำการหน้าหัวกะโหลกก่อนล้มตัวยิงด้วยเท้าขวาบอลดูเหมือนว่าจะไม่แรงทว่ากลับพุ่งเสียบเสาชนิดที่ยาสเคไลเน่นพุ่งยังไงก็ไม่ถึงนับเป็นประตูที่ 4 ของดาวเตะบราซิลในฤดูกาลนี้

นาทีที่ 40 อัลลาไดซ์ทนดูสภาพลูกทีมตัวเองไม่ไหวต้องเปลี่ยนทีเดียวสองคนรวดโดยส่งไมก้ากับดิยาเม่ลงมาแก้เกมขณะที่โคลกับคอลลิสันต้องโดนถอดออกแต่หัววันแบบไม่สบอารมณ์เท่าไหร่

แต่ดูเหมือนว่าเกมจะไม่ดีขึ้นเลยเพราะเชลซียังเดินหน้าบุกเหมือนเดิมคราวนี้เป็นออสการ์ที่ตอกส้นกลับหลังมาให้เอโต้วิ่งเข้ามาปั่นด้วยขวาบอลไซร้จะเข้าไปเสียบสามเหลี่ยมเสาไกลอยู่แล้วแต่ยาสเคไลเน่นไม่หลับพุ่งปัดทิ้งด้วยมือเดียว

             กลับเข้าสู่เกมช่วงครึ่งหลังกลายเป็น "ขุนค้อน" ที่มีโอกาสก่อนในครึ่งหลังเป็นดาวนิ่งที่ลากบอลอยู่ริมเส้นด้านซ้ายก่อนพยายามมองหาเพื่อนในกรอบเขตโทษแล้วเปิดเข้ามาตรงกลางเป็นไมก้าที่พยายามโหนขึ้นโขกแต่ไม่ถึงทำให้บอลออกเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย

เชลซีทำเกมกันมาได้สวยอีกแล้วเป็นออสการ์ที่เลี้ยงบอลรอเพื่อนเติมในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนที่จะแทงไปให้รามิเรสที่วิ่งมาตรงจุดนัดพบแล้วเปิดยัดเข้ากลางยังโดนเตะทิ้งออกหลังไปได้

จากจังหวะเตะมุมนี่เองแลมพาร์ดเปิดบอลเข้ามาตรงกลางให้เคฮิลล์วิ่งมากระโดดโขกเต็มหัวบอลจะเข้าไปกองก้นตาข่ายอยู่แล้วแต่เดชะบุญที่โนเบิ้ลยืนเฝ้าเสาอยู่ก่อนเตะทิ้งออกมาได้หวุดหวิด

เชลซีเกือบจะได้อีกแล้วเมื่ออัซปิลิกวยต้าเติมขึ้นมาจนถึงสุดเส้นหลังด้านซ้ายก่อนเปิดตวัดกลับมาทางเสาไกลให้ออสการ์ที่วิ่งมาแล้วล้มได้ยิงทว่าบอลไม่ตรงกรอบพลาดได้ประตูไปนิดเดียวเท่านั้น

ลูกนี้ต้องชมความพยายามเลยโดยเริ่มจากดิยาเม่ที่ลากบอลตัดมาจากริมเส้นซ้ายก่อนจะพยายามยิงนอกกรอบเขตโทษบอลไปติดบล็อคของอิวาโนวิชก่อนบอลโด่งมาไมก้าไม่รู้ทำอะไรต้องเล่นจักรยานอากาศท่าบังคับแต่ก็โดนบอลเฉี่ยวๆเท่านั้นก่อนจะตกลงพื้นเจ็บก้นกันไป

โอกาสทองหลุดลอยไปอย่างน่าเสียดายจริงๆเมื่อดิยาเม่โชว์เลี้ยงระดับโลกจากมุมธงด้านขวาลากเข้ามาหลบผู้เล่นของเชลซีไป 3 ตัวรวดก่อนไหลบอลให้ไมก้าเหยียดขาแปโล่งๆแต่บอลกลับหลุดเสาไปไม่กี่นิ้วชนิดแฟนเจ้าบ้านครางฮือเสียดายไปตามๆกัน

ท่าทางดูไม่ดีเลยสำหรับออสการ์ที่ไปเตะโดนส้นเท้าของดิยาเม่เองก่อนล้มลงไปกุมบริเวณฝ่าเท้าพร้อมกลิ้งไปกลิ้งมาส่งสัญญาณว่าเล่นต่อไม่ไหวแต่ท้ายที่สุดก็ลุกขึ้นมาเล่นต่อโดยมูรินโญ่ต้องส่งเด็มบา บามาแทนเอโต้

นาทีที่ 82 "สิงห์ไฮโซ"มาได้อีกประตูในจังหวะที่อิวาโนวิชเติมขึ้นมาตรงกราบขวาก่อนเปิดมาเสาแรกให้อาซาร์ยิงไปติดบล็อคทว่าบอลกระเด้งมาเข้าทางของแลมพาร์ดสวนตูมเดียวเสียบตาข่ายไม่เหลือซาก

สุดท้ายเจ้าบ้านก็ยังทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันอยู่ดีทำให้ต้องแพ้คาบ้านเป็นเกมที่ 4 ของฤดูกาลรั้งอันดับ 17 ต้องมาลุ้นหนีตายกันแล้วส่วนเชลซีคว้าชัยนอกบ้านนัดที่ 2 ทำคะแนนมาเท่าลิเวอร์พูลแถมลูกได้เสียเท่ากันแต่ยิงได้น้อยกว่าตามหลังอาร์เซน่อล 4 แต้ม
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา