ผู้เขียน หัวข้อ: มากับดวง~!! "หงส์แดง" ซัดจุดโทษล้ม "คาร์ดิฟฟ์" 3-2 สอยคาร์ลิ่งสมัยที่ 8 !!  (อ่าน 1209 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์คาร์ลิ่ง คัพ มาครองได้อย่างหืดขึ้นคอสุดๆหลังโดน คาร์ดิฟฟ์ ไล่ตีเสมอ 2-2 ในนาที 118 แต่สุดท้ายมากับดวงยิงจุดโทษชนะไป 3-2
ฟุตบอล คาร์ลิ่ง คัพ รอบชิงชนะเลิศ (26 ก.พ.55)
คาร์ดิฟฟ์ 2-2 ลิเวอร์พูล (เสมอ 120 นาที 2-2 ลิเวอร์พูล ชนะจุดโทษ 3-2)



ฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ นัดชิงชนะเลิศ ศึกใหญ่ตัดสินโทรฟี่แชมป์ใบแรกของฟุตบอลเมืองผู้ดีฤดูกาลนี้เป็นการพบกันระหว่าง “เดอะ บลูเบิร์ดส” คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สโมสรจากลีกแชมเปี้ยนชิพ พบกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ตัวเต็งจากพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นเจ้าของสถิติแชมป์สูงสุด 7 สมัยด้วย

เปิดฉากมาแค่นาทีเดียว "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล พลาดการได้ประตูนำอย่างน่าเสียดายเมื่อโต้กลับเร็วมา "เจอร์ราร์ด" แทงบอลไปให้กับ "ดาวนิ่ง" แปะกลับมาให้ "เกล็น จอห์นสัน" จับบอลตรงหน้าเขตโทษก่อนปั่นไปชนคานเข้าอย่างจัง "เจอร์ราร์ด" จะซ้ำก็หวดยิงนกไปไกล

หลังจากนั้น "หงส์แดง" ก็เป็นฝ่ายครองเกมได้อย่างหมดจด โดย "คาร์ดิฟฟ์" นั้นนานๆจะได้บุกขึ้นมาทีและมีลุ้นจากจังหวะที่เซ็ตบอลเร็วเข้าเขตโทษและเป็น "มิลเลอร์" ได้ซัดในเขตโทษแต่บอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

เกมเริ่มช้าลงโดย "คาร์ดิฟฟ์" เริ่มที่จะตั้งหลักได้ และยังมีทีเด็ดด้วย โดยเป็นจังหวะที่เซ็ตบอลขึ้นมาง่ายๆ และเป็น "เอ็นริเก้" ที่พลาดยืนตำแหน่งลอย ทำให้ "มิลเลอร์" ไหลตามช่องให้ "โจ เมสัน" หลุดไปยิงลอดขา "เรน่า" เข้าไป "คาร์ดิฟฟ์" นำ 1-0

ฝ่าย "หงส์แดง" พอโดนก่อนก็พยายามตั้งลำกลับมาแต่หาจังหวะเข้าทำได้ยากเนื่องจาก "คาร์ดิฟฟ์" ตั้งรับได้เหนียวแน่นมาก โดยโอกาสที่ถือว่าได้ลุ้นมีลูกยิงไกลของ "ชาร์ลี อดัม" ที่เก็บบอลแถวสองได้ก่อนซัดด้วยซ้ายถากเสา ก่อนที่จะมีจังหวะช่วงท้ายครึ่งแรก  "เจอร์ราร์ด" เปิดฟรีคิกเข้ามาถึง "แอกเกอร์" ที่สอดขึ้นมาโขกเหน่งๆเลยแต่ว่าโหม่งไปตรงตัว "ฮีตัน" อีก สุดท้าย "คาร์ดิฟฟ์" นั้นยังนำอยู่ 1-0

ต่อมาในช่วงครึ่งหลัง "คาร์ดิฟฟ์" ขอขู่ก่อนด้วยจังหวะประสานงานสวยๆ "ปีเตอร์ วิตติงแฮม" พาบอลผ่าน "แอกเกอร์" ได้ก่อนจะจ่ายให้กับ "คาววี่" ตอกส้นไปให้ "มิลเลอร์" ที่ยืนรับบอลมุมเขตโทษก่อนซัดถากเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น

หลังจากนั้น "หงส์แดง"  ลิเวอร์พูล ก็พยายามทำทุกทางให้ตีเสมอก่อนแต่เจาะเท่าไหร่ก็ไม่ผ่านแนวรับจน "ดัลกลิช" ต้องถอดเอา "เฮนเดอร์สัน" ที่เล่นได้แย่ออกแล้วให้ "เบลลามี่" ลงมาเติมความจัดจ้านในแนวรุกแทน

"เบลลามี่" ลงมายังไม่ได้ช่วยอะไรทีมมากนักแต่ "ลิเวอร์พูล" กลับตีเสมอได้ในนาทีที่ 60 พอดีจากจังหวะลูกเตะมุมที่ "ดาวนิ่ง" เปิดเข้ามาถึง "แคร์โรลล์" เทคตัวโหม่ง ลูกมาถึง "ซัวเรซ" โขกเช็ดเปลี่ยนทางตรงกรอบ 6 หลาแต่ลูกไปชนเสามาเข้าทาง "สเคอร์เทล" เก็บบอลได้ก่อนซ้ำเข้าไปสำเร็จ สกอร์จึงกลับมาเสมอกัน 1-1

