แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Messages - Newsman

หน้า: 1 ... 34 35 [36] 37
526

       แฟนบอลทีมสิงห์บลู เชลซี คนไหนที่หวังเห็นทีมเซ็นต์สัญญากับนักเตะใหม่ในช่วงก่อนที่ ฟุตบอลโลก 2014 จะคิกออฟนี้ ต้องบอกว่างานนี้ผิดหวังกันเล็กน้อยแน่นอนครับ เมื่อทางด้านของโจเซ่ มูริญโญ่ นายใหญ่ของทีมได้ออกมายืนยันแล้วว่าเขาจะไม่รับร้อนทำอะไรกับตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้ก่อนฟุตบอลโลก ทั้งนี้มูริญโญ่ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะตลาดซื้อขายนักเตะรอบนี้มีเวลานานถึงสิ้นเดือนสิงหาคมนู้น จึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่ตนเองจะต้องเร่งรีบเซ็นต์สัญญากับนักเตะรายใดในช่วงนี้

       ตรงกันข้ามควรจะใช้เวลาให้คุ้มค่าในการเฟ้นหานักเตะที่เหมาะสมเข้ามาอยูในทีมมากกว่า เรียกได้ว่าหากรียร้อนเกินไปอาจจะไม่ได้นักเตะที่ตรงความต้องการ หรือตอบโจทย์ได้ครบก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามมูริญโญ่ยืนยันว่ายังไงซะซัมเมอร์นิ้ทีมสิงห์บลูของเขาก็จะต้องทำการเสริมทัพเพื่อสู้ศึกในฤดูกาลหน้าแน่ๆ และตัวเขาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเกี่ยวกับเรื่อนี้แต่อย่างใด เนื่องจากรู้ถึงปัญหาขุมกำลังในทีมเวลานี้ดี สรุปกันได้ชัดๆว่าโจเซ่ มูริญโญ่จะลุยนักเตะนักเตะซัมเมอร์นี้อย่างจริงจังก็ช่วงที่ทัวร์นาเม้นท์ฟุตบอลโลกสิ้นสุดลงแล้ว ฉะนั้นแฟนบอลสิงห์บลูก็น่าจะได้เห็นแข้งรายใหม่ของพวกเขาในช่วงก่อนที่ฤดูกาลแข่งขันใหม่จะเปิดขึ้นไม่นานนัก

       แต่ส่วนว่าจะเป็นนักเตะตำแหน่งไหนนั้น หลักๆแล้วก็น่าจะหนีไม่พ้นนักเตะตำแหน่งกองหน้า ที่มีข่าวกันมาตลอดฤดูกาลนั่นแหละครับ เพราะกองหน้าในทีมสิงห์บลูตอนนี้ยังขาดคุณภาพจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นตอร์เรส หรือเดมบา บาก็ยังไม่อาจตอบโจทย์มูริญโญ่ได้ โดยเฉพาะในด้านสถิติการทำประตู (มูริญโญ่ต้องการกองหน้าที่ยิงประตูได้มากกว่านี้) กับอีกตำแหน่งก็คงเป็นกองหลัง ซึ่งน่าจะต้องการนำมาทดแทนนักเตะวัยเก๋าบางรายที่ต้องอำลาทีม ด้วยว่าไม่ได้รับสัญญาใหม่จากสโมสร (ตามนโยบายของสโมสรเชลซีที่ไม่ต้องการเก็บนักเตะอายุมากเกินไว้กับทีม)

527

       ประกาศรายชื่อออกมาเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ 23 ขุนพลทัพฝอยทอง "โปรตุเกส" ที่จะได้ไปสู้ศึกฟุตบอลโลกที่ประเทศบราซิล ช่วงเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งก็แน่นอนว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซุปตาร์จากราชันชุดขาวจะได้เป็นผู้นำทัพในครั้งนี้ตามเดิม ทั้งนี้รายชื่อแข้งฝอยทองที่ออกมาส่วนใหญ่แล้วก็ไม่มีอะไรที่ผิดไปจากที่มีการคาดการณ์กันไว้สักเท่าไหร่ กล่าวคือบรรดาดาวดังประจำทีมชาติยังคงมีชื่อติดทีม อาจจะมีบางรายที่ขาดหายไป แต่ก็เป็นส่วนน้อยเท่านั้น เรียกว่าไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนบอลฝอยทองสักเท่าไหร่

       โดยในส่วนของ ผู้รักษาประตูมี "เบโต้" จากทีมเซบีย่า "เอดูอาร์โด้" จากบราก้า และ "ปาทริซิโอ" จากสปอร์ติ้ง ลิสบอน

       กองหลังมี "เปเป้", "โคเอนเทรา" จากรีล มาดริด "คอสต้า", "เปเรย์รา" จากบาเลนเซีย "อัลเวส" จากเฟร์เนบาเช่ "อัลเมด้า" จากเบนฟีก้า "เนโด้" จากเซนิต

       กองกลางมี "คาวัลโญ่" จากสปอร์ติ้ง ลิสบอน "อโมริม" จากเบนฟิก้า "มูติญโญ่" จากโมนาโก "เมเรยเรส" จากเฟร์เน่บาเช่ "เวโซ" จากเคียฟ

       กองหน้า "โรนัลโด้" จากมาดริด "ปอสติก้า" จากลาซิโอ "ราฟา" จากบราก้า "นานี่" จากแมนฯยูไนเต็ด "อัลเมด้า" จากเบซิคตัส "บาเรลา" จากรีล มาดริด "วิเอรินญ่า" จากโวล์ฟบวร์ก สำหรับรายชื่อที่หลุดโผไปและต้องนับว่าน่าเสียดายมากๆก็คือในรายของ "กวาเรสมา" กองกลางตัวรุกของทีมเอฟซี ปอร์โต้ ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นหนึ่งในดาวดังของทีมชาติโปรตุเกส และเป็นขวัญใจของแฟนบอลด้วย

