91
เมื่อ: ธันวาคม 09, 2015, 05:03:04 AM
|
||
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman | ||
เรียกว่าทำเอาแฟนบอลปีศาจแดงถึงกับหน้าชื่นตาบานได้เลยเหมือนกันงานนี้ ในส่วนของการออกมากล่าวกึ่งเผยกึ่งแย้มถึงแพลนอนาคตการทำทีมจาก คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือมากความสำเร็จที่กำลังว่างงานอยู่ในเวลานี้ โดยเฉพาะกับแฟนบอลที่กำลังเบื่อหน่ายระบบการเล่นแบบเน้นแท็คติกของ หลุยส์ ฟาน กัล เพราะสิ่งที่อันเช่กล่าวออกมานั้นเหมือนจะบอกเป็นนัยๆว่า พร้อมที่จะรอเวลาให้ แมนฯยูไนเต็ด กับ หลุยส์ ฟาน กัล หมดสัญญาแล้วไปรับงานต่อ หรือรอจนกว่าจะสิ้นสุดซีซั่นหน้านั่นเอง ทั้งนี้ หลุยส์ ฟาน กัล กับ แมนฯยูไนเต็ด เซ็นสัญญาร่วมกันเป็นระยะเวลาสามปี โดยที่ตัวกุนซือชาวดัตซ์นั้นมีจุดยืนในการทำงานชัดเจนว่า หลังจากหมดสัญญาสามปีแล้วจะไม่มีการต่อสัญญาเพิ่มเติม เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตหลังจากนั้นไปกับการพักผ่อนกับครอบครัวอย่างเต็มที่ ดังนั้นแน่นอนว่าอย่างไรเสียทาง ยูไนเต็ด ก็ต้องมีการเฟ้นหากุนซือรายใหม่มาแทนที่ หลุยส์ ฟาน กัล ในปี 2017 และชื่อของ คาร์โล อันเชล็อตติ ที่กำลังว่างงานอยู่ตอนนี้ก็เป็นหนึ่งในชื่อที่สื่อได้มีการหยิบยกนำมาพูดถึง อย่างไรก็ตามดังที่กล่าวข้างต้นประเด็นที่ชวนเชื่อของเจ้าตัวน่าพูดถึงมากขึ้นก็คือ การออกมากล่าวเปรยๆถึงอนาคตจากเจ้าตัวเอง โดย อันเช่ กล่าวผ่านสื่อว่าถ้าจะมีงานดีๆรอเวลาให้ผมไปทำ หมายถึงทีมที่มีแผนงานดีๆ ผมก็รอได้ ระหว่างนี้ผมก็ไม่ได้เบื่อมันมีอะไรให้ผมได้ทำเยอะแยะมาก ผมก็ติดตามดูเกมฟุตบอลไป ทำกิจกรรมอย่างอื่น เช่น ตกปลา แต่ก็ต้องมาดูกัน อนาคตผมถ้าจะดูก็ต้องดูกันในช่วงซัมเมอร์ เพราะผมไม่ต้องการรับงานกลางคัน ถ้าผมจะพิจารณารับงานผมก็จะทำมันในช่วงซัมเมอร์ แน่นอนผู้จัดการทีมทุกคนก็อยากที่จะคุมทีมอย่างแมนฯยูไนเต็ดอยู่แล้ว แต่ตอนที่ผมตัดสินใจอยู่กับมาดริดต่อ (เมื่อซีซั่นที่แล้วและมาโดนปลดลงในซัมเมอร์ที่ผ่านมา) ผมก็ไม่ได้เสียใจอะไรนะ ถ้าผมจะหวนกลับรับงานคุมทีมฟุตบอลอีกครั้งนะแน่นอนผมต้องการคุมทีมที่มีโปรเจ็กต์ดีๆ แล้วก็หมายถึงทีมที่มีลุ้นแชมป์ด้วย ฟุตบอลที่พรีเมียร์ลีกมันยอดเยี่ยมจริงๆนะ ลีกที่นั่นถือว่าแข็งแกร่งมากแล้วผมก็อยากจะกลับไปที่นั่นนะ |
92
เมื่อ: ธันวาคม 09, 2015, 04:53:48 AM
|
||
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman | ||
เรียกว่าเป็นมิตรภาพ และกำลังใจแบบก้าวข้ามผ่านความเป็นคู่ปรับของสองสโมสรอย่างหงส์แดง ลิเวอร์พูล กับปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด เลยทีเดียวในส่วนของการออกมาเปิดเผยจากตัวกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ของหงส์แดงว่ามีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตบรมกุนซือของทีมปีศาจแดงผู้ที่พาปีศาจแดงประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่มาแล้ว ทั้งนี้แม้ว่าทั้งสองสโมสรจะเป็นคู่ปรับสำคัญตลอดกาลของวงการลูกหนัง แต่ในด้านของฝีมือ ความสำเร็จแล้ว เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถือได้ว่าเป็นกุนซือที่ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมอาชีพแทบจะทุกคน ซึ่งแน่นอนว่าหมายรวมถึงตัวของกุนซือชาวเยอรมัน “เจอร์เก้น คล็อปป์” ด้วย ล่าสุดจึงมีการออกมาเปิดเผยจากตัวกุนซือรายนี้ทำนองว่า รู้สึกประทับใจมากที่ได้รับคำยินดีกับผลงานการเริ่มต้นจากอดีตกุนซือทีมปีศาจแดง และมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว สำหรับการเริ่มต้นงานของ คล็อปป์ กับทีม หงส์แดง ในช่วงสองเดือนแรกถือว่ามีผลงานที่ยอดเยี่ยมมากทีเดียว จัดได้ว่าเป็นหนึ่งกุนซือที่น่าจะติดอันดับต้นๆของการออกสตาร์ทงานกับทีมใหม่ได้สวยหรู โดยในลีกสามารถพาหงส์แดงผุดขึ้นจากโซนกลางตารางได้อย่างสมบูรณ์แบบ ท่ามกลางโปรแกรมการแข่งขันที่ไม่เอื้ออำนวย ด้วยการหักปากกาเซียนถล่มเอาชนทีมบิ๊กของลีกทั้ง เชลซี และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คล็อปป์ กล่าวถึงการพูดคุยกับอดีตบรมกุนซือทีมปีศาจแดงว่าวันนี้ผมตื่นมากับข้อความจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เขายินดีกับผมด้วยสำหรับการเริ่มต้นงานที่หงส์แดง แต่สำหรับเรื่องอื่นๆนอกจากนี้ผมขอไม่เล่าละกันผมอยากจะเก็บมันไว้เป็นส่วนตัวบ้าง แน่นอนผมรู้สึกเป็นเกียรติมากทีเดียวที่ได้มีโอกาสพบกับเขา เขาคือกุนซือที่เป็นต้นแบบของกุนซือทั่วโลกอย่างแท้จริง บุคลิกส่วนตัวเขาเป็นคนตลกนะแต่ผมว่านี่คือประวัติศาสตร์ฟุตบอลที่ต้องศึกษาเลยล่ะ (เจอร์เก้น คล็อปป์ถือเป็นหนึ่งในกุนซือไม่กี่รายของหงส์แดงที่สามารถออกสตาร์ทงานได้อย่างน่าตื่นเต้น โดยพาทีมแพ้ไปแค่เดียวเดียวเท่านั้นจากการลงเล่น 10 เกมในทุกรายการ) |
93
เมื่อ: ธันวาคม 09, 2015, 04:49:08 AM
|
||
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman | ||
ถือได้ว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่ไปเลย เหมือนในส่วนของประเด็นการพูดถึงสถานการณ์ของทีมใหญ่อย่างเชลซีในซีซั่นนี้ ที่เพิ่งจะคว้าแชมป์ได้หมาดๆเมื่อซีซั่นที่แล้ว และก่อนหน้านั้นหลายซีซั่นติดต่อกันก็จัดเป็นหนึ่งทีมที่ได้ลุ้นแชมป์ตลอดเช่นกัน เพราะสิ่งที่พูดถึงกันตอนนี้กลับเป็นเรื่องของการดิ้นรนหนีตกชั้นเหมือนกับบรรดาทีมเล็กๆ หรือทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาจากลีกรองซะอย่างนั้น ทั้งนี้อันดับตารางคะแนนปัจจุบันของสิงห์บลูอยู่ที่ 14 และจำนวนแต้มที่เก็บได้นั้นก็ไม่ได้มากกว่าทีมในโซนตกชั้นสักเท่าไหร่หลังเกมการแข่งขันที่พวกเขาเปิดบ้านพ่ายให้กับทีมน้องใหม่ บอร์นมัธ กุนซือ โจเซ่ มูริญโญ่ จึงได้ออกมากล่าวถึงเรื่องประเด็นการดิ้นรนหนีตกชั้นว่า