เมื่อตีเสมอได้ "ลิเวอร์พูล" ก็เน้นความแน่นอนในเกมบุกมากขึ้นทำให้จังหวะของเกมยังตื้อๆอยู่แม้จะครองบอลบุกได้มากกว่าก็ตาม โดยจังหวะง้างเท้าจังๆก็ยังมาจากลูกเตะมุม และเป็น "สเคอร์เทล" เจ้าเก่าที่ได้หวดที่เสาไกลแต่ว่าบอลตรงตัว "ฮีตัน" ที่ยืนคุมเสาได้ยอดเยี่ยม

ในนาทีที่ 77 "ดาวนิ่ง" ก็มีจังหวะได้หวดจากระยะ 25 หลา บอลแฉลบเล็กน้อยเปลี่ยนทางทำเอา "ฮีตัน" ต้องผวาไปปัดบอลอย่างหวุดหวิด ขณะที่ "คาร์ดิฟฟ์" เองก็มีจังหวะได้ลุ้นจากฟรีคิกระยะอันตราย แต่ "ปีเตอร์ วิตติงแฮม" เพลย์เมคเกอร์ตัวกลั่นปั่นบอลไปติดกำแพงซะก่อน

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยังมีปัญหาในเกมรับโดยเกือบเสียท่าเมื่อปล่อยให้ "คาร์ดิฟฟ์" นั้นเปิดเข้ามาที่เสาไกลและมี "คาววี่" เทคตัวขึ้นโขกบอลกดลงพื้นแต่ลูกเข้าหน้าต่าง ทำเอา "เรน่า" ต้องโวยเพื่อนที่ปล่อยให้โหม่งง่ายๆ แต่ "ลิเวอร์พูล" ก็พลาดโอกาสทองในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเมื่อกองหลัง "คาร์ดิฟฟ์" โหม่งพลาดทำให้ "เหยินน้อย" ซัวเรซ  ได้หลุดเดี่ยวแล้วแต่ดันพักบอลไม่ดีพลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ "เจอร์ราร์ด" จะได้โอกาสซัดหน้าเขตโทษแต่ก็แปข้ามคานออกไปไกล สุดท้ายจบ 90 นาทียังเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ

ในช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรกนั้น "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายครองเกมได้เกือบทั้งหมด โดยมีโอกาสตั้งแต่เริ่มไม่ถึงนาทีเมื่อ "ซัวเรซ" นั้นได้บอลจาก "เบลลามี่" ก่อนซัดเรียดถากเสา และได้โขกลูกเตะมุมในจังหวะต่อมาแต่ก็โดนสกัดได้บนเส้นหวุดหวิด

จากนั้น "คาร์ดิฟฟ์" ยังตั้งรับเป็นหลักโดยมีการส่ง "แอนโธนี่ เจอร์ราร์ด" ลงสนาม แทน ไมาร์ค ฮัดสัน" ที่เล่นต่อไม่ไหว โดยรูปเกมถือว่าตั้งรับได้อย่างดี แต่ "ลิเวอร์พูล" มาหาจังหวะในช่วงท้ายของ 15 นาทีแรกของการต่อเวลาทั้งจากการโขกของ "แคร์โรลล์" จังหวะลากแต่งบอลยิงเองในเขตโทษของ "เบลลามี่" และลูกยิงไกลของ "จอห์นสัน" ก็ล้วนแต่ก็ไม่เข้ากรอบทั้งหมด ทำให้เกมหมดครึ่งแรกของการต่อเวลาสกอร์ยังหยุดที่ 1-1

แต่เมื่อเข้าสู่ครึ่งหลังของการต่อเวลาแค่ 2 นาที "หงส์" ก็ได้ประตูขึ้นนำบ้างเป็น 2-1 เมื่อ "เดิร์ค เคาท์" กระชากบอลขึ้นมาเองถึงระยะ 20 หลา ก่อนซัดจังหวะแรกแป้กไป แต่บอลโดนสกัดมาเข้าทางก่อนยิงซ้ำอีกดอกบอลเข้าเสาแรกไปแบบเหลือเชื่อ

ทว่าหลังจากที่นำแล้ว "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล กลับค่อยๆแผ่วไปเองปล่อยให้ "คาร์ดิฟฟ์" บดขยี้อย่างหนัก จนสุดท้ายก่อนหมดเวลา 2 นาทีก็โดนตีเสมอจากลูกเตะมุม บอลมาถึง "เทอร์เนอร์" ที่เสาไกลโดยแม้จะมี "เคาท์" พยายามขวางเหมือนที่ช่วยเซฟทีมจากการโขกสกัดบอลได้หวุดหวิดในจังหวะก่อนหน้า แต่ "เทอร์เนอร์" ไม่พลาดลูกนี้ซัดเผาขนเข้าไป สุดท้ายเกมจึงจบลง 120 นาทีด้วยการเสมอกัน 2-2 ต้องตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษ

สุดท้ายปรากฏว่า "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ชนะในการดวลจุดโทษ 3-2 โดย 2 คนแรกของ "ลิเวอร์พูล" คือ "เจอร์ราร์ด" กับ "อดัม" ที่ยิงไม่เข้าแต่ยังมีดวงเมื่อ "มิลเลอร์" และ "เกสเตเด" ยิงไปชนเสา และคนสุดท้าย "แอนโธนี่ เจอร์ราร์ด" ยิงพลาดทำให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ไปครองแบบมีดวงสุดๆ
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา