หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 10
 41 
 เมื่อ: มีนาคม 29, 2016, 07:37:17 PM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman

       งานนี้เรียกว่ารอลุ้นกันได้เลยสำหรับอนาคตของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หัวหอกแก่ไม่เกินแกงชาวสวีดิชใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพราะล่าสุดเจ้าตัวออกมาเปิดเผยเองแล้วว่า ได้รับความสนใจจากทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษจริง แต่ตอนนี้ยังไม่เร่งรีบตัดสินใจตกลงปลงใจกับทีมใด ส่วนอนาคตกับทางต้นสังกัดในลีกเอิง “ปารีส แซงต์ แชร์กแมง” ก็ชี้แจงแถลงไขชัดเจนเช่นกันว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องสัญญาใหม่ใดๆกันทั้งสิ้น

       ทั้งนี้ อิบรา ตกเป็นข่าวว่าจะได้อำลาทีมเปแอสเชมาสักพักแล้ว โดยสื่อพากันพูดกันว่านักเตะต้องการย้ายไปหาความท้าทายใหม่ๆในช่วงปลายอาชีพ โดยเฉพาะกับการไปลุยลีกยอดนิยมที่สุดของโลกอย่าง พรีเมียร์ลีก

       ขณะที่ข่าวจากทางฝั่ง เปแอสเช เองก็ออกมาเช่นกันว่าพวกเขากำลังกางแผนหากองหน้ารายใหม่ มาทดแทนการไปของ อิบราฮิโมวิช และ เอดิสัน คาวานี่ ในซัมเมอร์นี้

       อย่างไรก็ตาม อิบราฮิโมวิช ซึ่งเป็นนักเตะที่ถูกยกย่องเรื่องฝีเท้าในช่วงอายุเดียวกันมากที่สุด กล่าวเผยถึงอนาคตของตนเองในช่วงจบซีซั่นนี้ว่า

       "เป็นความจริงที่ทีมจากพรีเมียร์ลีกสนใจในตัวผม พวกเขาเป็นลีกที่โด่งดังที่สุดของโลก และก็มักจะเป็นข่าวใหญ่โตในแวดวงฟุตบอลเสมอ แต่ผมยังไม่ตัดสินใจอะไรเกี่ยวกับอนาคตของผมทั้งนั้น ผมจะตัดสินใจเลือกว่าต้องการอะไรเมื่อมันถึงเวลานั้นจริงๆ ผมว่าการเลือกทีมมันก็เหมือนกับการเลือกคู่ครองนะ"

       "เราจะต้องเลือกสิ่งที่นำมาซึ่งความพึงพอใจ และความสุขของทั้งสองฝ่าย ส่วนเรื่องกับเปแอสเชน่ะเหรอมันก็ตามนั้นแหละผมมีสัญญาแค่จบซีซั่นนี้แล้วก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้อยู่ต่อแล้วล่ะ เราไม่ได้มีการพูดคุยสัญญาใหม่กัน นี่คือสถานการณ์ที่ผมเปิดเผยได้ ณ ตอนนี้"

       "ส่วนความเป็นไปอื่นๆนั้น เราก็ต้องรอดูว่าจะมีทางเลือกใดบ้าง แต่ผมคิดว่าผมมีทางเลือกมากมายทีเดียว (หลายทีมสนใจตนเอง) มันดูสดใสดีนะสำหรับอนาคตในซัมเมอร์นี้ แต่เราก็ต้องอดทนรอความชัดเจนกันสักหน่อย"

 42 
 เมื่อ: มีนาคม 29, 2016, 07:28:31 PM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman

       เรียกว่าต้องค่อยเป็นค่อยไปงานนี้สำหรับนโยบายอันเข้มงวดของกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล ของทีม ปีศาจแดง ที่จำกัดสิทธิ์การใช้งานห้องแต่งตัวของนักเตะดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด มิให้ใช้ห้องแต่งตังของทีมชุดใหญ่ร่วมกับเพื่อนร่วมทีมรุ่นพี่รายอื่นๆ แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะพิสูจน์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นทีมชุดใหญ่เต็มตัวแล้วก็ตาม

