ผู้เขียน หัวข้อ: "หมูและเพื่อนแดน" ควงกันเบิ้ล~!! "สิงโต" โฉดเจื๋อนหัว "ซาน มาริโน่" ดับ 5-0  (อ่าน 958 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

"สิงโตคำราม" อังกฤษ ในเกมนี้ถือว่าจัดหนักกันเลย เมื่อ สังหารโหด "ซาน มาริโน่" ทีมรวมดารามนุษย์เงินเดือน ไปได้แบบไม่เหนื่อย 5-0 โดยมี "เวย์น รูนี่ย์" และ "แดนนี่ เวลเบ็ค" ที่ควงแขนกันซัดไปคนละสิงเม็ด



ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก
สนาม เวมบลีย์
วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม 2555
อังกฤษ 5 - 0 ซาน มาริโน่

                 ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือกออกสตาร์ทกันมาในครึ่งแรกก็เป็นไปตามคาดอังกฤษบุกเข้าใส่ตลอดและก็ได้ลองทดสอบซาน มาริโน่อย่างไวจากแชมเบอร์เลนที่ลากตัดจากซ้ายมายิงหน้าเขตโทษ บอลจะเสียบคานแล้วแต่ก็เจอซิมอนชินี่ปัดออกหลังไปได้อยู่

แต่เพียงแค่ 7 นาที"สิงโต"ก็ต้องเสียหายซะแล้วเพราะต้องเปลี่ยนวัลคอตต์ออกเลยหลังเขาไปเข้าปะทะกับนายประตูของซาน มาริโน่จนต้องปฐมพยาบาลซักพักแม้จะพอเดินออกจากสนามได้แต่อาการก็ไม่ดีดูมึนๆเลยต้องให้เลนน่อนลงมาแทน

โอกาสของ"สิงโต"ยังไม่ได้มาเยอะนักมีโอกาสได้ลุ้นจากลูกเตะมุมบ้างคราวนี้เป็นเบนส์เปิดเข้ามาที่เสาแรก ก่อนเป็นรูนี่ย์ที่โฉบมาโหม่งแต่บอลก็ยังหลุดกรอบออกหลังไปอยู่

อังกฤษชักจะเริ่มได้นวดหนักขึ้นแล้วมาขึงบอลหน้าเขตโทษก่อนจบลงที่จังหวะสับไกของแชมเบอร์เลนอีกแล้วในนาที 25 บอลพุ่งเรียดตรงตัวซิมอนชินี่ตั้งแขนรอเซฟออกไปได้อีกครั้ง

นาที 32 เกือบจะมีประตูออกนำไปแล้วสำหรับอังกฤษเริ่มต้นที่เลนน่อนพาบอลไปจนสุดเส้นหลังเลยก่อนจะวนกลับมาให้กับเคลฟเวอร์ลี่ย์ตั้งป้อมเปิดจากขวาเข้าไปที่เสาไกลให้กับรูนี่ย์สอดมาโขกเน้นๆแต่บอลหลุดเสาออกไปนิดเดียวทำให้ยังไม่ได้ประตูนำซะที

จนถึงจุดนี้ดูอะไรๆยังไม่เข้าทางเจ้าบ้านเพราะมีโอกาสจะขึ้นนำเน้นๆสองหนยังไม่ได้อีกเริ่มต้นที่การยิงไกลของคาร์ริคก่อนชนคานอย่างจังเบอร์ มาเข้าทางเวลเบ็ควิ่งมาซ้ำก็ไม่ดีอีกซัดชนเสาเน้นๆ

แต่แล้วก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้เริ่มต้นจากเวลเบ็คพาบอลเข้าเขตโทษไปแล้วแตะหลบซิมอนชินี่แล้วเจอกวาดเข้าไปกรรมการให้เป็นจุดโทษทันที ก่อนรูนี่ย์จะมารับหน้าที่สังหารเองแล้วก็ไม่เหลือ อังกฤษออกนำไปแล้ว 1-0

อีก 2 นาทีถัดมา"สิงโต"ก็ได้คำรามอีกครั้งมาบวกประตูเพิ่มได้เริ่มจากวอล์คเกอร์คืนบอลไปให้กับเคลฟเวอร์ลี่ย์หน้าเขตโทษก่อนจะแทงเข้าเขตโทษให้เลนน่อนสปีดไปหักกลับมาเสาแรก มีเวลเบ็ควิ่งมาโชว์เมพไขว้เข้าประตูไป อังกฤษทิ้งห่างเป็น 2-0

ช่วงท้ายครึ่งแรกเกือบจะมีลูกสามให้อังกฤษได้เชยชมจากการยิงไกลของรูนี่ย์จากบริเวณมุมเขตโทษทางซ้าย บอลจะเสียบเสาไกลอยู่แล้วแต่ยังเจอซิมอนชินี่นายประตูนักบัญชีปัดออกหลังไปได้อยู่ ทำให้จบครึ่งแรกอังกฤษยังนำอยู่ที่ 2-0

