"เบน ฟอสเตอร์" กลายเป็นแมน ออฟ เดอะ แมทช์แบบไร้คู่แข่งหลังเซฟทั้งเกมนับครั้งไม่ถ้วนรวมถึงจุดโทษของสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดช่วยพลิกเกมให้เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนบุกมาพังประตูชัย 2 เม็ดช็อกกันทั้งแอนฟิลด์และเป็นชัยชนะนัดแรกในรอบ 7 นัดของทีมเยือนอีกด้วย
พรีเมียร์ลีก
วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2556
ลิเวอร์พูล 0-2 เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน
สนาม แอนฟิลด์ เปิดฉากเริ่มเกมมาในนาทีที่ 9 ลิเวอร์พูลส่งบอลเข้าไปกองก้นตาข่ายแล้วแต่ไม่ได้ประตูจากจังหวะที่จอห์นสันเติมขึ้นมาถึงกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนเปิดไปติดกองหลังทีมเยือนแต่บอลกระเด้งมาเข้าทางให้เขายิงด้วยซ้ายทันทีบอลพุ่งแรงแต่ถูกฟอสเตอร์ทุบออกมาเชลวี่ย์ที่อยู่ตรงนั้นตามซ้ำเข้าประตูไปทว่า"ไอ้จ้อน"กลับล้ำหน้าไปก่อน
โอกาสครั้งที่ 2 ของเจ้าบ้านเกิดขึ้นอีกไม่กี่นาทีถัดมาเมื่อซัวเรซตัดบอลได้จากกลางสนามก่อนเลี้ยงตลุยเข้ามาแล้วไหลต่อให้เจอร์ราร์ดด้านขวาซึ่ง"หัวขิง"แตะบอลก่อนหนึ่งจังหวะแล้วยิงด้วยขวานอกกรอบเขตโทษด้านขวาทันทีแต่บอลพุ่งออกเสาไกลไป
"หงส์แดง"เริ่มครองเกมบุกฝั่งเดียวแล้วโดยในนาทีที่ 19 พวกเขาพยายามต่อบอลไปมาหน้าปากประตูก่อนที่ลูคัสจะได้ยิงติดบล็อคเฮนเดอร์สันตามมาเก็บตกก่อนจ่ายไปให้ดาวนิ่งในกรอบเขตโทษด้านขวาซึ่งปีกหน้านิ่งพยายามยิงยัดมาแต่บอลก็ไปติดบล็อคออกหลังไปอีกครั้ง
จากจังหวะเตะมุมกองหลังของเวสต์บรอมสกัดมาเข้าทางซัวเรซที่พยายามลากหลบไปจนสุดเส้นหลังซึ่ง"หม่อมเหยิน"โชว์ลูกไขว้ผ่านบอลมาหน้าประตูแต่บอลไปไม่ถึงเชลวี่ย์ที่ยืนรออยู่โดนสกัดทิ้งออกมาได้
นาทีที่ 24 ดาวนิ่งได้เปิดลูกเตะมุมด้านขวาโดยเล่นสูตรวางมาเสาแรกให้แอ็กเกอร์สลัดหนีโอลส์สันมาขวิดบอลจะเสียบใต้คานอยู่แล้วแต่ฟอสเตอร์กระโดดปัดปลายนิ้่วออกไปได้หวุดหวิด
ถัดมาอีกนาทีเดียวดาวนิ่งคนเดิมลากบอลมาตรงริมเส้นด้านซ้ายตัดเข้ากลางก่อนยิงไกลทันทีจากระยะกว่า 30 หลาบอลพุ่งแรงแต่ไปตรงตัวของฟอสเตอร์ที่ปัดไว้หนึ่งจังหวะก่อนเก็บตกเข้าซองอีกครั้ง
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 37 เจ้าบ้านมีลุ้นอีกครั้งในจังหวะที่เจอร์ราร์ดจ่ายบอลมาให้ดาวนิ่งตรงริมเส้นด้านซ้ายก่อนที่จะไหลมาให้ซัวเรซได้พลิกบอลแล้วส่องไกลจากระยะ 25 หลาแต่บอลลอยโด่งออกไปไกล
รีดโล่ง...เกือบแจกของขวัญสกัดเข้าประตูตัวเอง
ลิเวอร์พูลเกือบมาได้ประตูจากโชคช่วยเมื่อซัวเรซได้บอลในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนเปิดไปทางเสาไกลให้เชลวี่ย์กระชากถึงสุดเส้นด้านขวาแล้วเปิดบอลยัดเข้ามาหน้าประตูซึ่งไม่มีเพื่อนอยู่เลยแต่รีดเตะสกัดวืดแล้วบอลไปโดนขาหลังบอลปลิ้นกลับหลังข้ามคานไปชนิดเจ้าตัวเป่าปากโล่งอกทีเดียว
ต่อมาในช่วงครึ่งหลังได้ 4 นาทีทีมเยือนต้องขอบคุณฟอสเตอร์ที่เซฟจังหวะอันตรายเอาไว้ได้โดยเริ่มจากการที่ซัวเรซลากมาทางริมเส้นด้านซ้ายก่อนจ่ายไปให้ดาวนิ่งได้ยิงไกลทันทีไปติดบล็อคของโอลส์สันก่อนที่ดาวนิ่งวิ่งเข้าตามมาซ้ำอีกทีแต่ฟอสเตอร์ก็ผวามาบล็อคเอาไว้ได้อีก