       ทั้งนี้แรชฟอร์ดในวัย 18 ปีสร้างความฮือฮาด้วยการแจ้งเกิดในวงการฟุตบอลได้ชั่วข้ามคืน ด้วยการทำประตูให้กับทีมปีศาจแดงในเกมสำคัญทันทีที่เพิ่งลงประเดิมสนาม และนับตั้งแต่นั้นทุกครั้งที่ได้โอกาสนักเตะก็ไม่เคยต้องทำให้แฟนบอลต้องผิดหวัง สามารถเล่นได้อย่างโดดเด่น และทำประตูได้เรื่อยๆ กระทั่งได้รับคำชื่นชมจากหลายคนอย่างชนิดที่เรียกว่าล้มหลามเลยทีเดียว

       อย่างไรก็ตามดังกล่าวข้างต้นแม้นักเตะลูกหม้อของปีศาจแดงรายนี้จะทำผลงานได้ดีขนาดนั้น ก็ไม่อาจละเมิดความเข้มงวดในการทำทีมของกุนซือชาวดัตซ์ไปได้ จากรายงานของ เดอะ มิร์เร่อร์ ซึ่งอ้างอิงแหล่งข้อมูลจากคนในสโมสรปีศาจแดงระบุว่า มาร์คัส ยังต้องใช้ห้องแต่งตัวของชุดยู 21 ในสนามซ้อมแคร์ริงตัน

       เขาไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ห้องแต่งตัวของทีมชุดใหญ่ แต่มันก็ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวหรอกนะ นักเตะเยาวชนที่แม้จะก้าวขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่แล้วอีกหลายคนก็ไม่ได้รับอนุญาตเช่นกัน มันเป็นนโยบายการดูแลนักเตะของผู้จัดการทีม เขาต้องการให้นักเตะอยู่คลุกคลีกับเพื่อนในวัยเดียวไปเรื่อยๆก่อน และเขาจะตัดสินใจเองว่าแข้งรายใดเหมาะสมที่จะได้รับอนุญาตให้ใช้งานห้องแต่งตัวร่วมกับเพื่อนร่วมทีมชุดใหญ่

       สรุปเจตนาของ หลุยส์ ฟาน กัล ได้แบบง่ายๆและชัดเจนว่าไม่ต้องการให้นักเตะนั้นเหลิงจนกระทั่งอาจส่งผลเสียต่อฝีเท้า และผลงานในอนาคตนั่งเองจึงพยายามควบคุมให้นักเตะได้ใช้ชีวิตในสโมสรไปตามช่วงวัยที่เหมาะสม

 43 
 เมื่อ: มีนาคม 25, 2016, 09:51:32 PM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman

       ต้องบอกว่าพากันโล่งใจได้เลยงานนี้สำหรับบรรดาบิ๊กทีมของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อล่าสุดได้มีการออกมายืนยันฟันเฟิร์มจากทาง สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า แล้วว่า ทีมจากอังกฤษจะยังคงได้สิทธิ์ หรือโควตาเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลถ้วยยุโรปใบใหญ่ “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก” เป็นจำนวน 4 ทีมเท่าเดิม เหมือนที่เคยเป็นมา

       แม้ว่าช่วงก่อนหน้านี้จะมีความกังวล และมีประเด็นขึ้นมาว่าจากผลงานอันย่ำแย่ในหลายซีซั่นหลังในเวทียุโรปของบรรดาทีมจากอังกฤษ อาจทำให้ค่าสัมประสิทธิ์ลดลง กระทั่งถูกทีมจากอิตาลีซึ่งทำผลงานได้ดีเมื่อซีซั่นที่แล้ว จากการที่ยูเวนตุสทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นั้นแซงขึ้นมานำเป็นที่สาม  ตามการจัดอันดับของยูฟ่าที่จะมอบสิทธิ์ 4 ทีมให้กับลีกที่มีค่าสัมประสิทธิ์ดีที่สุดสามอันดับแรก

