"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลกลับมาจากฝันร้ายที่แพ้อาร์เซนอลหมดรูปเมื่อสัปดาห์ก่อนหลังเปิดรังแอนฟิลด์ไล่กระซวกฟูแล่มทีมท้ายตารางขี้กระจาย 4-0 โดยหลุยส์ ซัวเรซฟอร์มยังร้อนแรงเหมาคนเดียวสองเม็ดขึ้นนำดาวซัลโวร่วมพร้อมพาทีมรักขยับขึ้นมาเป็นรองฝูงอีกครั้ง
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2556
ลิเวอร์พูล 4-0 ฟูแล่ม
สนาม แอนฟิลด์ ออกสตาร์ทเกมมาได้นาทีเดียว "หงส์แดง" มีลุ้นก่อนเลยจากจังหวะเตะมุมด้านขวาเจอร์ราร์ดเปิดมาตรงเสาสองให้สเคอร์เทลโขกตั้งมาก่อนที่บอลจะมาถึงแอ็กเกอร์ได้ยิงแต่บอลติดเท้าไปหน่อยทำให้เหินข้ามคานออกไป
เจ้าบ้านเกือบได้ประตูเลยเป็นจังหวะทำชิ่งจากคูตินโญ่ไปให้เจอร์ราร์ดหน้าปากเขตโทษแล้วแทงบอลทีเดียวทะลุไปให้ซัวเรซเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแต่จังหวะเปิดเข้ามาตรงกลางเป็นสเตเคเลนเบิร์กที่คว้าเอาไว้ได้ทัน
"หงส์แดง"ยังขึงเกมบุกอยู่ฝ่ายเดียวและคราวนี้เดินเกมขึ้นมาริมเส้นด้านขวาโดยจอห์นสันที่เลี้ยงตลุยผ่านมาสองด่านก่อนไหลให้เฮนเดอร์สันวิ่งมายิงนอกกรอบไปติดบล็อคของเซนเดอรอสแล้วบอลไปเข้าทางคูตินโญ่ที่พยายามยิงเลยก็ไปติดมือของสเตเคเลนเบิร์กอีกรอบ
นาทีที่ 15 เป็นฝั่งฟูแล่มที่เกือบมาได้ประตูโดยคาซามี่รับบอลต่อมาก่อนจับลงในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วยิงทันทีแต่ไปติดจอห์นสันก่อนที่บอลจะแฉลบไปเข้าข้างตาข่ายซึ่งมิโญเล่ต์ต้องผวาไปเหมือนกัน
แล้วในนาทีที่ 23 ลิเวอร์พูลก็ขึ้นนำจนได้จากจังหวะฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษด้านด้านขวาเจอร์ราร์ดเปิดเข้ามาตรงกลางบอลผ่านหัวของซัวเรซกับแอ็กเกอร์ไปแต่ยังโชคดีที่ไปโดนตัวของอาร์โมเรบิเอต้าเข้าประตูตัวเองไปเฉย
ถัดมาอีกแค่ 3 นาทีเจ้าบ้านก็ได้เฮอีกแล้วในจังหวะเตะมุมด้านขวาที่เจอร์ราร์ดเปิดเข้ามาตรงกลางให้สเคอร์เทลวิ่งโฉบตัดหน้าอาร์โมเรบิเอต้าโขกเต็มหัวเข้าไปชนิดที่สเตเคเลนเบิร์กไม่ทันขยับตัว
น. 30 เจ้าบ้านเกือบได้อีกแล้วในจังหวะที่ซิสโซโก้เปิดเข้ามาตรงกลางแต่ติดบล็อคบอลมาเข้าทางของแอ็กเกอร์ที่ไหลกลับหลังมาให้คูตินโญ่ยิงเต็มแรงทว่าสเตเคเลนเบิร์กยังปัดทิ้งเอาไว้ได้อย่างงดงาม
ถัดมาไม่นาน"หงส์แดง"ยังรุกหนังและเป็นซัวเรซที่ได้บอลตรงกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนไหลคืนมาให้คูตินโญ่แต่งก่อนยิ่งเน้นๆก็ยังไปเข้าซองของมือกาวดัตช์
นาทีที่ 36 เจ้าถิ่นนำห่างไปเลยจากจังหวะขึ้นเกมได้สวยที่เจอร์ราร์ดเปิดข้ามฟากไปให้เฮนเดอร์สันริมเส้นด้านขวาก่อนแทงบอลเข้าเขตโทษให้ซัวเรซวิ่งมายิงตามน้ำผ่านสเตเคเลนเบิร์กเข้าไปแบบเหมาะเหม็งเป็นประตูที่ 7 ของเขาในพรีเมียร์ลีก
