ผู้เขียน หัวข้อ: ตามกฏเป๊ะ~!! "RVP" ยิงทีมเก่า "ผี" ย้ำแค้นซัด "ปืนโต" 10 ตัว 2-1 ขึ้นจ่าฝูง  (อ่าน 1036 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

กฏยิงประตูทีมเก่านั้นยังคงเป็นกฏที่ใช้กันอยู่เสมอเมื่อ "โรบิน ฟาน เพอร์ซี่" หัวหอกตัวเก่าของ "ปืนโต" ซัดเบิกร่องสนองให้กับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่นาทีที่ 3 แม้ว่าแฟทแมนอย่าง "รูนี่ย์" นั้นจะพลาดจุดโทษไป แต่พวกเขาก็ย้ำแค้น "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ที่ "วิลเชียร์" โดนใบแดงไล่ออกไปด้วยสกอร์ 2-1 ขึ้นจ่าฝูงชั่วคราวเรียบร้อย



พรีเมียร์ ลีก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 1 อาร์เซนอล 
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด

"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระเบิดศึกบิ๊กแมตช์ประจำเกมวันเสาร์นี้ด้วยการเปิดบ้าน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ปูพรหมแดงต้อนรับการมาเยือนของ "แก๊งค์ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ที่เมื่อซีซั่นที่แล้วโดนกระซวกเละเทะไปถึง 8-2 ยังหลอน "เดอะ กูนเนอร์ส" ไม่หาย

               เปิดฉากเริ่มเกมช่วงครึ่งแรกได้แค่ 3 นาที เกมนี้ก็เข้าสูตรยิงประตูทีมเก่าทันทีทันใด เมื่อแฟร์มาเล่นพลาดมหันต์สะกัดลูกครอสสุดกากของราฟาเอลที่เปิดแป้กจากด้านข้างไม่ดี เหมือนตั้งบอลให้ฟาน เพอร์ซี่วิ่งเข้ามาหวดด้วยเท้าขวาส่งบอลพุ่งผ่านมือมันโนเน่ไปเสียบเสาสอง แมนฯยูไนเต็ดขึ้นนำ 1-0 พร้อมกับการที่ฟาน เพอร์ซี่ไม่ขอดีใจกับประตูที่ทำได้กับทีมเก่าของเขา

พอโดนประตูนำเร็ว อาร์เซนอลก็รวนนิดๆ ก่อนที่จะเริ่มตั้งเกมของพวกเขาใหม่ โดยที่ตอนนี้พยายามครองเกมเพื่อทวงประตูตีเสมอคืนให้ได้ แต่จะลุยเจาะไม่ถึงกรอบเขตโทษสักเท่าไหร่ เพราะแมนฯยูไนเต็ดเน้นลงไปยืนกันแน่นแล้วสวนเอา

นาทีที่ 14 เห็นแบบนี้เสียวแทนว่าจะมีใบแดงเกิดขึ้นเมื่อวิลเชียร์ไปเสียการครองบอล เลยพยายามที่จะตัดคืนจากเคลฟเวอร์ลี่ย์ แต่การเข้าบอลมันรุนแรงเหลือเกิน เพราะรวบจากด้านหลังแบบหนักหน่วง ผู้ตัดสินเลยแจกใบเหลืองให้ตามระเบียบ เหลืออีก 70 กว่านาทีแบบนี้ต้องระวังให้ดีเลย

นาทีที่ 21 หวิดจะบวก 2 ประตูซะแล้วสำหรับฟาน เพอร์ซี่ เมื่อรูนี่ย์จัดการแทงทะลุช่องให้แข้งดัตช์แมนลุ้นยิงด้วยเท้าขวาอีกครั้งในเขตโทษ แต่คราวนี้มุมแคบไปเลยเจอมันโนเน่บล็อกเอาไว้ได้

อีก 3 นาทีต่อมา มีลุ้นคืนทันควันเหมือนกันสำหรับอาร์เซนอล กับจังหวะที่เอฟร่าโดนแรมซี่ย์กระชากบอลหลุดไปต่อหน้าต่อตา ก่อนที่แข้งไอติมจะยึกหลอกในเขตโทษแล้วเปิดยัดไปเสาแรก เด เกอาพุ่งปัดเอาไว้ได้สวย ก่อนจะช่วยกันเคลียร์ไปได้

นาทีที่ 27 เป็นการโหมบุกชุดใหญ่ของแมนฯยูไนเต็ดเลย เมื่อคาร์ริคตักบอลให้รูนี่ย์ในเขตโทษไม่ล้ำหน้า ก่อนตะบันด้วยซ้ายเน้นๆ ติดเซฟของมันโนเน่ เจ้าบ้านยังได้บอลงัดเข้าไปอีกหน คราวนี้ฟาน เพอร์ซี่โหม่ง แต่เบาหวิว มันโนเนเซฟสบายใจ

กำลังจะเข้า 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ตอนนี้ทั้งสองทีมสู้กันตรงกลางสนามซะส่วนใหญ่ ดูแล้วอาร์เซนอลได้ครองบอลมากกว่า แต่จะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเผลอไปอาจโดนสวนแล้วหายก็เป็นได้

เล่นเอาแฟนบอลเสียวหัวใจว๊าบเลย ในจังหวะที่วิลเชียร์พยายามจะหมุนตัวพลิกพาบอลหนี แต่ไปโดนคาร์ริคที่พยายามเข้าสกัดเหยียบด้านหลังจนสตั๊ดหลุด แต่จังหวะนี้ไม่ได้ตั้งใจ ผู้ตัดสินเลยแค่เตือนเบาๆ

นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก หรือนี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของเกมนี้ เพราะแมนฯยูไนเต็ดมาได้จุดโทษในช่วงสำคัญสุดๆ จากจังหวะที่ยังเปิดไปติดมือของกาซอร์ล่าในเขตโทษ รูนี่ย์ที่ถูกโฉลกกับอาร์เซนอลรับหน้าที่สังหาร แต่อาจจะกดดันเกิน จังหวะยิงเลยเบี่ยงหลุดเสาออกไป เฟอร์กี้ทำหน้าเซ็งเลย

จบ 45 นาทีแรก เป็นแมนฯยูไนเต็ดที่นำอยู่ 1-0 จากลูกยิงของฟาน เพอร์ซี่ที่ซัดตั้งแต่ต้นเกม แต่รูนี่ย์ก็พลาดจังหวะลูกจุดโทษก่อนหมดเวลาไป ซึ่งนี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนกับการที่นำอยู่แค่ประตูเดียวก็ได้

ระหว่างเดินเข้าอุโมงค์มีภาพประทับใจให้ได้เห็นกัน เมื่อฟาน เพอร์ซี่เดินเข้าสวมกอดกับเวนเกอร์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มทั้งคู่ ก่อนที่จะถอดเสื้อให้ซานโตสที่บอกขอสักตัวเต๊อะพี่

                ออกสตาร์ทครึ่งหลังมาได้แค่ 2 นาที แมนฯยูไนเต็ดสมควรได้ประตูที่ 2 โคตรๆ เมื่อแฟร์มาเล่นพลาดอีกรอบเมื่อจะคล้องบอลลงดักเกมสวนกลับของแมนฯยูไนเต็ด แต่ดันตั้งให้ฟาน เพอร์ซี่ไ้ด้ลากบอลเข้าไปจนสุด แล้วเปิดให้วาเลนเซียแปโล่งๆคนเดียวหน้าประตู แต่กลับยิงแป้กลอดขาตัวเองหลุดออกนอกกรอบไปชนิดที่น่าผิดหวังจริงๆ

นาทีที่ 52 ต้องจัดของหนักลงเท่านั้นแล้วสำหรับอาร์เซนอล เมื่อเปลี่ยนวัลค็อตต์ที่เพิ่งจะซัดแฮทริกในเกมกลางสัปดาห์ไปลงเล่นแทนแรมซี่ย์ ต้องดูว่าเขาจะจี๊ดจ๊าดเหมือนอย่างเกมที่แล้วหรือไม่

