ในเกมนี้ถือว่าหล่ออย่างแรงไปเลยสำหรับ "เอดิน เชโก้" มี่สวมบทบาทเป็นซูเปอร์ซัพซัดประตูในนาทีที่ 87 ช่วยให้ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่โดน "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส ยิงนำไปก่อนพลิกกลับมาเอาชนะด้วยสกอร์ 2-1 คว้า 3 คะแนนสุดระทึก
พรีเมียร์ ลีก
วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน 2555
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 - 1 ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส
สนาม เอติฮัด สเตเดี๊ยม
ออกสตาร์ทช่วงแรกของเกมผ่าน 10 นาทีแรกไป วันเวย์มาแต่ไกลสำหรับเกมของแมนฯซิตี้ที่ได้บุกอยู่ฝั่งเดียวนับตั้งแต่วินาทีแรกที่เริ่มเกม สเปอร์สลงไปตั้งรับกันแน่นทั้งแผง แต่ต้องหาจังหวะสวนบ้างอะไรบ้าง โดนกดอยู่แบบนี้เดี๋ยวมีพรุน
ตั้งรับอยู่นานสองนาน ตอนนี้สเปอร์สเริ่มตั้งหลักได้แทน ขยับระดับของเกมขึ้นแล้วจัดการบุกใส่แมนฯซิตี้ที่ลุยแล้วทำไม่ได้เลยถอยลงไปเล่นเกมชัวร์แทน คราวนี้ดูสิว่าทีมเยือนจะทำได้ดีกว่าไหม
นาทีที่ 21 ถือว่าเป็นการยืนเกมรับลูกตั้งเตะที่พลาดเลยสำหรับแมนฯซิตี้เมื่อพวกเขาประกบกันไม่ดี โดนฮัดเดิลสตันเปิดบอลโค้งเข้าตำแหน่ง คอลเกอร์สอดตัวมาแบบสบายแฮ โหม่งแบบเต็มหัว แม้บอลตรงตัวฮาร์ท แต่แรงได้ใจปัดไว้ไม่อยู่เด้งเข้าประตู "ไก่เดือยทอง" บุกแล้วทำได้เลย 1-0
อีก 2 นาทีต่อมา โวยกันคอแทบแตกเลยสำหรับผู้เล่นแมนฯซิตี้ เพราะจังหวะที่อเกวโร่กำลังเกี่ยวบอลจะล็อกหนีไปยิงในเขตโทษ บอลดันเด้งไปโดนแขนกัลลาสที่กางออกมาชัดเจน แต่โชคร้ายสำหรับเจ้าบ้านที่โอลิเวอร์ผู้ตัดสินในเกมนี้อยู่ในตำแหน่งที่มองได้ไม่ชัด ทำให้เฉยๆ อดไป
นาทีที่ 29 โดนปั่นหัวเต็มๆเลยสำหรับซาบาเลต้า เมื่อเจอทีเด็ดของอเดบายอร์ที่วันนี้เล่นได้เยี่ยม มีป่วนกันไปก่อนในจังหวะแรกที่เรียกฟาวล์ ก่อนจะมายึกล็อกวิ่งไปมาจนซาบาเลต้าเข้าพรวด แข้งโตโกทิ้งตัวลงสบาย ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์แล้วแจกใบเหลืองให้ซาบาเลต้าที่แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองทันที อันนี้โทษใครไม่ได้
ผ่านเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ตอนนี้ยิ่งเล่นยิ่งฉุนใหญ่เลยสำหรับนักเตะของแมนฯซิตี้ เพราะพวกเขาู้รู้สึกว่าไม่ได้รับการเป่าจากโอลิเวอร์เลย ไม่ว่าจะจังหวะที่ซาบาเลต้าล้มในเขตโทษหรือจังหวะที่ยาย่าโดนเข้าชาร์จ แต่ดันไปเป่าให้สเปอร์สในอีกจังหวะอะไรแบบนั้น
นาทีที่ 42 หวิดไปจริงๆสำหรับแนวรับของสเปอร์ส ในจังหวะที่กัลลาสสื่อสารกับเพื่อนไม่เข้าใจ ดันไปปล่อยบอลให้หลุด แถมคอลเกอร์หวดสกัดวืดอีกดอก ยังดีที่อเกวโร่วัยรุ่นใจร้อนไปหน่อยดันยิงจังหวะแรกเลย บอลเลยพุ่งหลุดออกไปไกล
