"จอนโจ้ เชลวีย์" เกมนี้เปิดตัวได้สวยเลยโดยเปิดเกมมายิงทีมเก่าไปก่อนแบบหล่อไส้แตกแต่มาดันทำ 2 แอสซิสต์ให้คู่แข่งทีมเดิมไล่แซงนำสุดท้ายกลับตัวกลับใจถวายพานให้ "มิชู" ยิงช่วย "หงส์ขาว" สวอนซี ไล่ตีเจ๊า "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล 2-2 ทำให้ลูกทีมกุนซือตาหวาน "เบรนแดน ร็อดเจอร์ส" กลับสู่ตำแหน่งจ่าฝูง
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2556
สวอนซี ซิตี้ 2-2 ลิเวอร์พูล
สนาม ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม ออกสตาร์ทเกมช่วงแรกมาได้เพียงแค่นาทีที่ 2 ของเกม "หงส์ขาว" สวอนซี เป็นฝ่ายได้ทักทายขึ้นนำก่อนเลยเมื่อกองหลังของ หงส์แดง โขกสกัดเคลียร์บอลออกมาไม่ขาดไปเข้าเท้าของเชลวี่ย์ที่ยิงวืดก่อนลากบอลหนีซาโก้แล้วยิงไปติดบล็อคของสเคอร์เทลในจังหวะแรกแต่บอลไม่ไปไหนทำหน้าเขาได้ยิงด้วยซ้ายอีกทีบอลพุ่งผ่านมือของมิโญเล่ต์ไปอย่างสวยงาม
แต่แล้วนาทีถัดมาก็เป็นเชลวี่ย์ที่มาทำพลาดเลยเมื่อเขาตัดบอลได้หน้าปากเขตโทษก่อนจ่ายคืนหลังไม่ดูตาม้าตาเรือบอลไปเข้าตีนของสเตอร์ริดจ์ที่รอฉกอยู่แล้วเข้าไปล่อเป้าฟอร์มก่อนยิงไม่มีเหลือเป็นประตูที่ 4 ของเขาในพรีเมียร์ลีก
หลังตีเสมอได้เกมตกมาเป็นฝ่ายของ"หงส์แดง"ที่เดินหน้าบุกเข้าใส่และได้จังหวะยิงอีกเมื่อคูตินโญ่ทำชิ่งกับเฮนเดอร์สันก่อนที่เพลย์เมคเกอร์บราซิลจะปั่นด้วยขวานอกกรอบบอลไม่ผ่านมือของฟอร์ม
เกมเปิดใส่กันแบบสนุกเลยและในนาทีที่ 12 คราวนี้เป็นฝั่งของเจ้าถิ่นบ้างโดยโบนี่หัวหอกตัวใหม่หาโอกาสสับไกหน้าปากเขตโทษบอลไปแฉลบลอดขาของซาโก้แต่มิโญเล่ต์ไม่พลาดพุ่งไปคว้าเอาไว้
นาทีที่ 15 เจอร์ราร์ดจ่ายบอลจากแดนตัวเองอย่างสวยไปถึงสเตอร์ริดจ์ที่พักบอลได้ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนพยายามหาจังหวะยิงเองด้วยซ้ายทั้งที่คูตินโญ่เติมขึ้นมาแล้วซึ่งทำให้บอลหลุดออกหลังไป
"หงส์แดง"มาได้โอกาสทำประตูอีกครั้งเมื่อได้เตะมุมด้านขวาของสนามเจอร์ราร์ดเปิดมาบริเวณเสาสองให้วิสดอมเทกตัวขึ้นโขกเหนือกว่าคนอื่นแต่บอลก็ข้ามคานออกไป
หลังจากนั้นไม่นานโมเซสลากบอลมาจากกลางสนามก่อนเปิดเลยมาให้เฮนเดอร์สันหน้าปากเขตโทษที่วิ่งเข้ามายิงด้วยซ้ายทันทีแต่บอลไปติดบล็อคของเดวิส
นาทีที่ 25 ลิเวอร์พูลพลาดได้ประตูอย่างน่าเหลือเชื่อเมื่อโมเซสโชว์พริ้วลากบอลหลบสองกองหลังของสวอนซีบริเวณริมเส้นด้านซ้ายก่อนบรรจงเปิดเข้ามาตรงเสาสองที่มีสเตอร์ริดจ์อยู่คนเดียวโล่งๆได้โขกเต็มๆแต่ฟอร์มยังกลับมาใช้ขาเซฟได้อย่างสวยงาม
เกมผ่านมาครบครึ่งชั่วโมงพอดีการผสานงานในแดนหน้าของ"หงส์ขาว"ก็เกือบทำให้ทีมได้ประตูโดยมิชูพลิกบอลขึ้นมาก่อนจ่ายไปให้โบนี่ยิงจังหวะแรกด้วยซ้ายตรงหัวกะโหลกพอดีแต่มิโญเล่ต์ก็ไม่พลาดพุ่งไปตะครุบเอาไว้
และเป็นเชลวี่ย์ที่ทำพลาดอีกแล้วเมื่อจ่ายบอลพลาดไปเข้าเท้าของโมเซสก่อนที่ดาวยิงไนจีเรียจะลากบอลขึ้นมาจากกลางสนามผ่านชิโก้กับเชลวี่ย์ก่อนซัดด้วยขวาหักข้อตรงหน้าปากเขตโทษบอลพุ่งเข้าไปซุกก้นตาข่ายทางเสาซ้ายมืออย่างสวยงามเป็นลูกแรกของเขาในสีเสื้อของทีมใหม่ด้วย