       กล่าวคือปัจจุบันมี ลาลีกา สเปน และ บุนเดสลีกา เยอรมัน เป็นสองลีกที่มีค่าสัมประสิทธิ์ในการลงเล่นรายการถ้วยยุโรปดีที่สุด และ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตามมาเป็นอันดับส่วนอันดับสี่เป็น กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ที่มีโอกาสทำคะแนนแซงตามกล่าว

       อย่างไรก็ตามจากผลงานสาละเตี้ยลงแบบผิดความคาดหมายของทีมจากกัลโช่ ในซีซั่นนี้ที่พาเหรดกันจอดป้ายหมดตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ทีมจาก พรีเมียร์ลีก แม้โดยรวมผลงานจะยังแย่แต่ยังเหลือทีมที่อยู่รอดในทั้งสองรายการ ทั้งถ้วยใบใหญ่และใบเล็ก

       คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ ลิเวอร์พูล ที่เตรียมลงเล่นรอบ 8 ทีมสุดท้ายพบกับ ดอร์ทมุนด์ ใน ยูโรป้าลีก

       จึงทำให้ยูฟ่าออกมายืนยันว่าโควตาที่ทาง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะได้สำหรับเข้าเล่นรายการฟุตบอลถ้วยยุโรปใบใหญ่ซีซั่นหน้านั้นจะยังเป็น 4 ทีมเท่าเดิม แบ่งเป็นโควตาสามอันดับแรกที่จะได้เข้าเล่นในรอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ และอันดับที่สี่ที่จะต้องลงเล่นในรอบคัดเลือกหรือเพลย์ออฟก่อนหนึ่งเกม

 44 
 เมื่อ: มีนาคม 25, 2016, 09:46:24 PM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman

       ได้เฮกันแล้วล่ะงานนี้สำหรับแฟนบอลเดอะ ค็อปของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล เมื่อล่าสุดมีรายงานข่าวออกมาตอกย้ำสถานการณ์อนาคตของ มาริโอ เกิทเซ่ มิดฟิลด์พรสวรรค์ทีมชาติเยอรมันของทีมเสือใต้อีกครั้งว่า น่าจะได้โยกซบทีมหงส์แดงในซัมเมอร์นี้ค่อนข้างแน่นอนแล้ว เหตุเพราะมีความชัดเจนออกมาแล้วว่านักเตะจะไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์เสือใต้คนใหม่ที่จะเข้ามาทำทีมในซีซั่นหน้า

       ทั้งนี้ก่อนหน้านี้มีข่าวลือเกี่ยวกับอนาคตของ มาริโอ เกิทเซ่ ออกมาสักพักใหญ่ๆแล้ว และตัวนักเตะเองก็เคยได้ออกมากล่าวเปิดใจแล้วว่าสนใจที่จะย้ายออกจากทีม โดยเฉพาะการย้ายไปหาประสบการณ์ใหม่ๆใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่ก็ต้องรอดูความชัดเจน  และพูดคุยกับกุนซือคนใหม่ของเสือใต้ถึงแนวทางการทำทีมก่อน (ว่าตนเองจะได้อยู่ในแผนการทำทีมหรือไม่)  หลังช่วงที่ผ่านต้องเผชิญกับความยากลำบากตลอดระยะเวลาการทำงานร่วมกับกุนซือ โจเซป กวาร์ดิโอล่า

       อย่างไรก็ตามล่าสุดสื่อรายงานออกมาว่า นักเตะได้รับแจ้งแล้วว่าจะไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของอดีตนายใหญ่ราชันชุดขาว พร้อมกันนี้ก็ยังมีการลือกันด้วยว่านักเตะได้ส่งข้อความพูดคุยกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่หงส์แดงที่เคยได้ร่วมงานกันตอนที่ทั้งคู่อยู่ดอร์ทมุนด์

       ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงมากเลยที่เรื่องราวจะลงเอยด้วยการที่ มาริโอ เกิทเซ่ ย้ายไปเริ่มต้นชีวิตค้าแข้งใหม่ในถิ่นแอนฟิลด์ของทีมหงส์แดง โดยที่ราคาค่าตัวที่หงส์แดงจำเป็นจะต้องจ่ายให้กับเสือใต้ เพื่อปลดล็อคอนาคตนักเตะน่าจะอยู่ที่ราว 30 ล้านปอนด์

