พิมพ์

[HotlineSoccer]

       หลายปีให้หลังเราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูลมากมาย ชนิดที่ต้องบอกว่าไม่น่าเชื่อว่ามันจะมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆนานาที่มากมายขนาดนี้เกิดขึ้นกับสโมสรระดับท็อปของโลกที่น่าจะเป็นสโมสรซึ่งมีความเสถียรมากดังเช่นสโมสรอย่าง แมนฯยูไนเต็ด บาร์เซโลน่า เป็นต้น ซึ่งสองสโมสรต้นแบบนั้น ทิศทางการเปลี่ยนแปลงต่อรุ่นสู่รุ่นจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในแบบที่ “เปลี่ยนเท่าที่จำเป็น” และเป็นการเปลี่ยนแบบเล็กน้อยๆ เปลี่ยนเฉพาะจุดเท่านั้น ทว่าทีมหงส์แดงลิเวอร์พูล เปลี่ยนแปลงในแบบที่เรียกว่าสเปะสปะ หลายๆการเปลี่ยนแปลงทำเอาแฟนบอล คนดูบอล ลืมไปเลยด้วยซ้ำ

       บางคนจำไม่ได้ด้วยว่าครั้งนึงรอย ฮ็อดจ์สันผู้จัดการทีมสิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษคนปัจจุบันเคยเข้ามารับตำแหน่งคุมทีมลิเวอร์พูลในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงสานต่อมาเป็นเคนนี่ ดัลกลิช แน่นอนตัวผู้เล่นในทีมลิเวอร์พูลก็ถูกเปลี่ยนแปลงไปด้วย นักเตะที่ถูกเสริมเข้ามาในยุคของ รอย ฮ็อดจ์สัน ก็ต้องกระเด็นออกจากทีมไปเมื่อ ดัลกลิช เข้ามาคุมทีม ทั้งพอล คอนเชสกี้ คริสเตียน โพลเซ่น มิลาน โยวาโนวิช และก็อาจมีคนอื่นๆอีกที่ผมจำไม่ได้ ทั้งนี้พอเข้าสู่ยุคของการบริหารจัดการทีมโดย เคนนี่ ดัลกลิช เราก็ได้เห็นการเปลี่ยนทั้งในรูปแบบการเล่น และตัวผู้เล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเสริมทีมโดยเน้นผู้เล่นสัญชาติอังกฤษเป็นหลัก มีการคว้าเอาแอนดี้ คาร์โรลกองหน้าร่างยักษ์มาทดแทนการจากไปของตอเรสด้วย่าตัวมากถึง 35 ล้านปอนด์ มีการคว้าเอาปีกจรวดทีมชาติอังกฤษอย่างสจ็วต ดาวนิ่งเข้ามาในราคาราว 20 ล้านปอนด์ มีการดึงจอร์แดน เฮนเดอร์สัน นักเตะทีมชาติอังกฤษชุดยู 21 เข้ามาด้วยเช่นกันในราคาประมาณ 20 ล้านปอนด์

       นอกจากนี้ยังมีการดึงเอาแบ็กซ้ายกำลังสำคัญจากทีมนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ซึ่งก็คือ โฆเซ่ เอ็นริเก้เข้ามาด้วย แถมยังดันดาวรุ่งในทีมที่ชื่อว่า เจย์ สเปียริ่งขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมในหลายๆนัด ทุกอย่างเป็นการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ทำเอาลิเวอร์พูลเปลี่ยนแปลงไปแบบสิ้นเชิงเลย หลายคนลืมภาพลิเวอร์พูลสมัยที่ราฟาคุมทีม สมัยที่รอย ฮ็อดจ์สันคุมทีมไปเลย

[HotlineSoccer]