ตัวเขานั้นยังมั่นใจว่าทีมของตนเองจะไม่ย่ำแย่ ถึงขนาดตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องดิ้นหนีตกชั้นในซีซั่นนี้จริงๆหรอก โดยมูริญโญ่กล่าวว่าถ้าถามว่าผมเป็นกังวลไหมน่ะหรือที่ทีมอาจต้องดิ้นหนีตกชั้น แน่นอนก่อนเกมมันก็มีบ้างแหละ เพราะอันดับในตารางคะแนนของเราไม่ดี และผมไม่มีความสุขกับมันอยู่แล้ว แต่พูดก็พูดเถอะผมมั่นใจมากว่าทีมระดับเชลซีจะไม่เลวร้ายถึงต้องดิ้นรนหนีการตกชั้น พวกเราจะกลับมาแน่หลังจากนี้เราจะขยับไต่อันดับขึ้นมาเรื่อยๆ มันไม่ใช่ปัญหาของทีมเราที่จะต้องนำมาพูดถึงกันหรอกนะสำหรับการเล่นเพื่ออยู่รอดในลีกน่ะ ปัญหาที่เรากำลังเผชิญจริงๆคือเป้าหมายติดท็อปโฟร์ของเรา เพราะเราต้องการสิ่งนั้นแต่ตอนนี้มันยากมากแล้ว ฉะนั้นเราจะขอโฟกัสที่การติดหกอันดับแรกก่อน ส่วนเรื่องของข่าวคราวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือนั้น แม้ตอนนี้ เชลซี จะเพิ่งแพ้มาหมาดๆ และค่อนข้างสุ่มเสี่ยงต่อการหลุดเป้าหมายคือไม่สามารถจบท็อปโฟร์ได้ แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจน หรือกระแสข่าวออกมาว่าพวกเขาจะมีการปลด โจเซ่ มูริญโญ่ หรือไม่ |
94
เมื่อ: ธันวาคม 05, 2015, 02:12:43 AM
|
||
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman | ||
ถึงกับต้องอุทานว่าซะอย่างนั้นเลย เมื่อได้ทราบการออกมากล่าววิจารณ์นักเตะในทีมชุดปัจจุบันของปีศาจแดงสองรายซึ่งก็คือในรายของ มารูยาน เฟลไลนี่ และ อันเดร เอร์เรร่า จาก พอล อินซ์ อดีตตำนานนักเตะของทีมปีศาจแดง เพราะสิ่งที่อดีตกองกลางฮาร์ดแมนรายนี้กล่าวออกมาก็คือ การชี้ว่าแข้งสองรายนี้ไม่เหมาะที่จะเล่นให้ทีมปีศาจแดง ทั้งนี้ทั้งในรายของ มารูยาน เฟลไลนี่ และ อันเดร เอร์เรร่า ถือเป็นการเสริมทัพของปีศาจแดงในช่วงหลังที่เรียกเสียงฮือฮาและความคาดหวังจากแฟนบอลได้ในระดับนึง แต่หลังจากที่ทั้งสองได้เล่นให้กับทีมแล้วผลงานก็ไม่ได้ถือว่าดีสักเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้แย่จนเกินไป อาจจะมีบางช่วงเท่านั้นที่ฟอร์มตกผิดความคาดหวังอย่างน่าใจหาย อย่าง เฟลไลนี่ ก็เป็นในช่วงแรกๆที่ย้ายมาใหม่ๆเมื่อตอนยุค เดวิด มอยส์ ผลงานไม่เอาอ่าวจนเกือบจะโดนโละทิ้งพ้นทีมเลยด้วยซ้ำก่อนจะมาดีขึ้นในยุคของ หลุยส์ ฟาน กัล และพอจะอาศัยรูปร่างที่สูงใหญ่ในการเป็นทีเด็ดในเกมรุกให้ทีมได้เป็นครั้งคราว เช่นกันในราย เอร์เรร่า แม้ว่าจะไม่ได้ฟอร์มหลุดแบบน่าตกใจ ทว่ามันก็ไม่ได้ดีนักเมื่อเทียบกับค่าตัวเฉียดสามสิบล้านปอนด์ที่ยูไนเต็ดยอมจ่ายไป อินซ์ กล่าวถึงแข้งดังสองรายนี้ของยูไนเต็ดผ่าน แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ ว่าตอนที่ผมเห็นยูไนเต็ดควักเงินซื้อ เอร์เรร่า 29 ล้านตอนนั้นผมคิดเลยว่ามันเป็นราคาที่แพงเกินไป เขาเป็นนักเตะที่ตัวเล็กมาก