       ส่วนงานแรกที่ต้องเจอสำหรับทีมชาติโปรตุเกสชุดนี้ก็ต้องถือว่าหนักเอาการเลยทีเดียว เพราะจะต้องเผชิญหน้ากับแชมป์โลกสามสมัยอย่างทีมอินทรีเหล็ก เยอรมันในวันที่ 16 มิถุนายน นอกจากนั้นก็ต้องเจอกับกานา สหรัฐอเมริกา อีกสองทีมที่อยู่ร่วมกลุ่มเดียวกัน (กลุ่ม G) แต่ทั้งนั้นทั้งนี้สำหรับการเผชิญหน้ากับทีมเยอรมันตั้งแต่นัดแรกก่อน จะว่าไปหากมองในแง่ดีก็นับว่าเป็นข้อได้เปรียบของโปรตุเกสได้เหมือนกัน เพราะนัดแรกยังไงๆก็ไม่ใช่นัดตัดสินผลการเข้ารอบ หรือตกรอบอยู่แล้ว การตัดสินผลเข้ารอบ ตกรอบมักจะไปตัดสินกันในนัดนัดสุดท้าย ฉะนั้นการที่โปรตุเกสไม่ต้องเจอเยอรมันในนัดสุดท้ายมันย่อมเป็นผลดีต่อความหวังในการเก็บแต้มในช่วงเวลาสำคัญๆมากกว่าอยู่แล้ว เนื่องจากเยอรมันเป็นทีมที่แกร่งที่สุดในกลุ่มแล้ว

528

       ก็ไม่รู้ว่าจะโทษทีความเป็นคนขี้น้อยใจของ ยาย่า ตูเร่ หรือโทษที่ความไม่ใส่ใจของสโมสรเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้กันแน่นะครับ ในส่วนของกรณีประเด็นร้อนของทั้งสองฝ่ายที่ทางด้านของ ดิมิทรี เซลุค เอเย่นต์ของนักเตะ ออกมากล่าวจุดประเด็นประมาณว่าสตาร์ไอเวอรี่โคสต์รายนี้พร้อมย้ายออกจากทีมเรือใบในช่วงซัมเมอร์นี้ เนื่องจากนักเตะไม่พอใจอย่างยิ่งกับการที่สโมสรละเลยมิตรภาพระหว่างนักเตะ

       ทั้งนี้เซลุคชี้ว่าการที่สโมสรเรือใบสีฟ้าเมินวันเกิดของ ยาย่า ตูเร่ และทำให้เขาไร้ซึ่งคำอวยพรวันเกิดจากบุคคลในสโมสรอย่างที่ควรจะเป็น มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกชัดเจนมากๆว่าสโมสรไม่ได้ให้ความสำคัญกับตัวของยาย่า ตูเร่เลย และนั่นจึงทำให้ยาย่า ตูเร่พร้อมที่ย้ายไปอยู่กับสโมสรที่ให้ความสำคัญกับเขามากกว่านี้เช่นกัน อย่างไรก็ตามเซลุคไม่ได้ถึงขนาดยืนยันจะพานักเตะในความดูแลของเขารายนี้แยกทางกับทีมเรือใบสีฟ้าซะทีเดียว โดยยังคงกล่าวทำนองเปิดโอกาสให้ทางเรือใบสีฟ้าเข้าเคลียร์ปัญหาคาใจเรื่องนี้กับตัวนักเตะ หรือว่าง่ายๆก็คือทางเซลุคก็เพียงต้องการให้ทางสโมสรเข้ามาขอโทษกับยาย่า ตูเร่ต่อกรณีนี้ หรือไม่ก็เข้ามาพูดคุยอะไรก็ได้ที่ทำให้ตูเร่รู้สึกว่าเขายังคงสำคัญกับสโมสร แต่หากมันไม่เป็นตามนั้นก็อาจจะต้องพานักเตะย้ายทีมจริงๆ

       สำหรับยาย่า ตูเร่กับเรื่องความน้อยใจนั้นต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่แฟนบอลหลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดี เพราะที่ผ่านมาเจ้าตัวก็เคยตกเป็นข่าวแสดงความน้อยอก น้อยใจมาบ้างแล้ว อย่างเช่นเมื่อช่วงๆปลายฤดูกาลที่เจ้าตัวได้ออกมากล่าวว่าเป็นเพราะตนเองเป็นนักเตะที่มาจากทวีปแอฟริกาจึงไม่ได้รับการยกย่องมากมายอย่างที่ควรจะได้รับ ทั้งที่ทำผลงานได้ดีโดดเด่นมากๆ (ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความน้อยอก น้อยใจในเชื้อชาติของตนเอง ทั้งที่จริงแล้วเขาได้รับการยกย่องจากแฟนบอลทั่วโลกให้เป็นนักเตะตำแหน่งมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดคนนึงเวลานี้เลยทีเดียว)

529

       นับได้ว่าเป็นฤดูกาลของทีมตราหมี แอตแลนติโก มาดริด อย่างแท้จริงครับสำหรับฤดูกาลแข่งขัน 2013-2014 ที่เพิ่งจบลงไปด้วยการคว้าแชมป์ของพวกเขาหมาดๆ เพราะล่าสุดจากการประกาศทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลจากลาลีกาปรากฎว่าแข้งตราหมีพาเหรดติดทีมไปมากถึง 7 ราย หรือเกินครึ่งทีมเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากการที่มีแข้งตราหมีติดทีมมากถึง 7 รายแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่นับเป็นจุดสนใจก็คือทีมยอดเยี่ยมลาลีกา สเปนฤดูกาลนี้ไร้เงานักเตะจากทีมบาร์เซโลน่า แชมป์เก่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

       ทั้งๆที่ผลงานในฤดูกาลนี้ของทัพอาซูกราน่าก็ไม่ได้นับว่าน่าเกลียดอะไรมากมาย โดยสามารถจบอันดับที่สองของตารางคะแนนได้ เป็นรองทีมตราหมีเพียงแค่ 3 คะแนนเท่านั้น ส่วนด้านราชันชุดขาว รีล มาดริดอีกหนึ่งทีมยักษ์ใหญ่ประจำลาลีกา สเปนก็นับว่าน่าแปลกใจเช่นกันเมื่อมีเพียงคริสเตียโน่ โรนัลโด้ รายเดียวเท่านั้นที่ติดทีมเข้ามา ทั้งนี้ 7 แข้งที่มาจากแอตฯมาดริดประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู “ติโบต์ กูร์กตัวส์” กองหลังสามราย “ฟิลิปเป้ ลุยส์” “ฆวน ฟราน” และ “ดิเอโก้ โกดิน” กองกลางสองราย “กาบี้ เฟอร์นานเดซ” และ “โกเก้” กองหน้าหนึ่งราย “ดีเอโก้ คอสต้า” ส่วนที่เหลือมาจากแอธแลนติก บิลเบาสองราย ประกอบไปด้วย เดเมริค ลาปอร์เต้ (กองหลัง) อันเดอร์ อิตูราสเป้ (กองกลาง) จากเซบีย่าหนึ่งราย “อิวาน ราคิติซ”

