"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เล่นในบ้านยังคงฟอร์มร้อนแรงเช่นเคยและเป็น "คริสติอาโน่ โรนัลโด้" ที่ฟอร์มโคตรโหดโดยซัดทั้งแฮตทริคทั้งแอสซิสต์พร้อมขึ้นนำเดี่ยวดาวซัลโวแบบหล่อๆ ถลุงเอาชนะ "เรอัล โซเซียดาด" ไปด้วยสกอร์ 5-1 ขยับทำคะแนนตามหลัง "บาร์เซโลน่า" และ "แอตเลติโก้ มาดริด" 3 แต้มและ 2 แต้ม
ลา ลีกา สเปน
สนาม ซานติอาโก้ เบร์บาเบว
วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2556
เรอัล มาดริด 5-1 เรอัล โซเซียดาด ออกสตาร์ทเกมมาได้นาที 10 มาดริด มาได้ฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งซ้าย และเป็นชาบี้ อลอนโซ่ รับหน้าที่เปิดโค้งมาเสาไกล บอลทำท่าจะฮุกเข้าสามาเหลี่ยมทำเอานายทวารโซเซียดาดต้องปัดทิ้งเอาชัวร์ไว้ก่อน
นาที 12 ยังเทพเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนสำหรับคริสติอาโน่ โรนัลโด้ บอลขึ้นมาทางซ้าย คาริม เบนเซม่า ทำท่าจะจ่ายให้เพื่อนที่วิ่งแลบไปข้างหน้าแต่เปลี่ยนใจดึงกลับมาเปิดข้ามให้ CR7 ที่รออยู่เสาไกลจับบอลลงอย่างนิ่งนวลแล้วกดด้วยขวาเสียบมุมเสาไกลแบบหมดสิทธิ์ที่เคลาดิโอ บราโว่ จะเซฟไหว เรอัล มาดริด ขึ้นนำแล้ว 1-0
นาที 14 มาดริดบุกขึ้นมาต่อจากจังหวะที่แกเร็ธ เบล รับบอลโยนยาวจากแดนหลัง พักบอลลงสวยงามก่อนจะดึงรอจังหวะแล้วไหลมาตรงให้โรนัลโด้ ยิงไม่ต้องจับแต่บอลพุ่งตรงเข้าซองบราโว่ รับไม่ยาก
นาที 18 หลังจากเพื่อนส่งให้ยิงงามๆ โรนัลโด้ เลยขอตอบแทนคืนบ้าง เลี้ยงเลาะขึ้นมาทางซ้ายดึงความสนใจกองหลังได้ดีก่อนจะปาดเรียดมาให้เบนเซม่า ตั้งเท้าแปบอลหนีมือบราโซ่ เสียบเสาซ้ายมือโกล์อย่างเพชฆฆาตจริงๆ มาดริดหนีเป็น 2-0
นาที 26 จะบอกว่าโหดร้ายสำหรับทีมเยือนไปนิดนึงก็ได้แต่ก็โดนมือจริงๆ โรนัลโด้ มีโอกาสได้ง้างเท้ายิงแต่โดนมาร์เคล เบร์คาร่า สไลด์ตัวขวางแต่บอลแฉลบมาโดนแขนของเขาที่ยื่นออกมาตามจังหวะล้มตัว ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นลูกโทษแบบที่นักเตะทีมเยือนไม่พอใจเท่าไหร่ แต่โรนัลโด้ไม่สนใจรับหน้าที่ยิงวัดใจเข้ากลางประตูง่ายๆซะเลยไม่พลาด มาดริดนำไปอีกเป็น 3-0
นาที 36 ของกำลังขึ้นจริงๆ วันนี้มาดริดลุ้นมากี่ที่ก็แทบรอใส่สกอร์ได้และก็ทำได้อีกลูกจริงๆจากจังหวะที่ดานี่ การ์บาฆาล ลากขึ้นมาจากกราบขวาจ่ายให้เบลแทงต่อให้ซามี่ เคดิร่า ที่โฉบขึ้นมาจับก่อนไม่ต้องมองกรอบตะบันเน้นๆ บราโว่พุ่งไปคนทาง มาดริดได้ใจนำไปอีกเป็น 4-0
