"หลุยส์ ซัวเรซ" ดาวยิงฟันล้ำหน้าเกมนี้ระเบิดแฮตทริกแรกในแอนฟิลด์ได้สำเร็จส่วน "ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์" ขวัญใจคนใหม่เองก็ไม่น้อยหน้าบวกอีกหนึ่งตุงส่งให้กับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ถล่ม "มวยโลก" เวสต์บรอมวิช สิ้นฤทธิ์ 4-1 พร้อมขยับขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูง
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2556
ลิเวอร์พูล 4-1 เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน
สนาม แอนฟิลด์ ออกสตาร์ทเกมมาในครึ่งแรงโอกาสยิงครั้งแรกของเกมมาจากจังหวะที่สเตอร์ริดจ์ไหลบอลให้ซัวเรซหน้าปากเขตโทษก่อนก้มหน้ายิงด้วยขวาทันทีจากระยะราว 20 หลาบอลพุ่งออกไปทางโคนเสาด้านซ้ายมือแบบไม่ได้ลุ้น
หลังจากนั้นซัวเรซลากบอลอยู่ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนจะไหลกลับหลังมาให้เจอร์ราร์ดลองส่องไกลบ้างแต่เบาเหลือหลายแถมไม่เข้ากรอบอีกต่างหาก
นาทีที่ 9 ซัวเรซล้มกลิ้งไปในกรอบเขตโทษจังหวะที่พยายามจะไปเอาบอลจากสเตอร์ริดจ์แต่จอห์น มอสส์กรรมการไม่เป่าโดยภาพช้านั้นแสดงให้เห็นว่า"หม่อมกัด"โดนดึงเสื้อนิดเดียวเท่านั้นแต่ดันไม่ยอมเล่นต่อเอง
แต่แล้วนาทีที่ 12 ซัวเรซงัดทริกการเลี้ยงแบบสุดยอดลากบอลแตะลอดขาของโอลส์สันก่อนหลุดเข้าไปล่อเป้ามายฮิลล์แบบสบายๆทำให้ตอนนี้เจ้าบ้านนำก่อนอีกแล้วโดยนี่นับเป็นลูกที่ 4 ของเขาหลังจากกลับมาจากโทษแบนยาว 10 นัดด้วย
ตอนนี้ทำอะไรเป็นดีไปหมดเลยโดยบอลก็เริ่มต้นที่เขาที่เปิดบอลไปให้ซิสโซโก้ริมเส้นด้านซ้ายก่อนที่ดาวเตะน้ำหอมจะเปิดบอลอยู่ตรงริมเส้นมาเข้าหัวของ"หม่อมกัด"ได้โขกตรงเส้นเขตโทษพอดีบอลพุ่งเข้าไปตรงสามเหลี่ยมหมดสิทธิ์สำหรับมายฮิลล์อีกแล้วนับเป็นประตูที่ 5 จาก 4 เกมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ของเขา
เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 27 ลิเวอร์พูลได้ลูกฟรีคิกระยะเกือบ 30 หลาหน้าปากเขตโทษโดยพวกเขาเล่นลูกสูตร"หม่อมกัด"แทงทะลุไปให้เจอร์ราร์ดหลุดถึงเส้นหลังก่อนตบกลับมาให้สเคอร์เทลที่ยืนคนเดียวโล่งๆยิงวืดไปแบบไม่น่าเชื่อชนิดเจ้าตัวกุมหัวด้วยความเสียดาย
แต่แมื่อเกมดำเนินมาเกือบครบชั่วโมง"หงส์แดง"ก็ต้องเสียวเมื่อจอห์นสันที่เพิ่งหายเดี้ยงกลับมามีอาการเจ็บเข่าอีกแล้วแต่เจ้าตัวยังฝืนลุกขึ้นมาเล่นได้ต่อหลังจากปฐมพยาบาลนานอยู่หลายนาที
นาทีที่ 32 จาค็อบไปเหนี่ยวไหล่สเตอร์ริดจ์ทำให้"หงส์แดง"ได้ลุ้นจากฟรีคิกแถวๆเดิมและเป็นซัวเรซที่จัดการปั่นบอลโค้งข้ามกำแพงไปแล้วแต่ไปโดนเสาด้านหลังประตูทำให้แฟนๆเฮกันเก้อไป
เกมมาถึงช่วง 5 นาทีสุดท้ายลูกคัสพยายามเลี้ยงเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่โดนตัดบอลมาเข้าทางของเจอร์ราร์ดปาดไปด้านซ้ายที่เฮนโด้ยืนตั้งป้อมรออยู่นานแล้วก่อนปั่นด้วยขวาบอลเลยสามเหลี่ยมเสาไกลไปนิดเดียวจริงๆ