       สรุปทีมยอดเยี่ยมลาลีกา สเปนประจำฤดูกาล 2013-2014 มาจากเพียง 4 สโมสรเท่านั้น (แอตฯมาดริด, รีล มาดริด, แอตฯบิลเบา และเซบีย่า) แน่นอนว่านับเป็นอะไรที่น่าเสียดายแทนทีมอื่นๆ โดยเฉพาะกับทีมแชมป์เก่าอย่างบาร์เซโลน่าที่ไม่มีนักเตะติดทีมเลยสักรายเดียว แต่กระนั้นหากมองในแง่ของผลงาน และคุณภาพ สำหรับนักเตะที่ติดทีมยอดเยี่ยมทั้งหมดนี้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ กล่าวคือผลงานของแข้งยอดเยี่ยมทั้ง 11 รายนี้ ตลอดทั้งซีซั่นนี้สมควรได้รับการยกย่องให้เป็นแข้งยอดเยี่ยมแล้ว

530

       ในที่สุดก็เรียบร้อยตามคาดครับ ในส่วนของตำแหน่งกุนซือของทีมปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด ซึ่งมีข่าวลือออกมานานมากว่า หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือทีมชาติฮอลแลนด์คนปัจจุบันน่าจะได้มาสานต่อตำแหน่งจากเดวิด มอยส์ที่โดนเด้งออกไปในช่วงท้ายซีซั่น และไรอัน กิ๊กส์เข้ามาขัดตาทัพในช่วงไม่กี่นัดหลังของฤดูกาล เพราะล่าสุดเอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานฝ่ายบริหารของสโมสรปีศาจแดงได้ออกมาแถลงยืนยันแล้วว่า “หลุยส์ ฟาน กัล” คือผู้ที่จะพาทีมปีศาจแดงกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

       ทั้งนี้วู้ดเวิร์ดกล่าวว่าทุกคนในยูไนเต็ดตื่นเต้น และยินดีกับการมาของฟาน กัล แล้วก็คิดว่าฟาน กัลคือตัวเลือกกุนซือที่เหมาะสมที่จะพายูไนเต็ดกลับมาทวงความยิ่งใหญ่มากที่สุดแล้ว เนื่องจากในประวัติการทำงานที่ผ่านมาของฟาน กัล เขาจัดได้ว่าเป็นกุนซือที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนนึงไม่ว่าจะเป็นการคว้าแชมป์ลีก หรือว่าแชมป์ยุโรปก็ตาม ส่วนความคืบหน้าอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการประกาศยืนยันแต่งตั้งฟาน กัลขึ้นกุมบังเหียนทัพปีศาจแดงก็มีเรื่องของผู้ช่วยกุนซือที่ฟาน กัลเลือกไรอัน กิ๊กส์ ซึ่งนั่นก็ทำให้ไรอัน กิ๊กส์ยืนยันที่จะแขวนสตั๊ดเพื่อมารับงานเป็นมือขวาของฟาน กัลแน่นอนแล้วเช่นกัน เรียกได้ว่าสมใจแฟนบอลเร้ดอาร์มี่ทั้งตัวกุนซือ และผู้ช่วยกุนซือละครับงานนี้ แต่สำหรับแฟนบอลของทีมอื่นก็คงต้องมีหวั่นใจไปตามๆกัน เนื่องจากคุณภาพของทั้งฟาน กัล และกิ๊กส์การันตีอยู่แล้วว่ายูไนเต็ดในซีซั่นจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับทุกทีมเหมือนเดิมแน่

       ส่วนนอกเหนือจากนี้ก็มีแว่วๆออกมาเกี่ยวกับการแต่งตั้งกัปตันทีมที่ว่ากันว่า ฟาน กัล จะเลือก โรบิน ฟาน เพอร์ซี กองหน้าเพื่อนร่วมชาติฮอลแลนด์เป็นกัปตันทีมต่อจากวิดิชที่ย้ายไปเล่นในกัลโช่ เซเรียเอ อิตาลี แทนที่จะเป็นในรายของเวย์น รูนี่ย์ตัวเต็งในยุคของเดวิด มอยส์ ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าติดตามดูเหมือนกันว่าจะเป็นตามนั้นจริงหรือไม่ หากว่าเป็นจริงรูนี่ย์จะมีปฏิกิริยาเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร

531


       อาจจะต้องลุ้นกันเหนื่อยยหน่อยล่ะครับงานนี้สำหรับท่านใดที่เป็นแฟนบอลของทีมสิงห์บลู เชลซี เพราะผู้รักษาประตูฝีมือชั้นยอดอย่าง ติโบต์ กูร์กตัวส์ ซึ่งถูกส่งให้แอตฯมาดริดยืมตัวไปใช้งานอยู่ดันออกมากล่าวแบบแทงกั๊กอนาคตตัวเองว่าตัวของเขาเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าอนาคตในซีซั่นหน้าจะเป็นอย่างไร จะได้ย้ายกลับไปเล่นให้สิงห์บลูหรือเปล่า แถมยังชี้ว่าช่วงเวลาของตนเองกับทีมแอตฯมาดริดเป็นช่วงเวลาที่ดี และทำให้ตนเองซึ้งใจมากด้วย ว่ากันตรงๆคือกูร์กตัวส์ก็มีใจอยากจะเล่นให้แอตฯมาดริดในระยะยาวนั่นแหละครับ

       ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมามีข่าวออกมาเรื่อยๆว่า โจเซ่ มูริญโญ่ นายใหญ่ทีมสิงห์บลูต้องการที่จะดึงติโบต์ กูร์กตัวส์กลับไปเฝ้าในสแตมฟอร์ดบริดจ์ โดยจะได้ไปเป็นมือหนึ่งแทนที่ของปีเตอร์ เช็ก ที่ระยะหลังเริ่มมีปัญหาเรื่องของอาการบาดเจ็บ แต่ขณะเดียวกันก็มีข่าวออกมาเรื่อยๆเช่นกันว่าสโมสรแอตฯมาดริดต้องการที่จะให้ติโบต์อยู่เฝ้าเสาในถิ่นบิเซนเต้ กัลเดร่อนต่อไป เพราะประทับใจในผลงานของมือกาวทีมชาติเบลเยี่ยมรายนี้มากๆ ถึงขนาดต้องการซื้อขาดเลยทีเดียว อีกอย่างตัวนักเตะเองก็มีใจอยากที่จะเล่นให้กับสโมสรดังแห่งเมืองมาดริด ดังนั้นจากการที่กูร์กตัวส์ออกมากล่าวดังข้างต้นจึงเป็นการตอกย้ำว่าอนาคตของเขาในซีซั่นหน้ายังคงไม่มีอะไรแน่นอนจริง

       สรุปคือยังเป็นไปได้หมด ไม่ว่าจะเป็นการย้ายกลับไปเฝ้าเสาที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ตามที่ต้นสังกัดที่แท้จริงของเจ้าตัวต้องการ และย้ายไปเล่นให้กับแอตฯมาดริดแบบถาวร อย่างไรก็ตามกูร์กตัวส์ชี้ว่าเวลานี้เป็นเวลาที่ยังไม่เหมาะสมที่จะเคลียร์อนาคตของตนเอง ด้วยว่ามีทัวร์นาเม้นท์ที่สำคัญมากๆอย่างเวิลด์ คัพ 2014 ที่ประเทศบราซิลรออยู่ ซึ่งตัวเขาเองก็ต้องลงรับใช้ทีมชาติเบลเยี่ยม จึงต้องมุ่งสมาธิไปที่การรับใช้ทีมชาติก่อน หลังจากนั้นค่อยมาโฟกัสที่อนาคต

532

       ถือเป็นอีกหนึ่งแข้งที่ยังไม่มีบทสรุปอนาคตที่ชัดเจนเหมือนกันครับ สำหรับทางด้านของ ปาทริซ เอวร่า ฟูลแบ็กทีมชาติฝรั่งเศส ของทีมปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด เพราะหลังจากที่แว่วข่าวมาช่วงไม่กี่วันก่อนว่าทางด้าน หลุยส์ ฟาน กัล ว่าที่กุนซือคนใหม่ของทีมปีศาจแดงต้องการเบรกการตัดสินใจย้ายทีมของเอวร่าเอาไว้ก่อน ด้วยหวังว่าจะให้เอวร่าเป็นส่วนนึงในกำลังสำคัญของทีมตนเองในซีซั่นหน้า แต่ล่าสุดสื่อในอิตาลีอย่างลาสตามป้ากลับรายงานข่าวเชิงยืนยันออกมาแล้วว่าเอวร่าน่าจะได้ย้ายไปเล่นในศึกกัลโช่เซเรียเอ อิตาลีแน่ๆ

       โดยเฉพาะกับทีมยูเวนตุส ทั้งนี้สตามป้ารายงานข่าวที่มีใจความประมาณว่าเวลานี้ปาทริซ เอวร่าได้เจรจาข้อตกลงต่างๆ ร่วมกับทีมยูเวนตุสได้แล้ว และในวันที่ 16 พฤษภาคม เอวร่าก็อยู่ที่ตูริน ซึ่งคาดว่าเป็นการเดินทางไปเพื่อตกลงรายละเอียดสัญญาขั้นสุดท้าย กับเข้ารับการตรวจร่างกายเพื่อรอเปิดตัวเป็นนักเตะใหม่ของยูเวนตุสต่อไป เรียกได้ว่าทางด้านของสตามป้าก็มั่นใจนั่นแหละครับว่าอีกไม่นานดีลเอวร่า กับยูเว่น่าจะลงเอย แต่ทั้งนั้นทั้งนี้บางสื่อก็รายงานออกมาในทางที่ต้องบอกว่าตรงข้ามกันกับที่สตามป้ารายงานออกมานะครับ โดยเป็นไปในทำนองว่าแม้ว่าเอวร่าจะได้เข้าเจรจาเรื่องสัญญา รวมถึงอาจจะเข้ารับการตรวจร่างกายกับทางสโมสรยูเวนตุสจริง แต่เอวร่าก็ยังไม่ได้ตกลงปลงใจที่จะจรดปากกาเซ็นต์สัญญาย้ายมาร่วมทีมยูเวนตุสซะทีเดียว

       โดยยังคงมีท่าทีเกี่ยวกับอนาคตที่โอลแทรฟฟอร์ดเช่นกัน กล่าวคือเอวร่ายังต้องการที่จะคุยกับหลุยส์ ฟาน กัล ว่าที่กุนซือรายใหม่ของทีมปีศาจแดงเกี่ยวกับอนาคตก่อนที่จะตัดสินใจครั้งสุดท้ายอีกที ซึ่งก็อาจจะแปลความหมายได้ว่าหากเอวร่าคุยกับฟาน กัลแล้วปรากฏว่าฟาน กัลยืนยันว่าต้องการให้เอวร่าอยู่ต่อ หรือยืนยันว่าเอวร่ายังมีอนาคตกับทีมปีศาจแดง เอวร่าก็อาจจะตัดสินใจยืดสัญญากับยูไนเต็ดก็เป็นได้ แต่หากพูดคุยแล้วเหมือนจะไม่ได้มีอะไรการันตีอนาคตของเขาในโอลแทรฟฟอร์ดได้ เขาก็จะเลือกย้ายไปเล่นกับยูเวนตุส

533

       ต้องบอกว่าที่สุดแล้วเรื่องราวระหว่างสโมสรไอ้ปืนโต อาร์เซน่อล กับ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศสก็ลงเอยลงแบบแฮปปี้เอนดิ้ง หลังเวนเกอร์สามารถพาทีมประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายของตนเอง และเป้าหมายที่น่าพอใจสำหรับสโมสร กล่าวคือสามารถคว้าแชมป์เอฟเอคัพมาครองได้ และยังสามารถคว้าอันดับ 4 ของตารางคะแนน ซิวโควตาฟุตบอลถ้วยยุโรปใบใหญ่มาครองได้อีกด้วย ทั้งนี้ความสำเร็จดังกล่าวถือเป็นการทำลายกำแพงบางๆที่กั้นการต่อสัญญาของเวนเกอร์ลงอย่างสิ้นเชิง เพราะก่อนหน้านี้เวนเกอร์ออกมากล่าวด้วยตัวของเขาเอง