                 ลงสนามมาเจอกันต่อในครึ่งหลังอังกฤษยังนวดได้เรื่อยๆเหมือนเดิมและน่าจะมีประตูเพิ่มอีกจริงๆในจังหวะที่ทำกันสวยเริ่มต้นโดยเลนน่อนลากเข้ามาก่อนจะจ่ายให้กับคาร์ริคหน้าเขตโทษก่อนฝากไปที่เวลเบ็คตามด้วยตวัดจะให้กับแชมเบอร์เลนแต่ก็ปล่อยให้คาร์ริควิ่งสอดมาจากข้างหลังยิงด้วยซ้ายยังติดเซฟอยู่ดี

ผ่านมาถึงนาที 60 "สิงโตคำราม"เหมือนเล่นซ้อมเกมบุกก็ไม่ปานกดดันอยู่แถวหน้าเขตโทษได้แบบ่เนื่องทำชิ่งหนึ่งสองเคาะบอลหาช่องไปเรื่อยแต่ยังขาดๆเกินๆไปนิด มีโอกาสเกือบได้ประตูที่สามด้วยจากลูกเปิดของรูนี่ย์ที่เข้าทางจาเกียลก้าวอลเลย์แต่โดนไม่ดีบอลเลยไม่อันตรายอะไร

โอกาสจะบวกลูกสามของเจ้าบ้านมาอีกครั้งคราวนี้เป็นทีของลูกตั้งเตะบ้างในตำแหน่งหน้าเขตโทษเยื้องไปทางขวาก่อนจะเป็นเบนส์รับหน้าที่ยิงเข้ามาเองส่งบอลเลี้ยวหลุดสามเหลี่ยมออกไปแค่นิดเดียวเท่านั้น

เข้าช่วงเผลอๆซาน มาริโน่มีโอกาสกับเขาด้วยเหมือนกันเป็นการลุ้นครั้งแรกเลยก็ว่าได้จากรินาลดี้ที่ได้โอกาสวิ่งแซงหลุดเดี่ยวแนวรับของอังกฤษมาได้ก่อนจะหลุดเขาไปยิงในเขตโทษแต่ก็ยังไม่ให้ฮาร์ทต้องออกแรงยิงหลุดกรอบไปเอง ตามมาด้วยเชลวี่ย์ได้โอกาสประเดิมทีมชุดใหญ่หนแรกลงสนามมาแทนคาร์ริค

นาที 70 เจ้าบ้านก็บดจนได้ประตูเพิ่มเติมสำเร็จจากบอลเปิดกลางสนามออกไปทางซ้ายให้กับเบนส์โหม่งบอลกลับมาหน้าเขตโทษถึงเลนน่อนวิ่งมาจะเล่นบอลโดนแหย่ล้มแต่รูนี่ย์ไม่สนปรี่เข้ามาซัดไซด์ส่งบอลเสียบเสาไกลไปไม่เหลือ อังกฤษบวกเพิ่มเป็น 3-0

ถัดมาอีกแค่ 2 นาที"สิงโตคำราม"ก็มาบวกเพิ่มได้อีกลูกเป็นบอลจากริมเส้นขวาโดยรูนี่ย์แทงเข้าเขตโทษมาให้กับเคลฟเวอร์ลี่ย์ดึงจังหวะก่อนลากจนถึงสุดเส้นหลังแล้วเปิดเข้ามาที่กรอบ 6 หลาให้กับเวลเบ็ควิ่งมาชาร์จจ่อๆส่งบอลเข้าไปนอนก้นตาข่าย อังกฤษยิงบวกไปอีกเป็น 4-0

น้ำบานแล้วสำหรับซาน มาริโนมาเจอเพิ่มอีกประตูจนได้เป็ฯจังหวะที่แชมเบอร์เลนได้บอลทางซ้ายก่อนจะฝากต่อไปให้กับเบนส์เติมไปสุดเส้นหลังแล้วเปิดเข้ามาตรงกลาง บอลมาถึงเคลฟเวอร์ลี่ย์โดนล้อมอยู่เลยแตะคืนให้แชมเบอร์เลนวิ่งมาปั่นบอลเข้าเสาไกลไปแบบชิวๆ อังกฤษขย้ำแหลก 5-0

เข้า 10 นาทีสุดท้ายแล้วอังกฤษก็ยังทำเกมบุกแบบไม่ลดละได้โอกาสส่องอีกครั้งจากเลนน่อนที่เล่นอยู่กับวอล์คเกอร์ริมเส้นสองคนก่อนจะฝากเข้าในมาให้แชมเบอร์เลนปล่อยข้ามถึงเชลวี่ย์ล็อกเข้าซ้ายแล้วยิงไกลดูแต่บอลยังตรงตัวซิมอนชินี่รับเข้าซองไว้

หลังปล่อยให้ฮาร์ทซัดโอเลี้ยงไปสองถุงก็เป็นอันว่าจบเกม อังกฤษไร้ปัญหาจัดการซาน มาริโน่ไปได้ 5-0 ขยับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงของกลุ่มแล้ว ทิ้งมอนเตเนโกรกับยูเครนไปก่อน 3 คะแนน
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา