"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาเล่นแบบไม่โดนนำไม่มีฮึดยิงไล่แซง "คิวพีอาร์" ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส ที่ฝันค้างถึงแต้มไป 3-1 "เฟล็ตเชอร์" คัมแบ็คยิงด้วย เก็บ 3 คะแนน กระโดดยึดจ่าฝูงคืนมาจาก "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนหนึ่งวัน
พรีเมียร์ ลีก
วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2555
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 - 1 ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด
"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ "ทหารเสือราชินี" ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส ที่เพิ่งจะปลด "ฮิวจ์ส" อดีตเด็ก "ปีศาจแดง" ไปหมาดๆ พร้อมกับตั้งกุนซือหน้าเฉย "เรดแนปป์" ขึ้นนั่งบัญชาการแทน แต่เกมนี้เขาดูลูกทีมชุดใหม่เล่นบนแสตนด์ไปก่อน โดยเป็นผู้ช่วยลงคุมแทนก่อน เปิดฉากเริ่มเกมมาตอนแรกดูเหมือนว่าเจ้าบ้าน "ปีศาจแดง" จะคึกๆอยากเล่นให้ประทับใจท่านเซอร์ แต่ไปๆมาๆเกมของพวกเขาก็วนๆกันอยู่ตรงกลางสนามไม่ได้ขยับขึ้นไปหน้าสักเท่าไหร่ ส่วนคิวพีอาร์ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามาแบบระวังตัวไว้ก่อนอยู่แล้ว
นาทีที่ 15 เป็นจังหวะลุ้นเหมือนกันสำหรับสโคลส์ที่เขาทะลุเข้าไปในเขตโทษแล้วบอลที่ฟาน เพอร์ซี่พยายามจะยิงแหวกตัวบล็อกมันทะลักมา แต่พอแข้งหมามุ่ยจะง้างเท้ายิงก็โดนเบียดเข้าซะก่อนเลยล้มลงไป แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร เฉยๆสำหรับจังหวะนี้
นาทีที่ 20 ก็พยายามสุดๆแล้วสำหรับฟาน เพอร์ซี่ที่วิ่งยึกยักหาช่องก่อนจะไปจุดนัดพบตรงเสาแรกที่เวลเบ็คพยายามตวัดบอลกลับคืนมาให้ ซัดด้วยซ้ายบิดข้อเท้าแบบเต็มที่แต่ก็ยังไม่พอ บอลเบี่ยงได้แค่พุ่งติดหน้าต่างเท่านั้น
มาถึงนาทีที่ 34 กว่าจะได้ลุ้นประตูแบบเต็มๆก็ล่อไปเกือบจะจบครึ่งแรกซะงั้นเลยสำหรับแมนฯยูไนเต็ดที่ได้โอกาสจากรูนี่ย์ซึ่งขยับเข้าไปตวัดยิงบอลที่เพื่อนครอสเลียดมาให้ในเขตโทษ แต่มันไม่หนีตัวของเซซาร์เท่าไหร่เลยล้มตัวสกัดเอาไว้ได้ทัน
อีก 2 นาทีต่อมา นึกว่าจะเข้าตำราโดนนำสไตล์อีกแล้วสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เมื่อซิสเซ่จู่ๆก็โชว์เมพโยนบอลจากด้านข้างครอสเข้าสวยเว่อร์ให้แม็คกีได้ตอร์ปิโดโหม่งบอลผ่านมือลินเดการ์ดเข้าไปตุงตาข่าย แต่ไลน์แมนตีธงขึ้นก่อนเพราะแม็คกียืนล้ำอยู่นิดหนึง
นาทีที่ 41 เกือบหมี่เหลืองกันเล็กน้่อยเลยสำหรับจังหวะที่ฟาน เพอร์ซี่เกี่ยวบอลที่สโคลส์เปิดยาวมาได้ ก่อนจะตวัดกลับเข้าไปหน้าประตู มียังที่วิ่งไปรอเสาแรกแต่นัวเนียกับฮิลล์จนล้มลงไป เลยทำให้ปราการหลังคิวพีอาร์ไม่พอใจมองว่าแข้ง "ปีศาจแดง" จงใจพุ่งจะเอาจุดโทษ ฮึดฮัดใส่กันจนผู้ตัดสินต้องเรียกมาปรามสักหน่อย
แม้ว่าแฟนบอลเจ้าบ้านจะพยายามส่งเสียงเร่งเร้าให้ผู้เล่นแมนฯยูไนเต็ดเดินเกมรุกให้มันคึกคักเหมือนอย่างที่หวังกันเอาไว้สักหน่อย แต่เกมของ "ปีศาจแดง" ก็ดูอืดๆ ติดๆขัดๆไม่ค่อยจะลื่นไหลเท่าที่ควร จังหวะโต้กลับสวนกลับที่หากินได้ตลอดหายไปเลย