       ว่าถ้าหากไม่สามารถพาปืนโตคว้าแชมป์เอฟเอคัพมาครองได้ และจบหนึ่งในสี่ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกเพื่อคว้าโควตาฟุตบอลยุโรปซีซั่นหน้าได้ ตนจะรีไทร์ตัวเองออกจากการเป็นกุนซืออาร์เซน่อล หรือว่าง่ายๆคือจะไม่ยอมต่อสัญญากับสโมสรออกไป แม้สโมสรจะยังเห็นควรให้มอบสัญญาใหม่ให้ก็ตามที ดังนั้นเมื่อสามารถทำได้สำเร็จตามนั้นแล้วก็แน่นอนว่าทั้งเวนเกอร์ และทั้งสโมสรอาร์เซน่อลย่อมที่จะมีความสุขกับการได้ขยายสัญญากันออกไป โดยล่าสุดสื่ออย่างการ์เดี้ยนออกมาตีข่าวว่าสัญญาใหม่ที่อาร์เซน่อลจะมอบให้เวนเกอร์เซ็นต์เป็นสัญญาที่มีระยะเวลา 3 ปี และตัวเวนเกอร์จะได้รับค่าเหนื่อยจากสัญญาใหม่เป็นมูลค่ารวมราว 25 ล้านปอนด์ ซึ่งก็นับว่าเป็นอะไรที่เหมาะสมมากๆทั้งในด้านของระยะเวลา และจำนวนเงินค่าเหนื่อย

       แต่ส่วนเรื่องของการจรดปากกาเซ็นต์สัญญานั้น ตอนนี้ยังไม่มีสื่อไหนระบุออกมาชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ก็เชื่อว่าน่าจะเกิดขึ้นเร็วๆ ด้วยว่าทั้งสองฝ่ายต่างพร้อมที่จะเซ็นต์กันอยู่แล้ว เพียงแต่สิ่งทีน่าติดตามจริงๆก็คือภายหลังการต่อสัญญา กล่าวคือเวนเกอร์จะสามารถพาทีมปืนโตก้าวไปไกลได้แค่ไหนสำหรับระยะเวลา 3 ปีต่อจากนี้ เพราะแม้ว่าในฤดูกาลนี้จะประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก (สามารถคว้าแชมป์ได้หนึ่งรายการ) แต่ตลอดระยะเวลาหลายปีก่อนมันก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าเวนเกอร์กับอาร์เซน่อลไม่สามารถที่จะประสบความสำเร็จได้สมกับขนาดทีม หรือศักดิ์ศรีของสโมสรเลย

534

       งานนี้ส่อแววพลิกซะแล้วครับ สำหรับอนาคตของแบ็กขวาทีมชาติอังกฤษของสโมสรหงส์แดง ลิเวอร์พูล อย่าง เกล็น จอห์นสัน เพราะจู่ๆสื่อในอังกฤษ “เดลี่ สตาร์” ก็ออกมาตีข่าวประมาณว่าเกล็น จอห์นสันจะไม่ได้รับสัญญาใหม่จากทีมหงส์แดง เหตุเพราะเจ้าตัวไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของเบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่แห่งแอนฟิลด์ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ในช่วงท้ายซีซั่น เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ออกมายืนยันเกี่ยวกับอนาคตของจอห์นสันเองทำนองว่าเขาคือหนึ่งในนักเตะคนสำคัญที่ตนต้องการเก็บไว้ใช้งานต่อไป และน่าจะมีการมอบสัญญาใหม่ให้ในช่วงจบฤดูกาล หรือซัมเมอร์นี้

       พร้อมกันนี้สื่อก็ยังระบุด้วยว่าเบรนแดน ร็อดเจอร์สจะตัดสินใจปล่อยจอห์นสันออกจากทีมในปีหน้าแบบไร้ค่าตัว กล่าวคือเมื่อหมดสัญญาก็จะปล่อยให้นักเตะได้ย้ายทีมแบบอิสระ จะไม่มีการยื่นสัญญาใหม่ หรือขายทิ้งก่อนที่จะหมดสัญญานั่นเองครับ สรุปกันง่ายๆได้ว่าถึงตอนนี้เบรนแดน ร็อดเจอร์สน่าจะมองว่าจอห์นสันยังคงเป็นประโยชน์ต่อทีมในระยะสั้นๆ แต่สำหรับระยะยาวแล้ว ด้วยวัย และฟอร์มการเล่นในช่วงหลังอาจจะไม่เป็นประโยชน์ต่อทีมเท่าไหร่นัก จึงไม่ควรที่จะมอบสัญญาใหม่ให้กับแบ็กขวาทีมชาติอังกฤษรายนี้ หรือกล่าวอีกนัยนึงก็คือถ้าจะปล่อยจอห์นสันออกจากทีมทันทีตอนนี้ ทีมก็อาจได้รับผลกระทบในเรื่องของการหาตัวแทน ฉะนั้นก็รอให้จอห์นสันช่วงทีมไปอีกสักหน่อยก่อน

       และระหว่างที่สัญญาปีสุดท้ายของจอห์นสันกำลังดำเนินไป ทีมก็ต้องพยายามหาแบ็กรายใหม่เข้ามาทดแทนจอห์นสันด้วย เมื่อถึงตอนที่สัญญาของจอห์นสันหมดลงแล้วจริงๆก็น่าจะประจวบเหมาะกับที่ทีมสามารถหาแบ็กรายใหม่เข้ามาเป็นอนาคตระยะยาวของทีมได้พอดี ทั้งนี้ในซีซั่นปัจจุบัน โดยเฉพาะช่วงท้ายซีซั่นต้องยอมรับจริงๆว่าจอห์นสันโชว์ฟอร์มการเล่นของตนเองได้ต่ำกว่ามาตรฐานเดิมพอสมควร ซึ่งนั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เบรนแดน ร็อดเจอร์สเปลี่ยนใจไม่วางจอห์นสันไว้เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญสำหรับแผนการทำทีมระยะยาวของเขา

535

       จัดการปลดตัวเองลงจากตำแหน่งไปตามระเบียบ สำหรับกุนซือ เคราโด้ มาร์ติโน่ หรือ “ตาต้า” หลังจากเจ้าตัวไม่สามารถพาทีมบาร์เซโลน่าในฤดูกาลนี้ประสบความสำเร็จในรายการใดได้เลย ทั้งนี้หลังเกมการแข่งขันลีกนัดสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งบาร์เซโลน่าเสมอกับทีมแอตฯมาดริดไป 1-1 พร้อมกับเสียแชป์ให้แอตฯมาดริดไปนั้น ตาต้าได้กล่าวในห้องแถลงข่าวว่าตนเองขอยุติการทำหน้าที่กุนซือทีมบาร์เซโลน่าลงแต่เพียงเท่านี้ พร้อมกับกล่าวขอบคุณทุกๆคน และแสดงความยินดีกับทีมแอตฯมาดริดที่สามารถซิวแชมป์ลีกไปครองได้สำเร็จ

       สำหรับบุคคลที่ตาต้า มาร์ติโน่ได้กล่าวขอบคุณเป็นพิเศษก็คือประธานสโมสรบาร์เซโลน่าที่เชื่อมั่น และไว้ใจในฝีมือของเขา นอกจากนี้ก็ยังได้มีการกล่าวเปิดใจถึงความรู้สึกต่างๆประมาณว่าเจ้าตัวไม่ได้รู้สึกเสียใจเลยที่เลือกเข้ามารับงานคุมทีมบาร์เซโลน่า แม้ว่าสุดท้ายแล้วผลงานมันจะลงเอยแบบนี้ก็ตาม แต่กระนั้นก็ต้องขอโทษแฟนบอลบาร์เซโลน่าทุกคนด้วยที่ไม่สามารถพาทีมประสบความสำเร็จได้อย่างทีหวังกันเอาไว้ ส่วนเรื่องของตัวเต็งกุนซือที่จะเข้ามารับงานกุมบังเหียนบาร์เซโลน่าต่อจากมาร์ติโน่ เวลานี้ว่ากันว่าเป็นในรายของหลุยส์ เอ็นริเก้ แต่ก็ยังไม่ชัวร์ซะทีเดียวว่าจะเป็นไปตามนั้นไหม คือก็ต้องรอการแถลงเพิ่มเติมจากสโมสรบาร์เซโลน่าอีกที 

       ส่วนข่าวคราวอื่นๆที่เกี่ยวข้องกันนี้ก็มีในส่วนของทางฝั่งแอตฯมาดริด ที่ทางด้านของนักเตะตัวเก่งของพวกเขาอย่างดีเอโก้ คอสต้า กับตูรานต้องมาได้รับบาดเจ็บสังเวยแชมป์ลีกดังกล่าว ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลกระทบในด้านลบต่อแมทชิงชนะเลิศศีกฟุตบอลถ้วยยุโรปของแอตฯมาดริดแน่ๆ หากว่าทั้งคู่ไม่สามารถหายจากอาการบาดเจ็บกลับมาได้ทัน ดีไม่ดีในรายของคอสต้าอาจชวดเล่นฟุตบอลโลกกับทีมชาติสเปนเลยก็เป็นได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็นับว่าน่าเสียหายสำหรับทีมชาติสเปนไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยว่าปีนี้คอสต้ามีฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงมากจริงๆ

536

       ต้องบอกว่าเป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมสำหรับทีมตราหมี แอตฯมาดริด อย่างยิ่งจริงๆครับ สำหรับ ลาลีกา สเปน ฤดูกาลปัจจุบันที่จบลงด้วยการที่พลพรรคตราหมีสามารถซิวแชมป์ไปครองได้ชนิดที่บาดใจแฟนบอลอาซูกราน่า แชมป์เก่าอย่างมาก เนื่องจากเป็นการบุกไปยันเสมอกับแชมป์เก่าที่คัมป์นู 1-1 ในนัดปิดท้ายฤดูกาล และนัดชี้ชะตาแชมป์ ทั้งนี้แชมป์ลาลีกา สเปนในซีซั่นปัจจุบันของทีมตราหมีนับเป็นแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 18 ปีของพวกเขา เรียกได้ว่าสิ้นสุดการรอคอยที่แสนเนิ่นนานของบรรดาแฟนบอลทีมตราหมี

       อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากความสำเร็จในรายการลีกนี้แล้ว พวกเขายังคงมีลุ้นความสำเร็จอีกหนึ่งรายการที่ต้องบอกว่ายิ่งใหญ่มากไม่แพ้กัน นั่นก็คือรายการถ้วยยุโรปใบใหญ่ หรือยูฟ่าแชมเปี้บนส์ลีกที่ต้องเข้าไปชิงดำกับทีมรีล มาดริด คู่ปรับร่วมเมือง และหากว่าพวกเขาสามารถทำได้สำเร็จ หรือเอาชนะรีล มาดริดได้ก็จะนับเป็นฤดูกาลที่ยิ่งใหญ่มากๆในประวัติศาสตร์สโมสรของพวกเขาเลย แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ก็ต้องบอกกันว่าในความเป็นจริงมันก็คงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนักที่จะทำอย่างนั้นได้สำเร็จ ด้วยว่ารายการยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นนี้ ถือเป็นรายการความหวังสูงสุด และความหวังเดียวที่เหลืออยู่ของรีล มาดริดเลยก็ว่าได้ ว่ากันง่ายๆคือไม่ว่าอย่างไงรีล มาดริดก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้แชมป์รายการนี้หลุดมือพวกเขาไป

       ส่วนสกอร์ที่เกิดขึ้นในเกมแอตฯมาดริดบุกเสมอบาร์เซโลน่าก่อนจะซิวแชมป์ลาลีกา สเปนไปครองนั้นเป็นบาร์เซโลน่าที่ขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากอเล็กซิซ ซานเชสในนาทีที่ 33 และจบครึ่งเวลาแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว ครึ่งเวลาหลังเป็นดิเอโก้ โกดิน กองหลังทีมแอตตฯมาดริดที่มาโขกประตูตีเสมอให้ทีมได้ในนาทีที่ 49 เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกมไปด้วยสกอร์ 1-1 (ก่อนหน้านี้แอตฯมาดริดคว้าแชมป์ลีกครั้งล่าสุดได้ในปี 1995 )

537

       ต้องบอกว่าหลังจากที่บรรดาเดอะกันเนอร์สรอคอยความสำเร็จของทีมมาเนิ่นนานหลายปีก็ถึงคราวที่พวกเขาได้สมหวังสักที หลังทีมรักสามารถเป็นฝ่ายกำชัยชนะเหนือทีมเดอะไทเกอร์ส “ฮัลล์ ซิตี้” ได้ในเกมนนัดชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลถ้วยใบเก่าแก่ในประเทศอย่าง เอฟเอคัพ ทั้งนี้ความสำเร็จครั้งนี้ของ อาร์เซน่อล นับเป็นคามสำเร็จครั้งแรกของพวกเขาในรอบ 9 ปี กล่าวคือย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ 9 ปี อาร์เซน่อลไม่เคยได้สัมผัสถ้วยแชมป์รายการใดเลย เรียกได้ว่าความสำเร็จที่เดอะกันเนอร์สได้รับเพียงอย่างเดียวก็คือตั๋วยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกในแต่ละฤดูกาลเท่านั้น

