พิมพ์

[Armin]

"โจ ฮาร์ท" โดนดรอปพ้นปากประตูทำให้เกมนี้ทำได้เพียงแค่นั่งเชียร์เหล่าบรรดาเพื่อนร่วมทีม "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นโชว์ฟอร์มร้อนแรงไล่กระซวก "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" นอริช ซิตี้ เละเทะ 7-0 ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ของตารางชั่วคราว



พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2556
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 7-0 นอริช ซิตี้
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม

              ลงสนามมาเจอกันในช่วงแรกเล่นกันมาจนถึง 10 นาทีแรกทั้งสองทีมครองบอลสูสีกันทั้งที่คาดว่าแมนฯ ซิตี้น่าจะเปิดเกมรุกได้มากกว่าแต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้เพราะวันนี้นอริชยืนตำแหน่งและเก็บบอลกันได้ดีทีเดียว

โอกาสยิงครั้งแรกของ "เรือใบสีฟ้า" มาจากจังหวะที่ นาสรี่ ทำชิ่งกับ ซิลบา ก่อนหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วล็อคหนีกองหลังอีกจังหวะก่อนยิงด้วยซ้ายทว่าบอลไปชนเสาด้านนอกก่อนออกหลังไป

แต่โอกาสที่สองของซิตี้ก็ได้ประตูเลยโดยเป็นกลีชี่ที่เปิดมาให้ซิลบาจับบอลยิงติดบล็อคแล้วบอลมาเข้าเท้ากุนยิงไปติดบล็อคอีกแต่ดวงคนมันจะซวยบอลกลับกระดอนมาชนขาของจอห์นสันแล้วลอยข้ามหัวของรัดดี้เข้าประตูไป

ประตูที่สองของซิตี้ได้มารวดเร็วอีกโดยเป็นจังหวะโต้กลับที่นาสรี่เปิดยาวมาให้กุนเก็บบอลในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนไหลคืนมาให้ซิลบาที่เติมมาพอดีไปโดนมือของรัดดี้นิดนึงก่อนเข้าไปตุงตาข่ายเลย

อีก 5 นาทีต่อมาเจ้าบ้านก็ได้เฮอีกรอบในจังหวะเตะมุมด้านขวาที่นาสรี่เปิดมาให้นาสตาซิชโหม่งโขกไปโดนหัวมาร์ตินแล้วแฉลบเปลี่ยนทางนิดหน่อยหมดปัญญาที่รัดดี้จะพุ่งไปเซฟได้ทัน

นาสรี่มาได้เตะมุมด้านซ้ายบ้างโดยจังหวะนี้เปิดมาตรงกลางประตูแต่รัดดี้ดันรับหลุดบอลไปตกเข้าเท้าของกุนที่หาช่องยิงเต็มข้อแต่ยังมีกองหลังของนอริชที่กระโดดบล็อคได้ทัน

สู้ไม่ได้จริงๆสำหรับนอริชโดย"เรือใบสีฟ้า"มาได้ประตูอีกในจังหวะที่ยาย่าแทงทะลุไปให้กุนในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนที่จะขวายพานไปให้เนเกรโด้ซัดเปรี้ยงไม่เหลือจากระยะแค่ 5 หลาเท่านั้น

ปานติลิม่อนมาได้ออกแรงเซฟครั้งแรกในจังหวะที่พิลคิงตันลากบอลมาเองก่อนเข้าระยะ 35 หลาแล้วซัดเรียดไปทางเสาซ้ายมือทำให้นายด่านโรมาเนียต้องพุ่งไปปัดไว้ปลายมือ

เจ้าบ้านยังเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่องและในจังหวะนี้เป็นยาย่าที่ใช้ตัวบังบอลอยู่ในกรอบเขตโทษก่อนหาจังหวะหันหลังได้แล้วยิงด้วยขวาทันทีทว่าครั้งนี้ไปตรงตัวของรัดดี้

             ต่อมาในช่วงครึ่งหลัง "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" น่าจะเป็นฝ่ายได้ประตูตีไข่แตกเหลือเกินโดยนอริชขึ้นเกมมาด้านซ้ายเป็นจอห์นสันที่เปิดมาทางเสาแรกเดมิเคลิสสกัดพลาดเอลมานเดอร์ที่เพิ่งลงสนามมาปรี่เข้ายิงทว่าบอลไม่ตรงกรอบ

ซิตี้เกือบได้ประตูบ้างโดยซาบาเลต้าลากบอลเข้ามาจากริมเส้นด้านขวาก่อนที่บอลจะมาถึงนาสรี่ได้ยิงรัดดี้พุ่งไปปัดสุดมือยังมีกุนที่ตามปรีเข้าซ้ำแต่บอลไปเข้าข้างตาข่าย

ผ่านมาครบหนึ่งชั่วโมงเจ้าบ้านมาได้ฟรีคิกระยะพอเหมาะประมาณ 20 หลากลางประตูเป็นยาย่าที่วิ่งเข้ามากดรีโมทบอลโค้งผ่านกำแพงก่อนเข้าเสาซ้ายมือไปอย่างสวยงามชนิดที่รัดดี้พุ่งไปก่อนสัก 2 วินาทีก็ไม่ทันเป็นประตูที่ 5 ของเขาในฤดูกาลนี้

เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 70 ซิตี้ก็ยังเป็นฝ่ายครองเกมได้ทั้งหมดแต่จังหวะยิงยังไม่เน้นเท่าไหร่แต่แล้วซิลบาก็ได้หลุดเข้าในสุดเส้นหลังด้านซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางบาสซงเตะทิ้งไม่ขาดไปเข้าเท้าของกุนที่ยิงสวนมาทันทีไม่มีเหลือ

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายซิตี้ได้บอลโต้กลับเป็นนาบาสที่วิ่งเต็มสปีดมาถึงบอลก่อนใครแล้วเข้าไปล่อเป้ารัดดี้ในกรอบเขตโทษแต่นายด่านที่ชาติอังกฤษโชว์เซฟเอาไว้ได้สวยปัดทิ้งออกหลังไป

"เรือใบสีฟ้า"มาได้ลุ้นจากฟรีคิกอีกแล้วคราวนี้ระยะไม่ถึง 20 หลากลางประตูเลยเป็นยาย่าคนเดิมที่เอาบอลมาตั้งแล้วเล็งยิงเองก่อนสับด้วยขวาแต่คราวนี้ไปติดกำแพงแต่บอลยังขลุกขลิกมาเข้าตีนของเดมิเคลิสที่กลับตัวมาเจอพอดีแล้วยิงเลยทว่ารัดดี้ยังเซฟเอาไว้ได้อย่างหนึบ

ก่อนหมดเวลา 4 นาทีเจ้าบ้านได้เฮอีกเมื่อนาบาสลากบอลมาถึงกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนผ่านมาให้เชโก้จับบอลก่อนหนึ่งจังหวะแล้วกลับตัวยิงทันทีบอลพุ่งเรียดไปเข้าทางเสาไกลอย่างสวยงามเป็นประตูติดต่อกันสองนัดของเขา

เจ้าถิ่นยังเดินเกมบุกอย่างต่อเนื่องตอนนี้เป็นกุนที่ลากบอลไปมาก่อนจ่ายไปให้ซาบาเลต้าที่ขึ้นมารอยิงกับเค้าด้วยแต่จังหวะไม่ให้ต้องยิงด้วยซ้ายทำให้บอลเหินข้ามคานออกไปก่อนจบเกม"เรือใบสีฟ้า"คว้า 3 แต้มแบบสุดประทับใจ