จบ 45 นาทีจะว่าน่าเบื่อก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ก็ไม่ใช่ครึ่งแรกที่เร้าใจผู้ชมสักเท่าไหร่ ถ้ายื้อไปแบบนี้คิวพีอาร์ก็ยิ้มกริ่มเลยทีเดียว แต่เฟอร์กูคงไม่ยอมต้องมีการปรับแผนกันบ้างในช่วงพักครึ่ง
ต่อมาในช่วงครึ่งหลังในนาทีที่ 52 ดูซิว่าจะมีการยกธงล้ำอีกไหม สำหรับจังหวะยิงของแม็คกีเมื่อคิวพีอาร์ได้ขึ้นเกมอย่างโล่งเลยทางซ้าย ก่อนที่จะตวัดเปิดบอลเข้าไปเสาแรก ลินเดการ์ดพยายามล้มตัวปัดเอาไว้ แต่บอลไปเข้าทางแม็คกีที่ตั้งเท้าแปบอลส่งเข้าประตูไปจากระยะแค่ไม่กี่หลา คิวพีอาร์นำก่อนแล้ว 1-0 คึกคักกันใหญ่เลย
นาทีที่ 59 ไม่มีอะไรจะเหมาะสมไปกว่านี้อีกแล้วสำหรับการเปลี่ยนตัวของแมนฯยูไนเต็ดเมื่อพวกเขาถอดเอาสโคลส์ที่เกมนี้ไม่ทันกับจังหวะบีบเข้าเร็วของกลางคิวพีอาร์ รวมทั้งยังที่ขึ้นเกมทีไรแฟนบอลต้องส่ายหัว ก่อนจะส่งเอร์นานเดซกับอันแดร์สันลงไปเล่นแทน
ปีอื่นแทบไม่ยิงมายิงเอาปีนี้ทีเดียวสำหรับอีแวนส์ ในจังหวะเตะมุมที่แมนฯยูไนเต็ดโยนเข้าไปเสาสอง มีฟาน เพอร์ซี่กับเวลเบ็คขึ้นโหม่งพร้อมกัน แต่ที่แน่ๆบอลมันเด้งกลับมาอีกทาง เป็นอีแวนส์ที่สอดมาจากไหนไม่รู้ชิงโหม่งตัดก่อนกองหลังคิวพีอาร์จากระยะเผาขนเข้าไป เกมเจ๊ากัน 1-1 ร้องลั่นเลยแฟนเจ้าบ้าน
นาทีที่ 68 ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เมื่อแมฯยูไนเต็ดกดสูตรคัมแบ็คกลับมาได้อีกครั้งและเป็นการทำประตูของเฟล็ตเชอร์ที่หายหน้าไปจากทีมอย่างนาน จากลูกเตะมุมอีกรอบที่คราวนี้โยนเข้าไปตรงกลางเป๊ๆ เฟล็ตเชอร์โถมตัวเข้าโขกได้แบบเต็มเหน่งส่งบอลตุงตาข่าย "ปีศาจแดง" สยองพลิกขึ้นนำแล้ว
อีก 3 นาทีต่อมา เป็นจังหวะที่ยอดเยี่ยมแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนตัวที่เด็ดขาดของเฟอร์กูสัน เมื่อสองตัวสำรองมาผสานพลังจนนำสู่ประตูที่ 3 ต้องยกความดีให้กับอันแดร์สันที่กระชากบอลหนีผู้เล่นคิวพีอาร์ถึงสองคน ก่อนที่จะบรรจงแทงทะลุช่องให้เอร์นานเดซที่เพิ่งจะได้จับบอลครั้งแรกตั้งแต่ลงมายิงสวนตัวเซซาร์เข้าประตูไป แมนฯยูไนเต็ดแซงแล้วทิ้ง 3-1
นาทีที่ 79 แมนฯยูไนเต็ดทำการเปลี่ยนเอาพาวล์มิดฟิลด์ดาวรุ่งลงไปเล่นเวลเบ็คที่แม้ว่าครึ่งแรกจะไม่เด่นเท่าไหร่ แต่พอโดนโยกออกไปทางด้านข้างแล้วทำผลงานได้ดีขึ้น แฟนๆเลยปรบมือให้กำลังใจไป
เข้าช่วง 5 นาทีสุดท้ายไม่มีความจำเป็นต้องเสี่ยงอะไรทั้งนั้นแล้วสำหรับแมนฯยูไนเต็ดที่จัดการปิดเกมรับให้ชัวร์เอาไว้ก่อนแล้วหาจังหวะสวนกลับเพื่อลุ้นประตูจากคิวพีอาร์ เพราะเวลาใกล้หมดเต็มที
ช่วงท้ายเกมก็มีลุ้นกันทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะแมนยูฯไนเต็ดหรือควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส แต่สุดท้าย 90 นาทีเกมจบลงที่สกอร์ 3-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีเพิ่มเป็น 30 คะแนนขึ้นไปครองจ่าฝูงรอดูผลของคู่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ในวันพรุ่งนี้
ส่วนควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์สแม้ว่าจะเปลี่ยนกุนซือแต่ก็ยังต้องรอ 3 คะแนนแรกของพวกเขาต่อไป แข่งไป 13 เกมชนะใครไม่เป็นและมีเพียง 4 คะแนนเท่านั้น