       อย่างไรก็ตามสำหรับเกมนัดชิงชนะเลิศศึกเอฟเอคัพนี้ต้องถือว่าเป็นอะไรที่ทำเอาแฟนบอลเดอะกันเนอร์สใจหาย ใจคว่ำไม่น้อยเหมือนกันก่อนที่จะลงเอยด้วยความสุขสมหวัง เหตุเพราะฮัลล์ ซิตี้สามารถสู้ได้อย่างสนุกสูสีมากๆ ทั้งยังเป็นฝ่ายกุมสกอร์ขึ้นนำอาร์เซน่อลไปก่อนด้วยซ้ำ โดยฮัลล์ ซิตี้ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 และ 2-0 อย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 3 และนาทีที่ 8 จากเจมส์ เชสเตอร์ และเคอร์ติส เดวิส ตามลำดับ ส่วนประตูตีไข่แตกของอาร์เซน่อลมาได้ในนาทีที่ 9 และทำให้สกอร์คงอยู่ที่ 2-1 มาจนถึงช่วงท้ายเกม นาทีที่ 71 ปืนโตจึงค่อยควานหาประตูตีเสมอได้สำเร็จ ก่อนที่จะมาพลิกแซงนำ และชนะไปในที่สุดด้วยสกอร์ 3-2 ในต่อเวลาพิเศษ

       สำหรับสามประตูของอาร์เซน่อลที่ได้มาในเกมนี้  ได้จากการ์ซอล่า กอสเซียลนี่ และแรมซี่ย์ ตามลำดับ สรุปผลงานของอาร์เซน่อลในซีซั่นนี้เป็นการคว้าหนึ่งแชมป์บอลถ้วย และคว้าอันดับสี่ในตารางคะแนนบอลลีก (ซิวตั๋วยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้า) ซึ่งเป็นผลงานที่น่าพอใจด้วยประการทั้งปวง แม้ว่าในซีซั่นนี้จะมีอยู่ช่วงนึงที่พวกเขาอยู่ในสถานะที่ดีสำหรับการลุ้นคว้าแชมป์ลีก แต่ต้องพลาดไปในที่สุดก็ตาม เพราะส่วนนึงก็ต้องยอมรับว่าทีมอย่างแมนฯซิตี้ ลิเวอร์พูล และเชลซีในฤดูกาลนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ

538

       กลายเป็นอีกหนึ่งแข้งที่ต้องคิดหนักเกี่ยวกับอนาคตของตนเองในซัมเมอร์นี้ซะแล้วครับ สำหรับ ปาทริซ เอวร่า แบ็กซ้ายเลือดน้ำหอมของทีมปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด ด้วยว่าหลังจากที่เจ้าตัวมีทีท่าว่าจะตัดสินใจอำลาทีมแห่งโอลแทรฟฟอร์ดเพื่อไปค้าแข้งในต่างแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน กัลโช่ เซเรีย เอ อิตาลี ไม่นานนักก็มีสื่อออกมาปูดข่าวทำนองว่าว่าที่นายใหญ่คนใหม่แห่งโอลแทรฟฟอร์ดอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล ไม่ต้องการให้ตัวเขาย้ายออกจากโอลแทรฟฟอร์ด เนื่องจากเล็งเขาไว้เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในซีซั่นหน้า

       ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ฟาน กัลตกเป็นข่าวเบรกการย้ายทีมของบรรดาแข้งผีบางรายมาบ้างแล้ว ก่อนที่จะตกเป็นข่าวเบรกการย้ายทีมของเอวร่าตามที่กล่าวนี้ อาทิเช่นในรายของหลุยส์ นานี่ ปีกทีมชาติโปรตุเกสที่ส่อแววหมดอนาคตในทีมปีศาจแดงยุคเดวิด มอยส์ แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ก็ไม่ชัวร์ซะทีเดียวว่าตามที่ข่าวตีออกมานั้นเป็นความต้องหลุยส์ ฟาน กัลจริงหรือไม่ หรือเป็นแค่เพียงการเชื่อมโยงข่าวตามช่วงเวลารอบต่อของการเปลี่ยนกุนซือเหมือนอย่างที่เคยมีมา กล่าวคือโดยปกติแล้ว เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือไม่ว่าจะเป็นสโมสรใดก็ตาม มักจะต้องมีนักเตะที่จะได้รับผลกระทบทั้งในด้านดี และด้านร้ายอยู่เป็นปกติอยุ่แล้ว นักเตะบางรายที่เคยเป็นตัวสำรอง หรือไม่อยู่ในแผนการทำทีมของกุนซือคนก่อนก็อาจจะอยู่ในแผนการทำทีมของกุนซือคนใหม่

       ส่วนนักเตะตัวหลักๆของกุนซือรายเดิม บางรายก็อาจต้องหลุดออกจากแผนการทำทีมของกุนซือรายใหม่ ฉะนั้นการที่สื่อจะเชื่อมโยงข่าวของนักเตะรายใดในทีมแมนฯยูไนเต็ดเวลานี้เข้ากับกุนซือหลุยส์ ฟาน กัลก็ล้วนมีความเป็นไปได้ที่จะสอดคล้องกับความเป็นจริงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ส่วนประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้องกับฟาน กัลเวลานี้ก็มีประเด็นข่าวลือที่ว่าฟาน กัลต้องการที่จะดึงอาร์เยน ร็อบเบน ปีกเพื่อนร่วมชาติจากบาเยิร์น มิวนิคมาร่วมงานที่แมนฯยูไนเต็ดด้วยหากว่าเขาได้เข้ามารับงานกุมบังเหียนทีมปีศาจแดง เพราะคิดว่าปีกรายนี้น่าจะช่วยให้งานพาปีศาจแดงกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งของเขาเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น

539

       งานนี้บรรดาเดอะค็อปมีหวังได้เห็นนักเตะใหม่ของทีมตนเองที่ย้ายมาจากเซาธ์แฮมป์ตันสองรายพร้อมกันเลยทีเดียวครับ เมื่อล่าสุดมีสื่อปูดข่าวออกมาว่าเวลานี้ลิเวอร์พูลกำลังเจรจาที่จะขอซื้อตัวนักเตะจากเซาธ์แฮมป์ตันสองรายด้วยกัน ประกอบไปด้วยในรายของ อดัม ลัลลาน่า นักเตะตำแหน่งปีกที่ตกเป็นข่าวอย่างหนักก่อนหน้านี้ กับ เดยัน ลอฟเรน นักเตะตำแหน่งกองหลัง โดยในรายของลัลลาน่านั้นว่ากันว่าทั้งสองสโมสร รวมทั้งตัวนักเตะได้ดำเนินการเจรจากันจนมาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว และทุกอย่างน่าจะลงเอยด้วยดี