หลังจากนั้นไม่นานสวอนซีเกือบมาได้ประตูตีเสมอเร็วโดยมิชูตั้งป้อมส่องไกลจากระยะ 25 หลาบอลพุ่งแรงก่อนกระดอนพื้นแต่ยังไม่ยากเกินกว่าความสามารถของมิโญเล่ต์ที่พุ่งไปปัดไว้แล้วสเคอร์เทลตามมาเคลียร์ทิ้งไป
ถัดมาไม่นาน"หงส์ขาว"เกือบได้อีกทีโดยดายเออร์จับไกจากนอกกรอบเขตโทษมิโญเล่ต์พุ่งไปปัดไว้ได้แต่บอลไม่ไปไหนโบนี่วิ่งเข้ามาหมายปรี่ซ้ำให้สิ้นซากทว่าสเคอร์เทลยังไววิ่งตามลงมาเตะทิ้งออกไปได้อีกครั้ง
เข้าสู่ช่วงหลังยอดทีมแห่งเมอร์ซีไซด์ได้ฟรีคิกระยะราว 30 หลาเจอร์ราร์ดเปิดมาหน้าปากประตูบอลจะเข้าหัวของซาโก้อยู่แล้วแต่ชิโก้ยังไวลงมาโขกบอลทิ้งไปได้อย่างหวุดหวิด
"หงส์แดง"เกือบได้ประตูอีกแล้วจากจังหวะเล่นฟรีคิกจากตำแหน่งเดิมคราวนี้"หัวขิง"เปิดมาที่เสาสองเฮนเดอร์สันวิ่งสอดขึ้นมาก่อนแปยัดเข้ากลางกองหลังสวอนซีเคลียร์มาเข้าทางวิสดอมแปสวนไปแต่ฟอร์มก็ยังพุ่งมาตะปบเอาไว้ได้อย่างสวยงาม
แต่แล้วในนาทีที่ 55 คูตินโญ่ที่โดนวิลเลี่ยมส์เข้าเสียฝืนเล่นต่อไปไม่ไหวมีอาการเดี้ยงบริเวณหัวไหล่ทำให้ต้องออกจากสนามและเป็นเอียโก้ อาสปาสได้โอกาสลงมาแทน
และจังหวะนี้ลูคัสไปมีปากเสียงอยู่กับเชลวี่ย์ร้อนถึงนักเตะทั้งสองทีมต้องมาแยกกันโดยพลันและคู่กรณีก็โดนแจกใบเหลืองไปสงบสติอารมณ์
เกมผ่านมาครบหนึ่งชั่วโมงแล้วคราวนี้"หงส์แดง"เดินเกมขึ้นมาตรงริมเส้นด้านซ้ายเอ็นริเก้เปิดเข้ากลางมาสวอนซีโหม่งไม่ดีบอลไปตกใส่เท้าของเจอร์ราร์ดที่เอี้ยวตัววอลเล่ย์สวนเข้ามาแต่ก็ยังมีวิลเลี่ยมส์ที่บล็อคทิ้งออกไป
นาทีที่ 64 สวอนซีมาตีเสมอได้อีกครั้งโดยเริ่มเกมมาจากที่เชลวี่ย์ได้บอลเปิดยาวมาหน้าปากเขตโทษก่อนโหม่งเช็ดไปให้มิชูปราดเข้ามายิงตามน้ำบอลผ่านมิโญเล่ต์เข้าไป
สวอนซีมีลุ้นยิงประตูอีกในนาทีที่ 73 เมื่อได้ฟรีคิกระยะ 25 หลาเป็นเชลวี่ย์ที่ลองสังหารเองบอลพุ่งลอดกำแพงมาได้แต่ก็ยังไปตรงตัวของมิโญเล่ต์ที่ก้มรับเข้าซองสบาย
ตอนนี้"หงส์แดง"เหมือนหลังพิงฝาโดนบุกใส่ฝ่ายเดียวเลยและเป็นเอ็นริเก้ที่โขกสกัดเคลียร์ไม่ขาดบอลมาตกตรงเส้น 18 หลาให้มิชูวิ่งเข้ามาอัดสวนเข้าไปแต่บอลเลยเสาไกลไปไม่มาก
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย"หงส์แดง"มาได้ลุ้นจากจังหวะฟรีคิกริมเส้นด้านซ้ายหลังสเตอร์ลิ่งโดนทำฟาวล์เป็น"หัวขิง"ที่ลองลักไก่ยิงแต่บอลไปตกบนหลังประตูเท่านั้น
สวอนซีก็ขึ้นมาอีกครั้งโดยคราวนี้เป็นโปซูเอโล่ที่เขี่ยบอลไปให้เด กุซมานวิ่งเข้ามาอัดจากระยะ 20 หลาทว่าบอลไม่ตรงกรอบ
ก่อนหมดเวลา 3 นาที"หงส์ขาว"เกือบได้ประตูอีกจากจังหวะฟรีคิกระยะ 25 หลาของเด กุซมานบอลพุ่งจะเข้าไปทางเสาขวามืออยู่แล้วแต่มิโญเล่ต์ยังพุ่งไปปัดไว้ได้ด้วยมือเดียว
ช่วทดเวลาบาดเจ็บ 5 นาทีเป็นสวอนซีที่ขึงพืดอยู่ฝั่งเดียวแต่ท้ายที่สุดแล้วลิเวอร์พูลก็ยังยันอยู่เก็บ 1 แต้มอันมีค่าออกจากลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยมได้อย่างหวุดหวิดพร้อมกลับไปเป็นจ่าฝูงเดี่ยวๆอีกครั้งส่วนเจ้าบ้านขยับขึ้นมาอยู่อันดัน 13 ของตาราง