       เกิทเซ่ ถือได้ก้าวขึ้นมาโดดเด่นอย่างมากในการเล่นให้กับ ดอร์ทมุนด์ ยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เมื่อหลายซีซั่นก่อนทว่านับตั้งแต่ย้ายซบ บาเยิร์น มิวนิค ท่ามกลางกระแสฮือฮาจากแฟนบอล นักเตะก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงเพราะไม่สามารถสอดแทรกเป็นตัวหลักให้กับทีมได้เลย

 45 
 เมื่อ: มีนาคม 25, 2016, 09:26:01 PM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman

       เรียกว่าไม่มีเกี่ยงเลยงานนี้สำหรับ เจมี่ วาร์ดี้ หัวหอกฟอร์มร้อนทีมชาติอังกฤษของทีมสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ เพราะแม้ว่าจะทำผลงานได้โดดเด่นมากกว่ากองหน้าชาวอังกฤษรายอื่นๆ ในการลงเล่นฐานะกองหน้าตัวเป้าให้กับทีมจิ้กจอกสยาม โดยซัดไปแล้วถึง 19 ประตู และมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการนำพาจิ้กจอกลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นสมัยแรก

       แต่เจ้าตัวก็ยืนยันผ่านสื่อชัดเจนว่าไม่ว่าจะเป็นการลงเล่นในตำแหน่งไหนในทัพสิงโตคำราม ตนเองก็พร้อมลงเล่นตามที่กุนซือ รอย ฮ็อดจ์สัน ต้องการทั้งนั้น ไม่ยึดติดว่าจะต้องเป็นกองหน้าตัวเป้าของทีมเท่านั้น

       ทั้งนี้ดังที่ทราบกันว่า วาร์ดี้ โชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงเหลือเกินในช่วงที่หลายคนมองว่าเป็นช่วงปลายอาชีพค้าแข้งแล้ว และนั่นก็เป็นเหตุผลให้เจ้าตัวถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษ ทว่าด้วยความที่อังกฤษชุดนี้มีกองหน้าฝีเท้าดีอยู่หลายรายทั้ง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ของหงส์แดงที่เพิ่งหายกลับมาจากอาการบาดเจ็บ แฮรี่ เคน ดาวเด่นของท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์สที่เล่นได้โดดเด่นมากๆเมื่อซีซั่นที่แล้ว และยังคงรักษามาตรฐานเอาไว้ได้ในซีซั่นนี้รวมถึง เวย์น รูนี่ย์ กองหน้ากัปตันทีมวัยเก๋าจากปีศาจแดง

       ทำให้ รอย ฮ็อดจ์สัน น่าจะมีความหนักใจไม่น้อยในการเลือกจัดทัพนักเตะลงสนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเลือกมอบหมายให้นักเตะรายใดเป็นกองหน้าตัวเป้าในแผงผู้เล่น 11 ตัวจริงของทีม

       อย่างไรก็ตาม วาร์ดี้ กล่าวแสดงสปิริตการรับใช้ชาติว่า "ผมมีความสุขมากๆเลยนะที่จะได้ลงเล่นให้ทีมชาติ มันไม่จำเป็นว่าจะเป็นตำแหน่งไหน ผมเล่นตรงไหนก็ได้ที่โค้ชเห็นว่าผมสามารถปรับการเล่นของตนเองได้และเหมาะสมกับแท็คติกของทีม มันเป็นเกียรติจริงๆที่จะได้ลงเล่นเป็นตัวแทนของประเทศ ดังนั้นแล้วแม้ต้องเล่นในตำแหน่งที่ผมไม่เคยเล่นผมก็พร้อมลงเล่น ใช่ผมมีความสุขมากกับการลงเล่น ที่สำคัญไม่ว่าตำแหน่งไหนผมพร้อมทุ่มเทเต็มร้อยเสมอ ตัวตนผมเป็นแบบนี้ และฟุตบอลของผมก็เป็นแบบนี้แหละ"

 46 
 เมื่อ: มีนาคม 24, 2016, 07:59:27 PM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman

