พิมพ์

[Soccer]

สิงโตคำราม อังกฤษ โชว์ฟอร์มแจ่มบุกไปเอาชนะ มังกรแดง เวลส์ ได้สบายๆ 2-0 ในเกมรอบคัดเลือกฟุตบอลยูโร 2012 ได้ขึ้นนำจ่าฝูงของกลุ่ม จี เรียบร้อยแล้ว

สิงโตคำราม อังกฤษ ยกทัพไปเยือนทีม มังกรแดง เวลส์ ทีมบ้านใกล้กัน โดยเกมนี้เป็นเกมแรกที่ จอห์น เทอร์รี่ ได้กลับมาเป็นกัปตันทีมอีกครั้ง โดยมี แจ็ค วิลเชียร์ กองกลางดาวรุ่งลงเป็นตัวจริง แต่ไม่มี แอนดี้ แคร์โรลล์ ที่ยังไม่ฟิตพอ ดาร์เรน เบนท์ ได้ลงสนามแทน ส่วน เวลส์ ขาดตัวเก่ง แกเร็ธ เบล ที่เจ็บ และเกมนี้ อารอน แรมซี่ย์ ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมเป็นครั้งแรก

เริ่มต้นเกมมา อังกฤษ ที่มาในระบบ 4-3-3 ครองเกมได้ก่อนอย่างรวดเร็ว และแค่ 7 นาที ก็มาได้ลูกจุดโทษทันทีจากจังหวะที่ จอห์น เทอร์รี่ ทำชิ่งกับ แอชลี่ย์ โคล ก่อนจะจ่ายให้ แอชลี่ย์ ยังแถวมุมกรอบเขตโทษไปโดน เจมส์ คอลลินส์ สอยร่วงลงไป ลูกนี้ แฟรงค์ แลมพาร์ด รับอาสาสังหารเข้าไปอย่างเลือดเย็น

หลังได้ประตูนำ 1-0 ก็ทำเอาเสียงเชียร์ของแฟนเวลส์ ในสนามมิลเลนเนียม สเตเดี้ยม เงียบกริบ โดย อังกฤษ ยังคงเปิดฉากบุกต่อไป และมาถึงนาทีที่ 14 ก็มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะการขึ้นเกมโดย เกล็น จอห์นสัน ยกบอลให้ แอชลี่ย์ ยังหลุดไปทางขวาก่อนจะหลุดไปเปิดเรียดมาให้ ดาร์เรน เบนท์ จบสกอร์ที่ระยะ 6 หลาเข้าไปสบายๆ

อังกฤษ ยังบู้ต่อ โดย แอชลี่ย์ ยังได้เปิดเข้ามาให้ รูนี่ย์ แต่บอลมาโดนหน้าแข้งหลุดกรอบออกไป โดยปีกจาก แอสตัน วิลล่า ประสานงานกับ จอห์นสัน แบ็กขวาจาก ลิเวอร์พูล ได้อย่างน่าดูชม

เวลส์ ยังตอบโต้กลับไม่ได้แต่ อังกฤษ เริ่มผ่อนเกมลงไปแต่แดนกลางยังคงคุมสถานการณ์ได้ทุกอย่าง โดยเจ้าบ้านมาได้ลุ้นเบาๆก็ลูกฟรีคิกระยะ 30 หลาเยื้องไปทางซ้าย เบลลามี่ เปิดเข้ามาแต่ว่า โจ ฮาร์ท ก็ชกบอลออกไป

แต่ เวย์น เฮสเนสซี่ย์ ประตูเวลส์ ยังต้องทำงานหนัก โดย แจ็ค วิลเชียร์ ขึ้นเกมมาเองก่อนไหลให้ ดาร์เรน เบนท์ กำลังจะหลุดไปติดที่ เฮนเนสซีย์ ยังไวออกมาตัดบอลได้ทันเวลา ซึ่งหลังจากนั้น อังกฤษ พยายามกลับมาเร่งเครื่องช่วงท้ายครึ่งแรก แต่ก็ทำอะไรเพิ่มไมได้ จบครึ่งแรกยังคงนำอยู่ 2-0 เท่าเดิม

เข้าสู่ครึ่งหลัง เวลส์ ทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะในแดนกลาง และมีตัวป่วนสำคัญอย่าง เคร็ก เบลลามี่ อยู่เพียงแต่ว่ายังไม่สามารถหาช่องเข้าไปลุ้นทำประตูได้ถนัดหนัก

เบลลามี่ กับ แอนดี้ คิง คู่กองหน้าจากทีม เลสเตอร์ มีจังหวะประสานงานกันโดย เบลลามี่ จ่ายให้ คิง ได้ลองส่องไกลจากกรอบเขตโทษบอลพุ่งเหินออกไป เป็นโอกาสลุ้นประตูครั้งแรกของเจ้าบ้าน

แต่ เวลส์ ยังประมาทไม่ได้กับ แจ็ค วิลเชียร์ ที่เล่นได้โดดเด่น โดยมีจังหวะใส่พานให้กับ ดาร์เรน เบนท์ ได้หลุดไปอีกครั้งแต่ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ ยังไวออกมาตัดบอลได้เหมือนเดิม

เวลส์ ยังพยายามต่อไป และมีโอกาสเมื่อ จอห์น เทอร์รี่ โดนกดดันจนพลาดเสียบอลไป เป็น แรมซี่ย์ ที่เอาบอลมาเล่นได้ก่อนจะสับไกยิงแต่ว่าก็ซัดเหินข้ามคานออกไป

แกรี่ สปีด นายใหญ่เวลส์ แก้เกมส่ง เช็ด อีแวนส์ และ เดวิด วอห์น ลงสนามมาแทน สตีฟ มอริสัน และ แอนดี้ คิง แต่อังกฤษ ก็กลับมามีลุ้นอีกครั้งเมื่อ รูนี่ย์ จ่ายบอลคืนให้ วิลเชียร์ ได้มีเวลาลองส่องเน้นๆแต่ว่าก็เหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

อังกฤษ มีการเปลี่ยนตัวบ้างโดยส่ง เจมส์ มิลเนอร์ ลงสนามมาแทน รูนี่ย์ ขณะที่ เวลส์ พยายามสู้เต็มที่และเริ่มสร้างแรงกดดันให้ทีมเยือนหนักขึ้นเรื่อยๆ

เกมเริ่มเดือดและมีใบเหลืองเยอะเพียบช่วง 10 นาทีสุดท้าย โดยอังกฤษ ประคองตัวได้ดี ขณะที่ เวลส์ มาได้ลุ้นครั้งสุดท้ายในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจาก เคร็ก เบลลามี่ ที่ได้ลากแต่งบอลมาเองก่อนจะซัดให้ โจ ฮาร์ท ต้องออกแรงเซฟ สุดท้ายเกมจบลงที่ชัยชนะ 2-0 ของอังกฤษ ได้ขึ้นเป็นจ่าฝูงกลุ่ม ส่วนเวลส์ แพ้รวด 4 นัด หมดสิทธิ์ลุ้นแน่นอน