อีก 2 นาทีต่อมา ได้บุกครั้งนี้มีลุ้นจริงๆสำหรับอาร์เซนอล เมื่อชิรูด์ได้บอลในกรอบเขตโทษ ผู้เล่นแมนฯยูไนเต็ดประกบห่างไปนิด ทำให้่ได้พลิกยิงมุมแคบ แต่บอลไปติดเสาเหลี่ยมนอกออกไป

นาทีที่ 60 ต้องโดนใบเหลืองแน่นอนสำหรับฟาน เพอร์ซี่ที่ไปเข้าช้าุสุดๆใส่ซานญ่า เสียบจนแบ็คเลือดเฟร้นช์ล้มกลิ้ง ผู้ตัดสินเลยจัดการแจกใบเหลืองไปให้ซะเลย

ก่อนที่ต่อมาแมนฯยูไนเต็ดจะเปลี่ยนเอาเคลฟเวอร์ลี่ย์ออกไป เพราะเสี่ยงสุดๆกับการจะโดนไล่ออก มีเหลืองติดอยู่แล้วดันไปเข้าหนักอีกรอบซะนี่

นาทีที่ 66 สุดยอดจริงๆสำหรับมันโนเน่ในจังหวะที่ยังตักบอลให้ฟาน เพอร์ซี่หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษไม่ล้ำหน้าแล้ว แต่จังหวะที่รีบยิงเบี่ยงนั้นไม่ผ่านมือของมันโนเน่ที่อ่านขาดทิ้งตัวปัดปลายนิ้วออกไปได้

จังหวะเตะมุมต่อเนื่อง แมนฯยูไนเต็ดเล่นสั้นและก็มาทำประตูนำห่างจนได้ เมื่อรูนี่ย์บรรจงตักบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ หล่นใส่หัวของเอฟร่าที่เทคตัวเตี้ยๆของเขาไปโหม่งเล่นทางส่งบอลผ่านมือมันโนเน่ที่เซฟยังไงก็ไม่ไหว เกมห่าง 2-0

นาทีที่ 70 ต้องยอมรับไปเท่านั้นสำหรับวิลเชียร์ที่อุตส่าห์รอดมาก่อนหน้านี้แล้วครั้งหนึงจากการเข้าหนักจนผู้ตัดสินเตือนไปหนักๆรอบหนึงแล้ว แต่คราวนี้มาจับบอลยาวแล้วย่ำใส่เอฟร่าแบบเต็มรัก ดีนไม่มีทางเลือกต้องให้ใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ตอนนี้แมนฯยูไนเต็ดเน้นครองบอลชัวร์ๆแล้วหาโอกาสเข้าทำแบบไม่รีบร้อน เพราะนอกจากจะนำอยู่ 2-0 ก็ยังมีตัวผู้เล่นมากกว่าอีกด้วย แต่พวกเขาก็ไม่ได้ประตูที่ 3 แม้ว่าอันแดร์สันจะยิงเข้าไป เพราะล้ำหน้าไปก่อน

ช่วงทดเวลานาทีสุดท้าย อาร์เซนอลมาได้ประตูปลอบขวัญจากกาซอร์ล่าที่ยิงสุดสวยโค้งอ้อมผ่านมือของเด เกอาเข้าไป จบ 90 นาทีแมนฯยูไนเต็ดเอาชนะอาร์เซนอลไปด้วยสกอร์ 2-1 ขยับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงได้เป็นครั้งแรกของซีซั่นนี้ แม้จะชั่วคราวก่อนเชลซีเตะในคืนนี้ อาร์เซนอลเองก็ต้องพ่ายไปในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดอีกครั้ง หลังจากพวกเขามาเยือน 10 ครั้งหลังสุด ผิดหวังถึง 9 ครั้งเลย
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา