เจ้าภาพ "สหราชอาณาจักร" พิชิตได้แบบสบายๆ หลังจากทราโดนไล่ตีเสมอในช่วงครึ่งหลังแต่ก็ยังเร่งเครื่องกลับมาได้ทันพร้อมกับ "เดเนียล สเตอร์ริดจ์" ที่ชิพลูกงามๆ ทำประตูปิดท้ายให้กับ "เจ้าภาพ" เอาชนะ "สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์" 3-1 ลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้ายที่จะเจอกับ "อุรุกวัย" ต่อไป
ฟุตบอลโอลิมปิค
สนาม เวมบลีย์
วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม 2555
สหราชอาณาจักร 3 - 1 สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์
เกมนี้ "สจวร์ต เพียร์ช" นั้นได้เปลี่ยนจากเกมแรกพอสมควรโดยให้ "ไมกาห์" นั้นมายืนแบ็คขวาส่ง "ทอมกินส์" ลงไปเป็นเซ็นเตอร์แทนและ "เบอร์ทรานด์" ย้ายไปนั่งเก้าอี้สำรอง ด้านกองกลางก็เป็น "แรมซี่ย์" ลงมา ส่วนกองหน้านั้นก็ให้ "สเตอร์ริดจ์" นั่งไปก่อนปล่อย "ซอร์เดลล์" ลงตัวจริง เปิดฉากมาเกือบมีประตูไวจากโอกาสแรกของเกมโดยฝั่งสหราชอาณาจักรที่ได้ลุ้ก่อนเลยจากลูกทุ่มให้ซอร์เดลล์ก่อนจะเปิดต่ำเข้าไปในเขตโทษแต่น่าเสียดายแรมซี่ย์สไลด์มาเข้าชาร์จช้าไปนิดเดียว
น้าจัดให้!ถีบจักรเปิดกิ๊กส์โขกเต็มหัว
หลังยูเออีบุกในเสียวอยู่นาน นาที 16 เจ้าภาพก็ได้สิ่งที่ต้องการเรียบร้อยจากจังหวะที่เคลฟเวอร์ลี่ย์ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนจะเลือกออกมาทางซ้ายให้กับเบลลามี่เล็งก่อนนิดนึงจากนั้นก็เปิดลึกไปเสาสองให้กับกิ๊กส์โดดโหม่งบอลตกพื้นสวนทางเข้าเสาไกล สหราชอาณาจักรนำไปแล้ว 1-0
บุกเพลินๆทีม GB ก็เจอจังหวะเสียวได้เช่นกันจากคาลีลที่พาบอลขึ้นมาเองเลยทางซ้ายก่อนจะทำเป็นหยุดแล้วลากต่อผ่านด่านริชาร์ดมาได้แล้วก่อนจะกึ่งยิงกึ่งผ่านไปแต่บอลก็ยังไม่ดีพอหลุดออกไปอีกฝั่งเลย
เกมเรื่อยๆเอื่อยๆไปซักพักจนนาที 32 โอกาสของเจ้าภาพมาอีกครั้งเป็นแรมซี่ย์ที่ออกบอลขึ้่นหน้ามาจนถึงซอร์เดลล์แต่งเข้าซ้ายเหมือนจะยิงก่อนล็อกเข้าขวาแล้วสับบอลมีแฉลบนิดแต่ก็ยังโดนคาเซอีฟปัดไปได้
โอกาสยังมาเรื่อยๆสำหรับเจ้าภาพคราวนี้เป็นบอลบุกขึ้นมากลางสนามโดยกิ๊กส์ก่อนจะแตะมาให้กับเคลฟเวอร์ลี่ย์จ่ายเข้าเขตโทษทางซ้ายให้กับเบลลามี่ได้ลองส่องด้วยขวาเลยแต่บอลก็ยังคงติดเซฟคาเซอีฟอยู่
ท้ายครึ่งแรกก่อนหมดเวลานาทีเดียวสหราชอาณาจักรน่าได้ประตูที่สองแบบสุดๆในจังหวะที่สวนกลับเร็วเคลฟเวอร์ลี่ย์แทงออกมาให้เบลลามี่ทางซ้าย ก่อนจะเผาเครื่องแบ็คยูเออีกกระชากหนีมาดื้อๆแล้วปาดเข้าไปข้างในมีเคลฟเวอร์ลี่ย์วิ่งมาแปไปเสาไกลบอลชนเสาอย่างจัง ไม่พอเด้งมาโดนอีกเสาก่อนจะถูกเตะทิ้งไปอีก สุดท้ายก็จบไปที่พวกเขานำอยู่ 1-0
กลับมาครึ่งหลังโอกาสของฝั่งบริเตนมาก่อนเลยจากจังหวะแรมซี่ย์เบียดริมเส้นกับแข้งยูเออีหลุดมาได้ก่อนจะไหลเข้าในเขตโทษให้สเตอร์ริดจ์แตะเข้าในอีกทีแล้วยิงแต่ยังโดนเซฟด้วยขา
ถัดมาไม่ถึงอึดใจยูเออีส่วนทีเกือบตีเสมอเหมือนกันเป็นลูกโต้กลับขึ้นมาแล้วแทงทะลุให้คาลีลใช้สปีดฉีกกองหลังไปรับบอลแล้วพาเข้าในเขตโทษแม้จะโดนบังแล้วแต่ก็เลือกสับไกเลย บอลพุ่งชนเสาเหลี่ยมนอกออกหลัง
ทำดีมาตลอดแต่แล้วสหราชอาณาจักรเผลอแผล่บเดียวโดนตีเสมออีกแล้วในนาที 60 เป็นจังหวะที่.บอลจากริมเส้นจ่ายเข้ามาตรงกลางให้กับอีซ่าวิ่งมาแตะบอลแรกทีเดียวแหวกแนวรับเจ้าภาพเข้าเขตโทษไปเลยก่อนจะได้ยิงเน้นๆเสาแรกไม่เหลือ ยูเออีตีเสมอเป็น 1-1 สำเร็จ
ชักจะเหนื่อยแล้วสำหรับเจ้าภาพที่ตอนนี้รูปเกมเป๋ไปเลยเจอยูเออีกดดันไล่บอลกระจุนแถมยังมีลุ้นยิงอีกแล้วจากอีซ่าคนเดิมระยะ 20 กว่าหลาหน้าเขตโทษแต่บอลก็ติดแฉลบออกหลัง
นาที 69 ยูเออีมาเยอะขึ้นเรื่อยๆแล้วเกือบจะพลิกขึ้นนำเลยทีเดียวจากบอลทะลุช่องเข้าไปทางซ้ายให้กับคาลิลหลุึดไปจนถึงระยะกรอบหกหลาเลยก่อนจะได้จิ้มแต่ังติดเซฟบัตแลนด์
แต่แล้วอีก 4 นาทีให้หลังเจ้าภาพก็โล่งใจได้ทันทีหลังกลับมานำอีกรอบจนได้เป็นบอลจากกลางสนามออกไปทางขวาให้เบลลามี่กระชากไปจนเกือบสุดเส้นหลังก่อนเปิดเข้าไปตรงกลางเขตโทษให้สเตอร์ริดจ์โฉบไม่ถึง คาเซอีฟออกมาปัดแต่กลายเป็นร้ายเข้าทางซินแคลร์สัมผัสแรกแปบอลเข้าไปเลย สหราชอาณาจักรกลับมานำเป็น 2-1
คราวนี้ถอนหายใจได้เฮือกใหญ่ๆของจริงแล้วสำหรับบริเตนที่ได้อีกประตูต่อเนื่องทันทีเป็นจังหวะเคลฟเวอร์ลี่ย์ไปตัดบอลได้กลางสนามก่อนแทงทีเดียวให้กับสเตอร์ริดจ์สปีดแข่งไปกับสองแนวรับยูเออีเข้าเขตโทษก่อนจะชิพส่งบอลข้ามหัวคาเซอีฟเข้าไปแบบง่ายๆ สหราชอาณาจักรทิ้งห่างเป็น 3-1
ท้ายเกม 10 นาที่สุดท้ายก็ปิดเกมได้เลยยูเออีพยายามจะบุกขึ้นไปยิงแต่ก็ไม่ใกล้เคียงทำให้สหราชอาณาจักรชิวๆเคาะบอลไปมาไม่ต้องเร่งอะไรแต่ก็แอบได้ส่องไปด้วยทีจากอัลเลนยิงไกลหน้าเขตโทษแต่บอลก็หลุดกรอบออกหลัง
จบเกม "สหาราชอาณาจักร" ก็ทำสำเร็จเอาชนะ "ยูเออี" ไปได้ 3-1 ทำให้พวกเขาขยับขึ้นไปมี 4 แต้มเท่าเซเนกัลโอกาสในการเข้ารอบก็มากขึ้นขอเพียงแค่เสมอกับ "อุรุกวัย" ในเกมหน้าได้ก็จะผ่านเข้ารอบไปทันที