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บเวสต์บรอมเกือบมาได้ลูกส้มหล่นเมื่อบอลข้ามหัวสเคอร์เทลไปส่วนมิโญเล่ต์ก็ออกมารับวืดก่อนที่จะเป็น"ปลาคาร์ฟ"ที่วิ่งหัวซุกหัวซุนมาเคลียร์ทิ้งก่อนที่บอลจะกระเด้งเข้าประตูโล่งๆไป
ต่อมาในช่วงหลังเพียงแค่ 2 นาทีลิเวอร์พูลได้ลุ้นฟรีคิกระยะ 20 หลาริมเส้นด้านขวาของกรอบเขตโทษโดยคราวนี้เข้ามุมเท้าซ้ายทำให้เป็นสเตอร์ริดจ์รับหน้าที่สังหารปั่นไปทางเสาไกลแต่บอลเลี้ยวไม่พอออกหลังไปไม่มากนัก
วันนี้เกมด้านซ้ายของ"หงส์แดง"ไหลลื่นเหลือเกินคราวนี้เป็นซัวเรซที่ลากไปสุดเส้นหลังก่อนไกลย้อนมาให้ซิสโซโก้ยิงจากหน้าปากเขตโทษไปแฉลบกองหลัง"มวยโลก"ได้เพียงแค่เตะมุมเท่านั้น
นาทีที่ 55 ซัวเรซมาทำแฮตทริกครั้งแรกในแอนฟิลด์เมื่อเจอร์ราร์ดเปิดฟรีคิกจากริมเส้นด้านซ้ายเข้ามาให้เขาวิ่งหนีตัวประกบก่อนโขกเข้าไปเสียบสามเหลี่ยมเสาสองอย่างสวยงามชนิดที่มายฮิลล์ไม่มีสิทธิ์ขยับตัวและขยับขึ้นไปเป็นรองดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกด้วยจำนวน 6 ประตู
สเตอร์ริดจ์ยิงไม่ได้เสียทีโดยในจังหวะนี้จอห์นสันลากบอลทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจ่ายย้อนหลังซัวเรซแต่มาเข้าตีน"หริด"ที่กระโดดยิงบอลลอยออกไปไกล
หลังจากนั้นไม่นานสเตอร์ริดจ์ลากเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนยิงด้วยซ้ายข้างถนัดทว่าบอลไปชนคานดังโครมก่อนกระเด้งลงพื้นไม่เข้าเสียอย่างนั้นชนิดที่เจ้าตัวทำหน้าเซ็งกับวันที่อะไรๆก็ไม่เป็นใจ
"มวยโลก"เกือบได้เหมือนกันจากลูกฟรีคิกที่โยนเข้ามาบอลเด้งไปเด้งมาในกรอบเขตโทษก่อนจะเป็นแม็คออลี่ย์ที่ตวัดยิงเหินข้ามคานไปแบบได้ลุ้นทีเดียว
อยู่ดีๆ "หงส์แดง"มาเสียจุดโทษในจังหวะที่ลูคัสกับซิสโซโก้มาเบียดโจนส์ล้มลงไปในกรอบก่อนที่ไลน์แมนจะยกธงอย่างมั่นใจทำให้มอสส์ต้องให้เป็นลูกฟาวล์
เป็นมอร์ริสันที่รับอาสายิงโดยเขาตะบันไปตรงกลางซ้ายมือขณะที่ที่มิโญเล่ต์พุ่งผิดทาง
นาทีที่ 70 สเตอร์ริดจ์ลากเดี่ยวไปอีกแล้วก่อนจะไปลื่นล้มลงในกรอบเขตโทษแต่บอลก็ยังมาเข้าทางของเจอร์ราร์ดที่ยิงยัดไปตรงเสาแรกทว่ามายฮิลล์ยังปัดทิ้งได้ทัน
ซัวเรซมาได้จังหวะยิงฟรีคิกระยะราว 30 หลาและเป็นซัวเรซคนเดิมที่รับอาสาปั่นทว่าคราวนี้บอลอ้อมกำแพงก่อนที่จะหลุดเสาออกไปไม่ได้ลุ้นอะไร
นาทีที่ 77 สเตอร์ริดจ์มาผ่อนคลายความกดดันให้"หงส์แดง"จนได้เมื่อลากบอลจากระยะ 35 หลาก่อนไปถึงหน้าเขตโทษแล้วชิปด้วยซ้ายก่อนที่บอลจะย้อยข้ามหัวมายฮิลล์เสียบใต้คานไปอย่างสวยงามเหลือเกินเป็นประตูที่ 8 ของเขาในพรีเมียร์ลีก
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายเจอร์ราร์ดเปิดเข้าในกรอบเขตโทษบอลลอยอยู่หน้าปากประตูและเป็นซัวเรซที่กลับหลังจักรยานอากาศอย่างสวยแต่ดันไปติดเซฟของมายฮิลล์ก่อนชนคานออกมา
ก่อนหมดเวลาสองนาทีซัวเรซเกือบได้ลูกที่สี่ของตัวเองเมื่อลากบอลไปถึงหน้าปากเขตโทษก่อนอัดเต็มด้วยขวาทว่ามายฮิลล์ยังพุ่งไปปัดทิ้งได้ทันเวลา
จบเกมลิเวอร์พูลได้อีก 3 แต้มทำให้มี 20 คะแนนตามหลังอาร์เซน่อลคู่แข่งในเกมหน้าเพียง 2 แต้มเหมือนเดิม