       เรียกว่าต้องอุทานว่าซะอย่างนั้นเลยทีเดียว สำหรับข่าวคราวเกี่ยวกับแพลนการปรับเปลี่ยนทีมของหงส์แดงล่าสุด ที่สื่อรายงานออกมา เพราะตามรายงานแบบไม่อ้างอิงข้อมูลวงในสักเท่าไหร่นั้นระบุว่า หงส์แดง กำลังเตรียมที่จะโละ มาร์ติน สเคอเทล ปราการหลังตัวหลักสโลวัก ที่อยู่ค้าแข้งกับทีมมาเนิ่นนานออกจากทีมในตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้ หลังนักเตะเล่นได้อย่างหลุดฟอร์มในเกมที่ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามไปแทน เดยัน ลอฟเรน ที่หงส์แดงพลิกพ่ายให้กับนักบุญ เซาธ์แฮมป์ตันไป 3-2

       ทั้งนี้ตามที่ทราบกันดีว่า มาร์ติน สเคอเทล ถือว่าเป็นกองหลังตัวหลักของหงส์แดงทั้งเมื่อหลายปีก่อน และในซีซั่นปัจจุบันด้วย แต่ช่วงที่ผ่านมาเจ้าตัวเกิดได้รับบาดเจ็บ ทำให้นายใหญ่ชาวเยอรมันไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากการเลือกใช้บริการของ เดยัน ลอฟเรน และ มามาดู ซาโก้ สองปราการหลังค่าตัวแพงที่ฟอร์มการเล่นหลุดลุ่ย ชนิดที่แฟนบอลเดอะค็อปใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยเมื่อนักเตะลงสนามบัญชาการเกมรับ

       ทว่ากาลเวลากลับพิสูจน์คนทั้ง ลอฟเรน และ ซาโก้ ทำผลงานได้ดีในช่วงหลายเกมหลัง กระทั่งอดีตนายใหญ่ทีมเสือเหลืองประทับใจผลงานไปโดยปริยาย และจากความผิดพลาดในการจูนฟอร์มการเล่นของ สเคอเทล หลังหายกลับมาจากอาการบาดเจ็บเกมแรก จึงพาให้สื่อออกมาลือข่าวไปถึงการโละปราการหลังกัปตันทีมชาติสโลวะเกียด้วยเช่นกัน

       โดยสื่อระบุทำนองว่าเวลานี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไว้วางใจ เดยัน ลอฟเรน และ มามาดู ซาโก้ ในการจับคู่กันบัญชาเกมรับให้หงส์แดงแล้ว และมองว่าการที่เซ็นต์สัญญากับ มาติป กองหลังของชาลเก้ 04 ไว้ล่วงหน้าแล้วนั้น น่าจะทำให้ในซีซั่นหน้ามีนักเตะตำแหน่งปราการหลังตัวกลางไว้ให้เลือกใช้งานมากพอแล้ว ดังนั้นการขาย มาร์ติน สเคอเทล ออกไปเพื่อนำเงินสมทบซื้อแข้งรายใหม่อย่าง มาริโอ เกิทเซ่ ตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อหงส์แดงมากกว่า

 47 
 เมื่อ: มีนาคม 24, 2016, 07:49:03 PM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman

       ต้องบอกว่าถอดใจไม่เอาแล้วกับข่าวคราวที่ออกมาล่าสุดเกี่ยวกับราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกา สเปนกับ ดาบิด เด เกอา ผู้รักษาประตูมือหนึ่งทีมชาติสเปนของทีมแมนฯยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพราะตามรายงานข่าวระบุว่า ราชันชุดขาว ได้ล้มเลิกแผนการตามตื้อซื้อมือประตูรายนี้มาเป็นตัวแทนถาวร อีเกร์ กาซิยาส แล้ว เนื่องจากมองว่าค่าตัวนักเตะที่ปีศาจแดงเรียกร้องนั้นมากเกินไป