ดูอ่อนแอโดยเฉพาะกับ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ต้องอาศัยความแข็งแกร่งของร่างกายเข้าสู้ แต่ผมก็เคยดูเขาเล่นในสเปนนะ ผมว่าที่นั่นแหละเหมาะกับเขาแล้วที่อังกฤษมันไม่เหมาะ ส่วน เฟลไลนี่ ก็น่าเห็นใจเขาถูกซื้อมาแพงเกินไป (ความคาดหวังจึงสูงตามไปด้วย) เขาทำได้ดีทีเดียวในการเล่นเป็นตัวปั้นเกมกับ เอฟเวอร์ตัน ของ เดวิด มอยส์ แต่เมื่อมาอยู่ที่ยูไนเต็ดแล้วมันดูจะไม่เหมาะกับเขานะ |
95
เมื่อ: ธันวาคม 05, 2015, 02:05:32 AM
|
||
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman | ||
ไม่รู้ว่างานนี้ทางด้านของ บิลิซ กุนซือ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ตั้งใจกล่าวสวนกระแสหรือว่ายังไงล่าสุดถึงได้กล่าวเอ่ยชมสไตล์การเล่นของทีมปีศาจแดงภายใต้การคุมทีมของกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล อย่างหน้าตาเฉยท่ามกลางกระแสเสียงวิจารณ์ในด้านลบมากมาย ที่มีต่อสไตล์การทำทีมของกุนซือรายนี้ ทั้งนี้อย่างที่ทราบกันดีว่าช่วงที่ผ่านมา หลุยส์ ฟาน กัล และทีม ปีศาจแดง โดนกล่าวตำหนิทั้งจากแฟนบอล และบรรดาคนดังในแวดวงลูกหนังถึงเรื่องระบบการเล่น สไตล์การเล่นที่ดูจะน่าเบื่อเอามากๆ โดยเฉพาะกับการเล่นเกมรุกที่ว่ากันว่าไร้ประสิทธิภาพ ไร้จิตนาการในการสร้างสรรค์เกมต่างจากในยุคของกุนซือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ทีมมีรูปแบบการเล่นเกมรุกอันน่าดุดันเป็นที่น่าเกรงขามของกองหลังฝ่ายตรงข้ามทุกทีม ถึงขนาดว่า พอล สโคลส์ อดีตตำนานนักเตะกองกลางของทีมได้ออกมากล่าวในเชิงชี้แนะ หลุยส์ ฟาน กัล เลยว่าควรจะต้องลืมปรัชญาในการทำทีมของตนเองไปเสียให้หมด แล้วหันกลับมาพาทีมปีศาจแดงเล่นเกมรุกแบบเต็มสูบก็พอ เพราะนั่นคือสิ่งเดียวที่แฟนบอลปีศาจแดงต้องการเห็น อย่างไรก็ตาม สเลวาน บิลิซ กุนซือ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่มีคิวจะต้องดวลแข้งกับลูกทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล ในช่วงสุดสัปดาห์นี้กล่าวแสดงความเห็นต่างว่า รูปแบบการเล่นที่เป็นอยู่ของยูไนเต็ดเวลานี้ซึ่งมีเกมรับที่เหนียวแน่น มีการครองบอลที่ยอดเยี่ยมนั้นเป็นการเล่นฟุตบอลที่มีประสิทธิภาพสูงมากแล้ว บิลิซ กล่าวว่าพวกเขาแตกต่างมากนะจากยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ฯ โดยเฉพาะกับเกมในบ้าน ผมคิดว่าพวกเขาเล่นได้น่าดูน่าชมทีเดียว มีเสียงวิจารณ์มากมายว่าพวกเขาเล่นกันน่าเบื่อมาก แต่เอาจริงๆพวกเขาครองเกมเหนือคู่แข่งตลอดเวลาเลยนะ นี่ไม่ใช่ทีมที่จะเล่นเกมตั้งรับอยู่แล้ว บางทีสไตล์ของพวกเขาอาจถูกขนานนามได้ว่าเป็นฟุตบอลน่าเบื่อ แต่ในด้านประสิทธิภาพแล้วพวกเขาครองเกมได้หมดเลย และสิ่งที่พวกเขาทำอยู่ตลอดก็คือพยายามเอาชนะให้ได้ทุกๆเกม |
96
เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2015, 08:18:22 AM
|
||