หลังจากนั้น 2 นาทีฟอสเตอร์ก็มาเซฟอีกครั้งจากจังหวะทำเกมสวยงามดาวนิ่งไหลต่อให้จอห์นสันที่เติมขึ้นมาในกรอบเขตโทษด้านซ้ายปาดเข้ากลางประตูให้เฮนเดอร์สันวิ่งเข้ามาไขว้ยิงตรงเสาไกลทว่าอดีตนายด่านทีมชาติอังกฤษยังล้มตัวปัดออกไปได้
นาทีที่ 59 ซัวเรซโยนโอกาสทิ้งน่าเสียดายเมื่อตัดบอลได้ในแดนของเวสต์บรอมก่อนเลี้ยงเข้าหาประตูทว่าจังหวะยิงสุดท้ายทำได้ไม่ดีบอลค่อยๆปลิ้นออกหลังไปแบบไม่มีอะไรต้องลุ้นกัน
หลังจากนั้นร็อดเจอร์สต้องปรับแท็กติกเพราะทีมยังเจาะไม่เข้าโดยส่งตัวจิ๊ดอย่างบอรินี่และสเตอร์ลิ่งลงมากระชากลากเลื้อยแทนเชลวี่ย์และเฮนเดอร์สัน
ลิเวอร์พูลมาได้ลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษระยะน่ารักน่าลุ้นแต่"หม่อมเหยิน"ยิงจังหวะแรกไปติดกำแพงโดยเขาพยายามตามเข้ามาซ้ำก็ยังไปติดกองหลังเวสต์บรอมออกหลังไป
"หงส์แดง"เกือบได้เฮในจังหวะเดินเกมตรงริมเส้นด้านขวาจอห์นสันจ่ายไปให้ดาวนิ่งแทงต่อให้บอรินี่ลากเข้าในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนยิงเร็วไปทางเสาไกลแต่ฟอสเตอร์ยังโชว์หนึบพุ่งไปคว้าเอาไว้ได้ไม่มีกระฉอกในนาทีที่ 68
ถัดมาอีกไม่กี่นาทีแอ็กเกอร์แทงบอลจากกลางสนามไปให้ซัวเรซหลุดเข้าในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแต่จังหวะยิงสุดท้ายไปติดแม็คออลี่ย์ที่พุ่งเข้ามาบล็อคไว้ได้แบบต้องยกนิ้วให้
ฟอสเตอร์มาเซฟอีกแล้วในจังหวะที่สเตอร์ลิ่งจ่ายบอลมาให้เจอร์ราร์ดยิงเต็มข้อตรงเส้นเขตโทษแต่ฟอสเตอร์ปัดทิ้งไปได้แบบสุดเหลือเชื่อก่อนที่บอรินี่จะตามเข้ามาซ้ำแต่ไม่ตรงกรอบ
นาทีที่ 75 เจ้าบ้านมาได้จุดโทษแบบงงๆ เมื่อเอ็นริเก้เปิดบอลมาจากริมเส้นด้านซ้ายบอลลอยโด่งมาและเป็นซัวเรซที่โดนโอลส์สันกระแทกจากด้านหลังกรรมการชี้ไปที่จุดโทษทันที
เจอร์ราร์ดรับหน้าที่สังหารเองโดยเลือกแปไปตรงเสาด้านขวามือแต่ฟอสเตอร์เดาทางถูกพุ่งไปเซฟเอาไว้ได้ซึ่งนับเป็นวันของเขาจริงๆ
หลังจากนั้นตาหวานตัดสินใจเปลี่ยนตัวเอาคูตินโญ่แข้งตัวใหม่ลงมาแก้เกมทันทีโดยนับเป็นการประเดิมสนามครั้งแรกของเขาในสีเสื้อ"หงส์แดง"ด้วย
นาทีที่ 80 เรน่าต้องออกแรงเซฟบ้างเมื่อมูลุมบูลากบอลมายิงบอลลอยจะเข้ากรอบอยู่แล้วแต่มือกาวสเปนบินไปปัดเอาไว้ได้
จากลูกเตะมุมด้านฝั่งขวาแม็คออลี่ย์วิ่งหนีการประกบของแอ็กเกอร์เข้ามาพุ่งโขกเต็มหัวระยะไม่กี่หลาบอลลอยเข้าไปตุงตาข่ายตรงเสาไกลไปเรียบร้อย
ก่อนหมดเวลา 2 นาทีลูคาคูตัดบอลได้จากกลางสนามก่อนลากบอลมาคนเดียวหนีแอ็เกอร์ไปได้แล้วลองส่องด้วยเท้าขวาหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลยังไม่ตรงกรอบ
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีแรกลูคาคูเอาจนได้เมื่อลากบอลหลบแอ็กเกอร์เข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนยิงสวนตัวของเรน่าเข้าไปกองก้นตาข่าย
ก่อนจบเกมทำให้"หงส์แดง"แพ้เวสต์บรอมวิชคาบ้านโดยที่ทีมเยือนสามารถชนะลิเวอร์พูลแบบไปกลับคว้า 6 แต้มยิงได้ 5 ประตูแบบไม่เสียสักลูกเดียวด้วยพร้อมขยับแซงหน้าขึ้นไปอยู่อันดับ 8 แล้ว
ผู้เขียน
หัวข้อ: "ฟอสเตอร์" หนึบ~!! เซฟจุดโทษพา "มวยโลก" สอย "หงส์ซิ่ง" เงิบ 2-0 (อ่าน 674 ครั้ง)