       และในซีซั่นปัจจุบัน เคย์เลอร์ นาบาส มือประตูทีมชาติคอสตาริก้าก็ทำผลงานได้ดี ตามมาตรฐานที่สโมสรคาดหวังด้วย ดังนั้นการขยายสัญญาให้กับ นาบาส หรือมอบสัญญาใหม่พร้อมอัพค่าเหนื่อยตอบแทนนักเตะ เพื่อให้อยู่เป็นมือหนึ่งในถิ่นเบร์นาบิวซีซั่นหน้าต่อไปน่าจะเป็นสิ่งที่สมควรทำมากกว่า

       ทั้งนี้ข่าวคราวอนาคตของ ดาบิด เด เกอา ในตลาดซื้อขายซัมเมอร์ปีที่แล้วถือว่าเป็นหนึ่งมหากาฬแห่งโลกฟุตบอล ด้วยเหตุว่าทางนักเตะนั้นอยากย้ายซบทีมราชันชุดขาว ขณะที่ชุดขาวเองก็ต้องการให้นักเตะไปเป็นตัวตายตัวแทนของกาซิยาสดังกล่าว แต่ปีศาจแดงเองก็ไม่ต้องเสียนักเตะออกไป และพยายามยื้อให้ได้ค่าตัวมากที่สุดเท่าที่จะทำได้กรณีที่ไม่อาจรั้งนักเตะเอาไว้ได้ กระทั่งถึงวันเส้นตายตลาดซื้อขายนักเตะการจัดการเรื่องเอกสารการย้ายทีมของทั้งสโมสรจึงเกิดขึ้น

       ทว่าด้วยเวลาอันจำกัดและความผิดพลาดด้านซอฟท์แวร์ที่ใช้ในการส่งเอกสารของทั้งสองสโมสร จึงทำให้ดีลการย้ายทีมล่มลงไม่เป็นท่าและแม้ว่า เรอัล มาดริด จะพยายามชี้แจงเหตุผลแต่ท้ายที่สุดยูฟ่าก็ไม่อนุมัติการย้ายทีมของ เด เกอา

       อย่างไรก็ตามหลังจากตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ปิดไปไม่นาน ดาบิด เด เกอา ก็ขยายสัญญากับทีมปีศาจแดงออกไปพร้อมกันนั้นก็ยังมีข่าวตามมาอยู่ดีว่าเรอัล มาดริดจะกลับมาล่าลายเซ็นนักเตะอีกครั้งในซัมเมอร์ปีนี้

 48 
 เมื่อ: มีนาคม 24, 2016, 07:43:02 PM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman

       งานนี้เรียกว่าไม่ต้องกลัวเหงาช่วงปิดซีซั่นเลย สำหรับแฟนบอลของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป เพราะล่าสุดมีการคอนเฟิร์มจากบรรดาทีมดังที่มีแฟนบอลอยู่มากมายทั่วโลกแล้วว่า จะเข้าร่วมคิกออฟทัวร์นาเม้นท์กึ่งทางการที่จะเป็นการเตรียมตัวปรีซีซั่นซัมเมอร์นี้ที่สหรัฐอเมริกา ในชื่อ อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ

       โดยทีมดังจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่าง เลสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, เชลซี จะเข้าร่วมทัวร์นาเม้นท์ ปะทะแข้งกับยักษ์ใหญ่ประจำยุโรป อย่าง บาเยิร์น มิวนิค, บาร์เซโลน่า โดยตามรายงานจากสื่อที่ออกมาล่าสุด รายการนี้ถือเป็นการรวมเอาทีมดัง และทีมยักษ์ใหญ่จากทั่วทั้งยุโรปมารวมกันฟาดแข้งมากที่สุดเลย

       นอกจาก บาเยิร์น มิวนิค, บาร์เซโลน่า ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ทีมแชมป์ลีกเอิงอย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง รวมไปถึงทีมแกร่งจากกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี อาทิเช่น เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน และยักษ์ใหญ่จากสก็อตติช พรีเมียร์ลีก “กลาสโก เซลติก” ก็จะพาเหรดกันเข้าฟาดแข้งรายการนี้ด้วย