จบครึ่งแรก มาดริด แข่งแกร่งทุกอณู บุกขึ้นมาเป็นเข้ายิงใส่เรอัล โซเซียดาด พรุนตั้งแต่ 45 นาทีแรกนำไปไกลถึง 4-0
ต่อมาในช่วงครึ่งหลังในนาทีที่ 48 เริ่มตั้งลำบุกมาก่อนจากการ์ลอส เวล่า ดาวยิงตัวเก่งต้องเลี้ยงเลาะบริเวณกรอบแต่โดนรายล้อมด้วยแผงหลังมาดริดจนต้องยิงไปเสาขวามือโกล์แต่ยังหลุดกรอบไป
นาที 56 โรนัลโด้ยังพยายามจะยิงแฮตทริคให้ได้ โอกาสแรกของสตาร์โปรตุกีสล็อคหนีกองหลังโซเซียดาดทางซ้ายในกรอบเขตโทษก่อนจะยิงติดไซด์โป้งไปเสาไกล ความแรงแต่บอลโค้งเฉี่ยวออกไปได้ลุ้นทีเดียว
นาที 61 จังหวะก่อนหน้านี้โซเซียดาดก็น่าจะได้จุดโทษบ้างแต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร แต่คราวนี้โซเซียดาดบุกขึ้นมาจากการจ่ายกลางสนามทะลุช่อง เปเป้ พยายามยื่นสกัดแต่ไม่เต็มเท้าเลยล้นไปถึงอองตวน กรีซมอง สตาร์ตัวเก่งหลุดเดี่ยวก่อนโชว์ไหวพริบกระดกบอลข้ามหัวดิเอโก้ โลเปซ ที่วิ่งออกมาดักและกลายเป็นเสียท่าให้ดาวเตะฝรั่งเศส ยิงตีตื้นให้ทีมเยือนไล่มาห่างๆ 1-4
นาที 69 เปเป้ งานเข้าอีกรอบเมื่อโซเซียดาดเลือกโจมตีที่เจ้าตัวอีกครั้ง เวล่า ได้บอลบริเวณทางขวาก่อนจ่ายขึ้นหน้าให้กรีซมองวิ่งโฉบหนีเปเป้มาดวลกับดิเอโก้ โลเปซอีกครั้ง และยังโชว์ไอเดียยิงจิ้มเล่นทางไปเสาไกลแบบที่โลเปซเซฟไม่ได้แน่นอนแต่บอลไหลหลุดเสาไปนิดเดียวเท่านั้น มาดริดรอดพ้นการเสียอีกลูกไปหวุดหวิด
นาที 76 วันนี้เป็นวันของเขาอีกหนึ่งวันสำหรับโรน้าววโด้ มาดริด มาได้ฟรีคิกระยะทำการของเขาและเจ้าตัวไม่พูดพร่ำทำเพลงวิ่งซอยเท้ามายิง นึกว่าจะยิงเอาแรงตามสไตล์แต่โรนัลโด้ แค่ยิงให้โด่งพ้นกำแพงด้วยความแรงพอประมาณเข้าประตูไปแบบที่บราโว่ นายด่านทีมเยือนยืนสิโรราบมองดูลูกซุกก้นตาข่ายไป เป็นแฮตทริคของโรนัลโด้ พามาดริดหนีเป็น 5-1
นาที 87 โซเซียดาดยังสู้อย่างไม่ยอมแพ้และต้องชมความพยายามของการ์ลอส เวล่า ที่เลี้ยงจี้หากองหลังมาดริดที่ได้ดักหน้าดักอยู่แต่ไม่เข้ามาบีบ เลยเจอยิงยัดฝ่าดงไปหมดแต่ดิเอโก้ โลเปซ ยังเห็นบินปัดทิ้งได้ช่วยทีมไว้ได้
นาที 88 จบเกม เรอัล มาดริด ยังคงฟอร์มสุดโหดได้อีกครั้งในบ้านและเป็นคริสติอาโน่ โรนัลโด้ ที่ฟอร์มเข้าฝักยิงแฮตทริคพร้อมขึ้นนำเดี่ยวดาวซัลโวแบบหล่อๆ ถลุงเอาชนะเรอัล โซเซียดาด 5-1 ขยับทำคะแนนตามหลังบาร์เซโลน่าและแอตเลติโก้ มาดริด 3 แต้มและ 2 แต้ม