       ต่อจากคราวที่แล้วกล่าวค้างไว้ถึงผลการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากลิเวอร์พูล โดยต่อรุ่นสู่รุ่นของผู้จัดการทีมคนเดิมสมัยราฟา รอย ฮ็อจ์สันมาถึงเคนนี่ ดัลกลิช ซึ่งได้เห็นภาพกันไปแล้วว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาสั้นๆ แต่มากมาย ถึงคราวมาวัดที่ผลงานจากการเปลี่ยนแปลง ถามว่ามีอะไรดีขึ้นสำหรับการเปลี่ยนลิเวอร์พูลยุคของเคนนี่ ดัลกลิช ตอบได้ว่าคือหนึ่งแชมป์สำคัญที่ลิเวอร์พูลหากหายจากความสำเร็จไปนานก็คือ แชมป์ลีก คัพถ้วยใบเล็กๆของอังกฤษ

       กับอีกหนึ่งผลงานการคว้ารองแชมป์ในรายการฟุตบอลอันเก่าแก่ของอังกฤษ ถ้วยเอฟเอคัพ นั่นเอง ซึ่งผลงานดังกล่าวจะเรียกว่าน่าพอใจก็คงได้ จะเรียกว่าไม่น่าพอใจก็คงได้เช่นกัน เพราะโดยเนื้อแท้เป้าหมายของหงส์แดง คือการตีตั๋วพาทีมกลับไปอยู่ในเส้นทางของการชิงชัยความเป็นเจ้ายุโรปอีกครั้ง พร้อมกับการหวนคืนความสำเร็จในเวทีฟุตบอลลีกสูงสุดแดนผู้ดี ทว่าสิ่งที่เคนนี่ ดัลกลิชทำยังไม่ใกล้เคียงสิ่งนั้นเลยแม้แต่น้อย คราวนี้จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งใหญ่ในระยะเวลาสั้นๆ โดยเป็นการเปลี่ยนถ่ายจากเคนนี่ ดัลกลิชสู่ แบรนแดน ร็อดเจอร์ส การเข้ามาของแบรนแดน ร็อดเจอร์สก็ถือเป็นการเข้ามาเปลี่ยนโฉมของหงส์แดง ลิเวอร์พูลไปอย่างสิ้นเชิงอีกครั้ง เริ่มตั้งแต่มาไล่เปลี่ยนแปลงระบบการเล่น เน้นสไตล์การส่งบอลสั้น ต่อบอลเท้าต่อเท้า ผู้เล่นรายๆเก่าๆตั้งแต่แอนดี้ คาร์โรล เดิร์ก เค้าท์ มักซี่ โรดิเกวซก็โดนโละ 

       พร้อมกับดึงเอานักเตะในแบบที่ร็อดเจอร์สต้องการเข้ามา เริ่มตั้งแต่ โจ อัลเลน บอรินี่ สเตอร์ริดจ์ พร้อมกันดันนักเตะดางรุ่งในแบบที่ชอบ (ราฮีม สเตอร์ลิ่ง) ขึ้นมา นักเตะดางรุ่งที่เคยรุ่งเรืองในสมัยดัลกลิชก็คือ เจย์ สเปียริ่งก็หายต๋อมไปตามระเบียบ และหลังจากผ่านพ้นฤดูกาลแรกการเปลี่ยนถ่ายก็ยังไม่จบ นักเตะอย่างดาวนิ่ง เฮนเดอร์สัน ที่ถูกดึงเข้ามาสมัยดัลกลิชก็เหมือนจะถูกโละออกไปตามระเบียบเช่นกัน เพราะตอนนี้ได้มีการดึงนักเตะใหม่ๆอาทิเช่น หลุยส์ อัลแบร์โต้ ยาโก้ อัสปาส เข้ามารอเสียบแทนอยู่ก่อนแล้ว แต่ทั้งนั้นทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเป็นบทสรุปที่ลิเวอร์พูลต้องการหรือไม่ หรือจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายระยะเวลาอันรวดเร็วแบบนี้ไปอีกเรื่อยๆ เราต้องรอคำตอบกันในฤดูกาลหน้าครับ