ช่วยท้ายครึ่งแรก เกมนี้มันส่อแววให้มีใบแดงเสียเหลือเกิน เพราะว่ามีหลายจังหวะที่ผู้เล่นของทั้งสองทีมใส่อารมณ์กัน โดยเฉพาะเจ้าบ้านที่ดุเดือดเหลือเกิน จบ 45 นาทีแรก สเปอร์สชิงนำไปก่อน 1-0 ท่ามกลางองศาปุดๆ กลับมาอีกทีจะเย็นลงหรือเดือดกว่าเดิมก็ค่อยว่ากัน
เปิดฉากครึ่งหลังมาเป็น "เรือใบสีฟ้า" ที่ได้ลุยใส่สเปอร์สเรื่อยๆ แต่ก็ดูวูบวาบกว่าเดิม เพราะมันชินี่คงเน้นคงปรับหมากกันมาพอสมควรแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับว่านักเตะจะเค้นกันออกมาได้มากแค่ไหน
นาทีที่ 54 ถ้าจับบอลได้นี่น่าจะใส่สกอร์ไปเลยสำหรับอเกวโร่ในจังหวะที่เขาหลุดกับดักล้ำหน้าไปรอบอลที่เพื่อนเปิดข้ามกองหลังมาให้ แต่ตอนเอาลงมันไม่โดนเหลี่ยม เลยเสียหลักล้ม อดไปเลย
อีก 2 นาทีต่อมา แมนฯซิตี้จัดการส่งไมค่อนลงไปช่วยเสริมเกมรุก นี่เป็นเกมแรกที่เขาได้ลงเล่นต่อหน้าแฟนๆในเอติฮัด โดยถอดเอานาสตาซิสออกไป
นาทีที่ 66 นี่แหละเขาเรียกว่าแชมป์เปี้ยนตัวจริง แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากแค่ไหนแต่พวกเขาก็กลับมาจนได้ เมื่อ อเกวโร่ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่คอลเกอร์จะเสียเหลี่ยมไปเทก่ะจะทักเท้าขวา เจออเกวโร่หลอกหักเข้าใน ก่อนที่จะบรรจงแปผ่านมือของฟรีเดลเข้าไปเสียบเสาสองสวยได้ใจ ตอนนี้เกมเสมอกันเป็น 1-1 แล้ว
ไม่รู้ยังไง แต่ตอนนี้สเปอร์สรวนไปหมดแล้ว เกมรับต้องลุ้นตลอด ส่วนเกมรุกแม้ว่าจะเก็บบอลได้นิดหน่อย แต่จังหวะที่จะเร่งสปีดเข้าไปจี้แนวรับของแมนฯซิตี้กลับผิดพลาดกันเองไปซะหมด
นาทีที่ 74 เป็นจังหวะเซฟเต็มๆของฮาร์ทเลย เมื่อเบลพยายามจะเกีี่ยวบอลเข้าเขตโทษ ซึ่งเข้าทางเขาพอดี ได้ซํดแบบเหน่งๆ บอลพุ่งโคตรแรง แต่ฮาร์ททุบออกมาได้ทัน
และก่อนหน้านี้นิดหน่อยแมนฯซิตี้เพิ่งจะเปลี่ยนเอาเชโก้ลงไปเล่นแทนเตเบซ ขานี้เขายอดซูเปอร์ซัพมีโอกาสเมื่อไหร่ล่ะเฮได้แน่
นาทีที่ 80 ถือว่าขอลุ้นต่อเหมือนกันสำหรับโบอาสเมื่อเปลี่ยนเอาอเดบายอร์ออกท่ามกลางเสียงโห่ของแฟนเจ้าถิ่น ก่อนที่ะส่งเดโฟลงไปเล่นแทน ถ้ามีโอกาสก็น่าลุ้นเหมือนกัน ส่วนเกมตอนนี้เรือลุยอย่างหนักหน่วง ดูแล้วน่าห่วงแทนสเปอร์สเหลือเกิน
นาทีที่ 88 เปลี่ยนลงมาละไว้ใจได้จริงๆสำหรับเชโก้ เมื่อเขามาทำประตูพลิกขึ้นนำให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้ ในจังหวะที่เขาหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปตวัดยิงวอลเล่ย์จังหวะเดียวแสกหน้าฟรีเดล ช่วยให้แมนฯซิตี้พลิก 2-1
จบ 90 นาทีเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่สะใจสุดๆ พลิกเอาชนะสเปอร์สไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 จากซุเปอร์ซัพของเชโก้ ทำให้พวกเขามีคะแนนแซงเชลซีไปก่อนชั่วคราวด้วยการมี 25 แต้ม ส่วนสเปอร์สอยู่ที่ 6 มี 17 คะแนนเหมือนเดิม