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman | ||
ต้องบอกว่ามีผลงานการันตีชัดเจนแจ่มแจ้งเลยสำหรับทางด้านของกุนซือเครางามทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ยอดทีมแห่งเมอร์ซี่ไซด์ อังกฤษ ที่จัดการซิวรางวัลกุนซือยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ แอลเอ็มเอ ที่จัดมอบโดยสมาคมผู้จัดการทีมในลีกอังกฤษ ทั้งนี้คล็อปป์เข้ามาทำงานกับทีมหงส์แดงได้เดือนกว่าๆ และการได้รับรางวัลดังกล่าวก็นับเป็นรางวัลเกียรติยศส่วนตัวรางวัลแรกที่ได้ในการทำงานในอังกฤษ จากผลงานอันยอดเยี่ยมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่พาหงส์แดงบุกไปถล่มทีมเศรษฐีเรือใบสีฟ้า แมนซิตี้ ได้ถึงถิ่นเอติฮัต สเตเดี้ยม 4-1 สำหรับรางวัลนี้ การตัดสินนั้นมีอดีตบรมกุนซือปีศาจแดงอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีส่วนในการตัดสินด้วย อย่างไรก็ตามนอกจากผลงานอันยอดเยี่ยมในสัปดาห์ที่แล้วของ เจอร์เก้น กระทั่งทำให้เจ้าตัวได้รับรางวัลดังกล่าวแล้ว ผลงานโดยรวมนับตั้งแต่ย้ายมาทำงานในพรีเมียร์ลีกกับทีมหงส์แดงก็จัดว่ายอดเยี่ยมมากด้วย เมื่อสามารถพาทีมคว้าชัยชนะในลีกไปได้แล้ว 2 นัด และคว้าชัยในรายการฟุตบอลถ้วยยุโรปได้ 2 นัด และแพ้ไปเพียงแค่นัดเดียวจากทุกถ้วยทุกรายการที่ลงแข่งขัน ส่วนในแง่ของผลงานนักเตะแบบรายบุคคลก็มีส่วนสำคัญมากๆ กับการทำให้นักเตะอย่าง มามาดู ซาโก้, ลูคัส เลว่า พัฒนาฟอร์มการเล่นขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญให้ทีมได้แบบเต็มตัวอีกครั้ง กล่าวคือในยุคของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นั้น มามาดู ซาโก้ กับ ลูคัส เลว่า มีฟอร์มการเล่นที่ไม่ดีเอาซะเลย ในรายของ ซาโก้ แทบจะเป็นตัวสำรองแบบถาวร ขณะที่ ลูคัส เลว่า ก็หมดเวลาไปกับอาการบาดเจ็บซะเยอะ แต่ในช่วงที่พร้อมลงสนามก็ไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ดี ทว่าพอได้ทำงานร่วมกับกุนซือชาวเยอรมันทั้งสองรายกลับเล่นได้อย่างแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก และช่วยทำให้ทีมได้รับประโยชน์จากฟอร์มการเล่นของทั้งคู่มากด้วยเช่นกัน |
97
เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2015, 07:18:30 PM
|
||
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman | ||
ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ต้องบอกว่า เป็นหนึ่งข่าวที่สร้างความเซอร์ไพร์สให้กับตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมได้ไม่น้อยแน่นอน สำหรับข่าวคราวที่สื่อดังในแดนผู้ดีอังกฤษอย่าง เดลี่ สตาร์ ตีออกมาเกี่ยวกับแพลนการปรับปรุงขุมกำลังทีมเชลซีของกุนซือ โจเซ่ มูริญโญ่ เพราะสิ่งที่สื่อตีออกมานั้นระบุชัดเจนว่ากุนซือฟอร์มบู่รายนี้ พร้อมที่จะโละนักเตะสตาร์ดังของทีมออกจากทีมอันประกอบไปด้วย เอแด็น อาซาร์, ดีเอโก้ คอสต้า, ออสการ์ และ เนมานย่า มาติซ ทั้งนี้นักเตะทั้งสี่รายดังกล่าวถือเป็นคีย์แมนสำคัญที่ทำให้สิงห์บลูได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อซีซั่นที่แล้วมาครอง โดยเฉพาะในรายของ อาซาร์ เล่นได้อย่างโดดเด่นจนถึงขนาดได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลีก ทว่ามาในซีซั่นนี้ทั้งหมดกลับมากันฟอร์มดิ่งลงอย่างน่าใจหายจนทำให้ทีมผิดฟอร์ม และรั้งอยู่อันดับ 15 ในตารางคะแนนซีซั่นนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตามสำหรับในรายของ อาซาร์ นั้นแม้ว่าซีซั่นนี้จะฟอร์มตกลงไปอย่างน่าใจหายจริงแต่ก็ยังคงมีทีมยักษ์ใหญ่แสดงความสนใจในตัวนักเตะอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกา สเปน, เปแอสเช ทีมแชมป์ลีกเอิง เป็นต้น ซึ่งต่างก็ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับนักเตะออกมาเป็นระยะๆ ตลอดช่วงที่ผ่านมาว่าพร้อมทุ่มเงินก้อนโตให้เชลซีพิจารณาปล่อยตัวนักเตะ ส่วนเรื่องของแพลนการหานักเตะรายใหม่ มาทดแทนกรณีปล่อยบรรดาแข้งดาวดังออกตามรายชื่อที่กล่าวข้างต้นนั้น สื่อรายดังกล่าวรายงานอ้างความต้องการของ มูริญโญ่ ว่าจะเป็นนักเตะอย่าง เอดิสัน คาวานี่ ของเปแอสเช อองตวน กรีซมันน์ ของแอตฯมาดริด, ไซโด้ เบเรฮิโน่ ของเวสต์บรอมวิชที่อยากได้มาทดแทน แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ก็มีบางกระแสข่าวออกมาสวนทางกันเช่นกัน โดยระบุประมาณว่ามูริญโญ่นั้นไม่ได้ต้องการปรับเปลี่ยนขุมกำลังของทีมในช่วงตลาดรอบสองนี้แต่อย่างใด ฉะนั้นก็ต้องรอติดตามดูกันว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไรกันแน่ |
98
เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2015, 07:03:43 PM
|
||
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman | ||
ถ้าเป็นการลือก็ต้องบอกว่าเป็นการลือกที่เรียกความสนใจจากแฟนบอลของเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ได้ไม่น้อยเลย แต่ถ้าหากเป็นเรื่องจริงขึ้นมาก็แน่นอนว่านับเป็นข่าวคราวที่น่ายินดีสำหรับทีมเรือใบสีฟ้าไม่น้อยเช่นกัน สำหรับข่าวคราวของ อันเดรีย ปีร์โล่ อดีตห้องเครื่องตัวเก่งของทีมเจ้าม้าลาย ยูเวนตุส เพราะข่าวที่ลือกันออกมาในตอนนี้นั้นระบุทำนองว่าทาง เรือใบสีฟ้า ได้ตกลงที่จะคว้าตัวกองกลางมากประสบการณ์ของ นิวยอร์ก ซิตี้ มาร่วมทีมในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบสองนี้แล้ว ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมาซิตี้ค่อนข้างประสบปัญหาในแดนกลางเมื่อนักเตะอย่าง ยาย่า ตูเร่ เริ่มโรยรา และฟอร์มการเล่นตกลงไปจากเดิม อีกทั้งสภาพร่างกายก็ไม่ค่อยฟิตสมบูรณ์ ด้าน เฟอร์นานโด กับ แฟร์นานดินโญ่ สองกองกลางที่มีอยู่ในทีมตอนนี้ก็ทำผลงานได้ไม่ดีเช่นกัน การแก้ปัญหาของทีมจึงเป็นเรื่องของการมองหานักเตะกองกลางสักรายที่มากประสบการณ์ และสามารถคุมจังหวะเกมได้เข้ามาเสริม ดังนั้นแน่นอนว่าการตกเป็นข่าวกับ อันเดรีย ปีร์โล่ จึงถือเป็นเรื่องที่ดีมากตามกล่าวข้างต้น สำหรับ ปีร์โล่ นั้นแม้ปัจจุบันจะอายุอานามมากแล้ว แต่ช่วงซีซั่นที่ผ่านมาเจ้าตัวก็ได้พิสูจน์ให้ได้เห็นแล้วว่าอายุยังสามารถเล่นฟุตบอลในระดับสูงได้อย่างสบายๆทั้งยังสามารถเป็นผู้นำทีมในแดนกลางได้เหมือนเดิมอีกด้วย โดยเจ้าตัวนั้นมีส่วนสำคัญอย่างมากกับความสำเร็จของ ยูเวนตุส ใน สคูเดตโต้ และรายการฟุตบอลถ้วยในประเทศ รวมถึงรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่สามารถทะลุเข้าไปได้ถึงรองชิงชนะเลิศ ส่วนรายงานข่าวลือที่ระบุว่าทาง ปีร์โล่ จะย้ายซบเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ ในตลาดซื้อขายนักเตะรอบสองนี้ออกมาจากผู้สื่อข่าวของสำนักข่าว สกายสปอร์ต อิตาเลีย รายนึงที่อ้างว่าทางแมนฯซิตี้กับทางปีร์โล่นั้นพูดคุยกันเรียบร้อย และตกลงที่จะเซ็นสัญญากันแล้วด้วย |
99
เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2015, 07:00:38 PM
|
||
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman | ||
เรียกว่าทำเอาสื่อที่รายงานข่าวเกี่ยวกับการปลด ราฟาเอล เบนิเตซ ออกจากตำแหน่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงกับเงิบกันไปเลยทีเดียว สำหรับการออกมาแถลงยืนยันจาก ฟลอเรนติโน่ เปเรซ บิ๊กบอสสโมสร เรอัล มาดริด ในครั้งล่าสุด เพราะถ้อยแถลงของเปเรซนั้นระบุชัดเจนว่าเวลานี้ตนเองยังคงสนับสนุน ราฟาเอล เบนิเตซ อย่างเต็มที่ และจะไม่มีการปลดกลางอากาศตามที่ลือกันออกมาแน่นอน ทั้งนี้อดีตกุนซือ หงส์แดง เข้ามารับงานคุมทัพราชันชุดขาวท่ามกลางกระแสวิจารณ์ในด้านลบเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา (ทำนองว่าเจ้าตัวไม่ใช่กุนซือที่เหมาะสมจะมาคุมทัพราชันชุดขาว) และหลังจากเริ่มงานไปก็โดนกระแสวิจารณ์ตอกย้ำหนักขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเรื่องของสไตล์การทำทีมที่เหมือนจะพา เรอัล มาดริด เน้นแท็คติกมากเกินไปจนทีมขาดความมีชีวิตชีวาในการเล่นเกมรุก กระทั่งมีการพูดกันว่าเป็นสิ่งที่สร้างความไม่พอใจให้กับ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรของทีม และบอร์ดบริหารคนอื่นๆด้วย ไม่เท่านั้นจากผลการแข่งขันในเกมเอลกลาซิโก้ล่าสุดที่ทัพราชันชุดขาวเปิดบ้านพ่ายให้กับ บาร์เซโลน่า คู่แข่งลุ้นแย่งแชมป์ไปแบบหมดรูปยิ่งทำให้กระแสวิจารณ์ และข่าวลือหนักถึงขั้นว่านายใหญ่ชาวสแปนิชรายนี้จะโดนเด้งลงจากตำแหน่งในเร็ววันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามล่าสุด เปเรซ ออกแถลงยืนยันว่าเราขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า ราฟาเอล เบนิเตซ ยังได้รับการสนับสนุนจากเราเต็มที่ ช่วงที่ผ่านมาเป็นเพียงช่วงการเริ่มต้นทำงานของเขาเท่านั้น