ลิเวอร์พูล เล่นจนเหนื่อนกว่าจะเอาชนะ ฟูแล่ม ได้หวุดหวิด 1-0 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ จอห์น เพนท์ซิล เเละได้ขึ้นเป็นอันดับที่ 7 เรียบร้อย
หงส์แดง ลิเวอร์พูล ลงเล่นรับการมาเยือนของ เจ้าสัวน้อย ฟูแล่ม โดยเกมนี้ได้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด พ้นโทษแบนกลับมาอีกครั้ง เเละได้ลงเล่นแทน ลูคัส
เปิดเกมเพียง 3 นาที ฟูแล่ม ได้ฟรีคิกริมเส้นฝั่งซ้าย แดนนี่ เมอร์ฟี่ย์ เปิดโค้งเข้ามาถึง เบรด ฮังเกลันด์ ได้โหม่งเเต่บอลหลุดกรอบออกไป
จากนั้นอีก 2 นาที ราอูล เมยเรเลส เกือบทำประตูให้ ลิเวอร์พลู ได้ขึ้นนำ โดยส่งบอลทะลุช่องให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส เเต่วิ่งเข้าเขตโทษไปก่อนที่จะหลุดเข้าไปยิงผ่านผู้รักษาประตูเข้าไป เเต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าก่อน
ลิเวอร์พูล ยังรุกหนัก นาทีที่ 10 มาร์ติน เคลลี่ เปิดบอลจากกราบขวาเข้ามาให้ เมยเรเลส ขวิดบอลได้สวยแต่ไปโดน สต็อกเดล ประตูทีมเยือนเซฟเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
ทางฝั่ง ฟูแล่ม เริ่มพยายามเล่นให้ช้า ค่อยๆต่อบอล เเละเป็นการทำลายจังหวะเกมเดือดของ ลิเวอร์พูล ให้ชะงักลง
ต่อมานาทีที่ 24 เจ้าบ้านเริ่มกลับมาบุกใหม่ และทำได้ดี เมื่อ เกล็น จอห์นสัน ลากบอลตัดจากซ้ายมาแถวหน้าเขตโทษ เเละซัดพุ่งอย่างสวยงาม แต่ สต็อกเดล ก็ปัดบอลพ้นคานออกไปได้
4 นาทีต่อมา ฟูแล่ม มีลุ้นถึง 2 ครั้ง เป็นจังหวะที่ เดมป์ซี่่ย์ ได้ซัดเต็มๆแต่ว่า เรน่า กลับเซฟไว้ได้ ก่อนที่ เดมเบเล่ จะได้บอลเปิดจากเพื่อนให้ยิงในกรอบเขตโทษแต่ยิงพลาดไปตรงตัว เรน่า อย่างน่าเสียดาย
ก่อนจบครึ่งแรก ฟูแล่ม ยังสู้กับทีมเจ้าบ้านได้อย่างสนุก เเละรักษาสกอร์เสมอ 0-0 ไว้ได้จนหมดเวลา
เข้าสู่ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ตั้งเกมบุกประสบความสำเร็จในนาทีที่ 52 โชคช่วยเต็มๆเมื่อ ตอร์เรส ได้พลิกบอลหน้าเขตโทษก่อนจะซัดไปแฉลบกองหลังบอลเปลี่ยนทางไปชนเสา จอห์น เพนท์ซิล ที่หวังจะช่วยเตะสกัดแต่บอลปลิ้นเข้าประตูตัวเองไป
ฟูแล่ม เองก็ทำได้ดีจากจังหวะที่ เพนท์ซิล เปิดจากขวามาให้ เดมป์ซี่ย์ กระโดดวอลเล่ย์แบบได้เสียว อีกครั้งเป็นจังหวะฟรีคิกระยะ 25 หลา แดนนี่ เมอร์ฟี่ย์ ปั่นบอลหลุดกรอบไปแบบได้ลุ้น
หลังจากนั้น เจ้าถิ่นผ่อนเกมปล่อยให้ ฟูแล่ม บุกข้างเดียว และนาทีที่ 81 ก็เกือบจะโดนตีเสมอจากลูกเตะมุม เมอร์ฟี่ย์ เปิดเข้ามาให้ อารอน ฮิวจ์ส ขึ้นโขกเต็มๆหัวแต่ เรน่า ยังซูเปอร์เซฟบินปัดไปได้
ต่อมา เมอร์ฟี่ย์ เปิดลูกเตะมุมเข้าทาง ฮังเกลันด์ ได้โหม่งบอลกำลังจะเข้าประตูแต่ว่ายังมี เมยเรเลส ยืนขวางทางคุมเส้นอยู่คนสุดท้าย ช่วยเตะสกัดให้เจ้าบ้านรอดจากโดนตีเสมอได้หวิดหวุด
ก่อนหมดเวลา 3 นาที เมอร์ฟี่ย์ ก็ได้เปิดจากริมเส้นเข้าอีก โดยเป็น เดมเบเล่ ที่ได้ยิงในจังหวะสุดท้ายแต่ว่า เรน่า ก็ยังคงเซฟไว้ได้อย่างสุดยอด กหงส์แดงช่วยกันต้านอย่างสุดกำลังจนหมดเวลา คว้าชัยชนะได้สำเร็จ 1-0 เเบบหวุดหหวิด