       ส่วนเรื่องของสนนราคาค่าตัวนักเตะตามข่าวที่สื่อตีกันออกมานั้นระบุว่าหากลิเวอร์พูลซื้อแบบแพ็คคู่ คือทั้งลัลลาน่า และลอฟเรนด้วย ลิเวอร์พูลน่าจะจ่ายให้เซาธ์แฮมป์ตันประมาณ 40 ล้านปอนด์ ซึ่งก็นับว่าเป็นราคาที่เหมาะสม ส่วนแข้งรายอื่นๆของเซาธ์แฮมป์ตันที่ตกเป็นข่าวได้รับความสนใจจากทีมใหญ่ในช่วงนี้ก็แน่นอนครับว่านอกจากในรายของอดัม ลัลลาน่า กับลอฟเรน ตามที่กล่าวว่าลิเวอร์พูลจะยื่นซื้อแล้วก็เป็นในรายของเจย์ โรดริเกซ กับลุค ชอวร์ โดยในรายหลังนี้ก็ตกเป็นเป้าหมายสำคัญของทีมปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ดอยู่เหมือนกัน แต่ทั้งนั้นทั้งนี้หากว่าดีลการย้ายทีมของบรรดาแข้งดังทีมนักบุญดังที่กล่าวชื่อมาทั้งหมดเกิดขึ้นจริงในซัมเมอร์นี้ แม้จะเป็นข่าวที่น่ายินดีสำหรับตัวนักเตะ เพราะจะได้ย้ายไปเล่นให้กับทีมที่ต้องบอกว่ายิ่งใหญ่กว่า มีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า

       แต่สำหรับในมุมของสโมสรเซาธ์แฮมป์ตันแล้ว ต้องบอกว่าเป็นสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีสำหรับพวกเขาแน่ๆ เพราะการเสียนักเตะตัวเก่ง ตัวหลักออกจากทีมไปหลายๆรายพร้อมกันอย่างนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่น และผลงานในซีซั่นใหม่แน่ๆ ครั้นจะไปหาแข้งรายใหม่ที่เข้ามาทดแทนแข้งเหล่านี้ก็ดูแล้วเป็นไปได้ยากเหลือที่จะสมบูรณ์แบบในแง่ของคุณภาพ กล่าวคือเซาธ์แฮมป์ตันอาจจะหาซื้อนักเตะในตำแหน่งต่างๆมาทดแทนได้ครบถ้วนทุกตำแหน่ง ทุกรายที่ขาดหายไป แต่คุณภาพที่ได้ หรือคุณภาพของนักเตะใหม่ที่เข้ามามันยากที่จะเทียบเท่ากับนักเตะรายเดิมๆ

540

       มีคนโจมตีก็ต้องมีคนปกป้องเป็นธรรมดา ล่าสุด เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ทีมเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งถูกโจมตีเกี่ยวกับการวางแท็คติกการเล่นให้ทีมเสือใต้อย่างหนักหน่วงในช่วงหลัง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องกระเด็นตกรอบฟุตบอลถ้วยยุโรปใบโตอย่างยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก หมดโอกาสสร้างสถิติป้องกันแชมป์รายนี้ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก) ก็เลยได้พระเอกขี่ม้าขาวอย่าง โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ อดีตกองกลางของทีมเสือใต้เองกระโดดออกมากล่าวป้องปกเป็นการใหญ่โตเลยทีเดียว

       ทั้งนี้โอเว่น ฮาร์กริฟส์กล่าวชื่นชมต้นสังกัดเก่าของตนเองว่าเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเยอรมันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และปัจจุบันเป๊ป กวาร์ดิโอล่าก็สามารถเข้ามาพาทีมสานต่อความยอดเยี่ยมได้ในทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลารอคอยความสำเร็จเลย ดังที่เห็นได้จากผลงานการคว้าแชมป์ลีก (บุนเดสลีกา เยอรมัน) ไปครองตั้งแต่ไก่โห่ ฉะนั้นในมุมมองของตนเป๊ป กวาร์ดิโอล่าเป็นกุนซือที่ดีมากๆ และทำผลงานได้ดีตั้งแต่เข้ามาคุมทีมเลย เรียกได้ว่าไม่มีอะไรที่ต้องน่าตำหนิ หรือน่าผิดหวังแต่อย่างใด แต่ส่วนการกระเด็นตกรอบยูฟาแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยการพ่ายแพ้ให้กับทีมราชันชุดขาวนั้น ตนเองมองว่าเป็นความพ่ายแพ้ที่สมเหตุ สมผลแล้ว เป็นการแพ้ให้กับทีมที่ดีกว่า จึงไม่มีอะไรน่าเสียดาย ในแง่ของการวิจารณ์ผลงานของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า โดยเฉพาะในเรื่องของแท็คติกที่วิจารณ์กันไปต่างๆนานา นับเป็นเรื่องที่งี่เง่ามากๆ

       กล่าวสรุปกันชัดๆได้ว่าในมุมมองของโอเว่น อาร์กรีฟส์ เป๊ป กวาร์ดิโอล่าคือกุนซือที่เจ๋งพอจะนำทีมเสือใต้สานต่อความยิ่งใหญ่ในอนาคต สวนทางกับที่หลายคนวิจารณ์ไม่ว่าจะในทำนองว่าแท็คติกการเล่นแบบติกิ ตะกะของเป๊ปไม่เหมาะกับทีมเสือใต้ หรือเป๊ปไม่ควรเปลี่ยนทีเสือใต้ให้เป็นแบบบาร์ซ่า เป็นต้น ส่วนถ้าเราจะว่ากันแบบเป็นกลางว่าเป๊ปเหมาะสมแล้วหรือเปล่าที่จะกุมบังเหียนเสือใต้ต่อไปในอนาคต หรือกับสิ่งที่เป๊ปกำลังทำ ซึ่งก็คือการเปลี่ยนทีมเสือใต้ให้เป็นในแบบที่เขาต้องการมันใช่แล้วหรือ? ก็คงต้องบอกว่าไม่อย่างไรสโมสรเสือใต้ก็คงต้องยอมรับกับสิ่งที่เป๊ปทำ เพราะพวกเขาเป็นคนเลือกเป๊ปเข้ามาเอง และก่อนเลือกก็น่าจะพอทราบดีอยู่แล้วว่าเป๊ปมีสไตล์การทำทีมแบบไหน เว้นเสียแต่ว่าวันนึงพวกเขาจะไม่พึงพอใจในผลงานของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าแล้ว

หน้า: 1 ... 34 35 [36] 37