ฉะนั้นมันย่อมดีกว่าที่จะให้เขาได้ทำงานต่อไปและเรามั่นใจว่าเขาจะทำงานออกมาได้ดีตามเป้าหมายของเราแน่ เราให้การสนับสนุนโค้ชของเราเสมอ และก็คิดว่าเขามีศักยภาพพอที่จะพาเราพลิกสถานการณ์ได้ สิ่งที่ผมอยากร้องขอคือการสนับสนุนจากแฟนบอลของเรา เรามีเกมที่แย่จริงๆ (ในเกมพบกับบาร์เซโลน่า) เราจึงต้องการกำลังใจจากแฟนบอลมากเป็นพิเศษ แต่นั่นมันก็เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติกับทุกทีมมันไม่ใช่เรื่องของความขัดแย้งภายในแน่นอน |
100
เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2015, 02:12:35 AM
|
||
เริ่มโดย Newsman - กระทู้ล่าสุด โดย Newsman | ||
ไม่รู้ว่างานนี้ตั้งใจจะป่าวประกาศกลายๆว่า พร้อมสำหรับการลงสนามไปยิงประตูทีมเรือใบสีฟ้าแล้วหรือเปล่านะ สำหรับทางด้านของ แดเนียล หัวหอกจอมยิงประตูของทีมหงส์แดง ที่ออกมาลั่นวาจาว่าพร้อมเต็มที่แล้วในการคืนสนามให้กับต้นสังกัด หลังก่อนหน้านี้เจ็บออดๆแอดๆ จนต้องพักยาวไปหลายรอบด้วยกัน ทั้งนี้ สเตอร์ริดจ์ มีอาการบาดเจ็บต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อซีซั่นก่อน ทำให้ช่วงออกสตาร์ทซีซั่นนี้เจ้าตัวไม่สามารถลงสนามช่วยหงส์แดงได้ แต่ก็สามารถสลัดอาการบาดเจ็บ และฟื้นร่างกายกลับมาคืนสนามให้หงส์แดงได้ในช่วงสั้นๆก่อนที่กุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะโดนปลดลงจากตำแหน่ง โดยมีส่วนสำคัญในการพาทีมเก็บชัยชนะเหนือ แอสตัน วิลล่า 3-2 ด้วยการช่วยทีมทำ 2 ประตู ทว่าไม่นานนักก็มาโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอีก นับตั้งแต่กุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามารับหน้าที่ต่อจาก ร็อดเจอร์ส เจ้าตัวจึงยังไม่มีโอกาสได้ลงสนามเลย อย่างไรก็ตามล่าสุดดังที่ได้กล่าวข้างต้น เดอะ ค็อป ทั่วโลกได้รับข่าวดแล้วเมื่อเจ้าตัวออกมาลั่นวาจาเองว่าพร้อมเต็มที่มากแล้วสำหรับการกลับมาลงสนามให้กับต้นสังกัด สเตอร์ริดจ์ กล่าวผ่าน ลิเวอร์พูล เอ็คโค่ สื่อท้องถิ่นเมืองลิเวอร์พูลว่า "ตอนนี้ผมกลับมาสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ผมพร้อมลงสนามแล้วผมกลับมาซ้อมได้เต็มรูปแบบสองวันแล้ว มันจะเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมสำหรับผมแน่นอน" "มันเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมากเลยนะ ผมสนุกมากเลยกับการทำงานร่วมกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ และแนวทางการทำงานของเขามันก็ยอดมาก มันเป็นสิ่งที่สำคัญแล้วก็ชัดเจนที่เดียวกับสิ่งที่เขาบอกว่าพวกเราแต่ละคนต้องทำอะไรบ้าง" (คล็อปป์ถือเป็นกุนซือที่ชัดเจนมากๆในการสื่อสารกับนักเตะแต่ละคนให้ได้ทราบถึงบทบาทหน้าที่ที่ต้องทำในสนาม ซึ่งก่อนหน้านี้นักเตะอย่าง เจมส์ มิลเนอร์ ก็เคยได้ออกมากล่าวชื่นชมกุนซือเยอรมันรายนี้ในเรื่องนี้แล้วเช่นกัน) |