       ทั้งนี้ประธานฝ่ายจัดการแข่งขันทัวร์นาเม้นท์นี้ซึ่งก็คือ ชาร์ลี สติลลิตาโน่ ได้ออกมากล่าวแบบกึ่งๆแถลงข่าวว่าการจัดการแข่งขันในปีนี้ตามที่เราได้เห็นรายชื่อสโมสรที่จะเข้าร่วมการแข่งขันแล้วนั้น ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมของทัวร์นาเม้นท์ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่เราได้มีการดำเนินการจัดการแข่งขันขึ้นมา

       มันบ่งบอกถึงการพัฒนาและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ นี่นับเป็นบรรดาทีมแข่งขันที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์การจัดแข่งขันของเราเลย ผมว่ามันเป็นผลดีมากๆต่อทั้งทีมสโมสรต่างๆเอง และแฟนบอลของทีมด้วยในการที่จะได้มาดวลแข่งกันมาเผชิญหน้ากันก่อนที่ซีซั่นจริงจะเริ่มต้น ตัวอย่างเกมเช่นการพบกันของ เรอัล มาดริด กับ บาเยิร์นมิวนิค และ เชลซี พบ ลิเวอร์พูล มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความสุดยอดของรายนี้จริงๆพวกเราตื่นเต้นไปกับมันแล้วก็อยากให้มันเริ่มต้นขึ้นซะแล้วสิ

 49 
 เมื่อ: มีนาคม 11, 2016, 05:45:35 PM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman

       ต้องมีถามความเห็นแฟนบอล ปีศาจแดง เลยงานนี้ว่าจะว่าอย่างไรหากทีมเลือก เจนนาโร่ กัตตูโซ่ อดีตตำนานนักเตะของทีมปีศาจแดงดำ เอซี มิลาน ที่ปัจจุบันกุมบังเหียนทีม เอซี ปิซา ให้เข้ามาเป็นกุนซือกับปีศาจแดง เพราะล่าสุดอดีตตำนานนักเตะฉายารถถังรายนี้ได้ออกมาเผยว่าพร้อมเก็บข้าวของไปยัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เสมอหากว่าได้รับการติดต่อจากปีศาจแดง

       ทั้งนี้ กัตตูโซ่ ถือว่าเป็นหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในฐานะนักเตะอาชีพ โดยเจ้าตัวรับใช้ เอซี มิลาน ยอดทีมแห่งอิตาลีเป็นระยะเวลานาน และถือว่าได้อยู่ในช่วงของการครองความยิ่งใหญ่ของมิลานด้วย เช่นเดียวกันในนามทีมชาตินักเตะก็เคยประสบความสำเร็จสูงสุดด้วยการคว้าแชมป์โลก 2006 ร่วมกับทัพอัซซูรี่มาแล้ว

       อย่างไรก็ตามแม้ว่าช่วงที่ผ่านมาเจ้าตัวจะไม่เข้าข่าย เป็นหนึ่งกุนซือตัวเลือกของทีมปีศาจแดงที่กำลังมองหาตัวแทนของ หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่ชาวดัตซ์ที่โดนแฟนบอลของทีมไล่เช้าไล่เย็น แต่เจ้าตัวก็ออกมาเผยว่าพร้อมตอบรับข้อเสนอทันที ถ้ามีการติดต่อเข้ามาจากสโมสร แมนฯยูไนเต็ด

       กัตตูโซ่ กล่าวผ่านสื่อว่าถ้าผมได้รับข้อเสนอจากที่นั่นผมจะไม่ลังเลในการตัดสินใจเลย ผมจะตอบรับและไปเริ่มทำงานทันทีเลย บอกเลยว่าผมพร้อมสตาร์ทงานพรุ่งนี้เลยด้วยถ้าได้ข้อเสนอเข้ามาวันนี้ นอกจากนี้อดีตกองกลางฮาร์ดแมนก็ยังได้กล่าวไปถึงลักษณะของลีกอังกฤษที่มีความโดดเด่นแตกต่างจากลีกฟุตบอลชั้นนำอื่นๆอีกด้วยว่า