ช่วงนาทีสุดท้ายลิเวอร์พูลพยายามเล่นลูกสูตรบ้างโดยเจอร์ราร์ดเตะมุมด้านขวามาหน้าปากเขตโทษให้คูตินโญ่ที่ยืนรออยู่วอลเล่ย์จังหวะเดียวแต่โดนไม่เต็มทำให้บอลออกข้างไป
เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังเพียงไม่ทันไร "หงส์แดง" เกือบได้อีกแล้วเมื่อสเตอร์ริดจ์แทงบอลให้ซัวเรซหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนยิงไปติดสเตเคเลนเบิร์กบอลกระเด้งออกมาเจอร์ราร์ดวิ่งมารับบอลก่อนยิงไปติดตัวของสเตอร์ริดจ์ที่พยายามล็อคหนึ่งจังหวะก่อนยิงเน้นๆทว่าก็ไปติดมือของมือกาวดัตช์อีกบอลกระดอนมาถึงซัวเรซได้ซ้ำก็ข้ามคานไปแบบไม่น่าเชื่อ
เจ้าบ้านยังเปิดหน้าบุกอยู่ตลอดและคราวนี้เป็นสเตอร์ริดจ์ที่ได้หลุดไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจะล็อคหลอกเข้าเท้าขวาทั้งที่เฮนเดอร์สันเติมขึ้นมาแล้วก่อนจะยิงออกแบบน่าผิดหวัง
นาทีที่ 54 เจ้าถิ่นได้เฮกันเสียงแหบเสียงแห้งอีกแล้วจากจังหวะที่เจอร์ราร์ดตัดบอลได้จากกลางสนามก่อนบอลไปเข้าทางของซัวเรซที่เตะบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วโยกหนีเซนเดอรอสก่อนยิงผ่านสเตเคเลนเบิร์กเข้าไปแบบสุดคมขึ้นไปเป็นดาวซัลโวร่วมของพรีเมียร์ลีกแล้ว
สเตอร์ริดจ์พยายามจะมีชื่อขึ้นสกอร์บอร์ดกับเค้าเหลือเกินและในจังหวะนี้ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนพยายามจะล็อคหนีกองหลังแต่เข้าเท้าขวาแล้วยิงไปติดบล็อคของเซนเดอรอสทำให้ยังยิงไม่ได้อีกแล้ว
ลิเวอร์พูลยังเดินหน้าบุกอยู่เหมือนเดิมโดยเป็นอัลเลนที่เพิ่งลงมาไหลบอลให้เฮนเดอร์สันครองบอลหน้าปากเขตโทษก่อนจะพยายามจ่ายไปให้ซัวเรซที่อยู่ด้านซ้ายได้ยิงไกลแต่บอลก็เหินข้ามคานไปไกลเช่นกัน
นาทีที่ 70 ก็ยังเป็นเจ้าบ้านที่ได้ลุ้นโดยซัวเรซได้บอลลากเข้ามาในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนที่บอลจะหลุดเลยมาแต่ก็เข้าทางของคูตินโญ่ที่วิ่งมาแปเน้นๆทว่าสเตเคเลนเบิร์กล้มตัวรับเอาไว้ได้สวยในจังหวะนี้
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายเอ็นริเก้เติมขึ้นมาทางกราบซ้ายก่อนตบเข้ากลางเป็นคูตินโญ่วิ่งมายิงติดบล็อคบอลไปเข้าทางเซนเดอรอสพยายามเคลียร์ทิ้งแต่ไปติดตัวของ"หม่อมกัด"แล้วบอลเด้งกลับจะเข้าสามเหลี่ยมอยู่แล้วทว่าสเตเคเลนเบิร์กยังพุ่งไปรับไว้ทัน
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บซัวเรซมาเล่นลีลายิงด้วบลูกไขว้แต่บอลก็เหินข้ามคานออกไปไกลก่อนจะได้ยิงนอกกรอบอีกครั้งก็ไม่ตรงประตูเหมือนเดิม
สุดท้าย"หงส์แดง"เก็บ 3 แต้มเพิ่มแบบสบายๆขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูงเดี่ยวแล้วเพราะเชลซีดันทำได้เพียงเสมอทำให้พวกเขาไล่ตามอาร์เซน่อลที่เตะกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพรุ่งนี้เพียง 2 แต้มเท่านั้น