       ผมเองเกือบจะได้เล่นที่อังกฤษ เซอร์ อเล็กซ์ฯ (อดีตกุนซือปีศาจแดง) ให้ความเคารพในตัวผมเสมอ แล้วผมก็ชื่นชอบฟุตบอลอังกฤษ ในอิตาลีฟุตบอลของเราสู้กันด้วยแท็คติก แต่ที่อังกฤษจะเห็นได้เลยว่าเกมมันเร็วมาก นักเตะวิ่งกันอย่างรวดเร็วตลอด นั่นมันแสดงให้เห็นถึงพละกำลังที่ยอดเยี่ยมของพวกเขา ผมชื่นชอบการดูฟุตบอลอังกฤษ ผู้คนที่นั่นรักฟุตบอลจริงๆพวกเขามีลมหายใจเป็นฟุตบอลเลยล่ะ


 50 
 เมื่อ: มีนาคม 11, 2016, 05:25:32 PM 
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman

       ต้องบอกว่าเป็นวันของลูกทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ อย่างแท้จริงสำหรับค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 10 หรือเช้าของวันที่ 11 มีนาคมนั่นเอง เมื่อหงส์แดง ลิเวอร์พูล สามารถเปิดรังแอนฟิลด์อัดปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด ในศึก ยูฟ่า ยูโรป้าลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายไป 2-0 พร้อมกับกุมความได้เปรียบในการลุ้นเข้ารอบเอาไว้มากมาย ก่อนที่จะเล่นกันที่โอลแทรฟฟอร์ดสัปดาห์หน้า

       ทั้งนี้จากผลสกอร์ดังกล่าวทำให้ แมนฯยูไนเต็ด ของ หลุยส์ ฟาน กัล ดูมืดมนในการลุ้นเข้ารอบต่อไปทันที เพราะนอกจากผลต่างสกอร์ที่มากถึงสองสกอร์แล้ว การไม่สามารถทำประตูได้ในฐานะทีมเยือน ก็จะเพิ่มความกดดันในการเล่นเกมที่สองในบ้านขึ้นไป

       กล่าวคือเงื่อนไขแรกพวกเขาต้องยิงหงส์แดงให้เกมสองให้ได้มากถึง 3 ประตู และเงื่อนไขที่สองก็ต้องพยายามไม่เสียประตูแม้แต่ประตูเดียวด้วย กรณีที่พลาดท่าเสียประตูให้หงส์แดงนั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องยิงให้ได้อย่างน้อยถึงสี่ประตู (ถ้าชนะ 3-1 หงส์แดงก็จะได้เข้ารอบต่อไปด้วยกฎประตูทีเยือนอยู่ดี)

       สำหรับไฮไลท์ในเกมเลกแรกหงส์แดงของเจอร์เก้น คล็อปป์เลือกใช้ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าตั้งแต่เริ่มเกม โดยมีตัวทำเกมเป็นอดัม ลัลลาน่า, โรแบร์โต้  ฟีร์มิโน่ และฟิลิปเป้ คูติญโญ่ ส่วนกองหลังได้ เดยัน ลอฟเรน กลับมายืนคู่กับ มามาดู ซาโก้

       ด้านทีมเยือนปีศาจแดงจัด อองโตนี่ มาร์ซิอัล, มาร์คัส แรชฟอร์ด, ฮวน มาต้า และเมมฟิส เดอปาย รวมพลังประสานเกมรุก ประตูแรกของเจ้าบ้านหงส์แดงเกิดขึ้นในนาทีที่ 20 จากจุดโทษของ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ และจบครึ่งเวลาแรกไปด้วยสกอร์ 1-0

       ครึ่งเวลาหลัง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เพลย์เมกเกอร์ฟอร์มฮอตของทีมยิงประตูปิดกล่องฝังผีแดงเป็น 2-0 นาทีที่ 73

       ส่วนเรื่องของรูปเกมโดยรวม สถิติต่างๆที่เกิดขึ้นในเกมก็เป็นเจ้าบ้านที่ทำได้ดีกว่าชัดเจนโดยครองบอลได้มากกว่าถึง 60%-40% สร้างโอกาสยิงประตูได้รวม 10 ครั้ง ทีมเยือนทำได้ 5 ครั้งเท่านั้น


หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 10