ผู้เขียน หัวข้อ: เฮ้ยย๊ะ~!! ผีหลอก!! 3-0 ไล่เจ๊า "สิงห์บลูส์" มันส์หยด!! 3-3  (อ่าน 1451 ครั้ง)

Armin

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11485
    • ดูรายละเอียด

"กองทัพปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สร้างปาฏิหารย์เมื่อตกเป็นฝ่ายตามหลัง “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ถึง 3-0 ประตู ในช่วงต้นครึ่งหลังแต่กลับมาไล่ตามตีเสมอได้สำเร็จเป็น 3-3 โดยเกมนี้  "เจ้าหมูรูน" เวย์น รูนี่ย์ ยิงจุดโทษ 2 ครั้งช่วยดึงเกมกลับมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
ประจำวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2555
"สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี 3-3  "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด



“สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ลงทำศึกซูเปอร์แมตช์ประจำ “ซูเปอร์ซันเดย์” พรีเมียร์ลีกกับทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นคู่ปรับในการเบียดลุ้นแชมป์กันในฤดูกาลที่แล้วแต่ฤดูกาลนี้ทีมเจ้าบ้านหลุดวงโคจรเร็วเกินกำหนด

       เปิดฉามาออกสตาร์ทได้เพียงแค่ 2 นาทีทีมเยือนเล่นทักทายก่อนจากฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษของ "เวย์น รูนี่ย์" แต่บอลก็เข้ากรอบ ก่อนที่ "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี จะมีเสียวบ้างในนาทีที่ 7 จากจังหวะลูกเตะมุม "ราอูล เมยเรเลส" เปิดเข้ามาแล้วโดน เด เคอา ชกบอลออกมาไม่ดีเข้าทาง "เมยเรเลส" ยิงสวนแต่ก็ไม่ได้ผลเหมือนกัน

จากนั้นนาทีที่  10 "ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด นึกว่าได้เฮแล้วเมื่อ "ไรอัน กิ๊กส์" แทงทะลุช่องให้ เวลเบ็ค หลุดเข้าไปก่อนโดน "แกรี่ เคฮิลล์" สอยในเขตโทษ แต่ว่าผู้ตัดสิน "ฮาวเวิร์ด เว็บบ์" นั้นไม่ยอมเป่าให้จุดโทษแต่อย่างใด
แต่มาถึงนาทีที่ 36 แฟนเจ้าบ้านนั้นก็มีเฮ เมื่อได้ประตูนำแบบมีโชคช่วยเมื่อ "สเตอร์ริดจ์ ลากหนีปาทริซ เอวร่า" ได้ก่อนตบเข้ากลางมา บอลไปแฉลบ "เด เคอา" โดน "จอนนี่ อีแวนส์" เข้าประตูตัวเองไปให้ "สิงห์ไฮโซ" เชลซี ขึ้นนำ 1-0 ซึ่งเป็นประตูโทนในช่วงครึ่งแรกด้วย

   ครึ่งหลังกลับมาเล่นได้แค่ 24 วินาทีเท่านั้น แฟนผีแดงก็ต้องช็อกเป็นคำรบที่สอง เมื่อ "ตอร์เรส" นั้นได้บอลฝั่งขวาของสนามก่อนเปิดไปหน้าปากประตู "มาตา" ซึ่งยืนแบบไร้ตัวประกบวอลเล่ย์เข้าไปเต็มแรง บอลพุ่งเข้าตุงตาข่ายแบบสุดงามให้สกอร์ห่างเป็น 2-0 ประตู

จากนั้นนาทีที่ 50 "ดาวิด ลุยซ์" ก็มาบวกประตูที่ 3 ได้อีก โดยเป็นการเปิดบอลของ "มาตา" เข้ามาถึง "ลุยซ์" ได้โหม่งบอลไปแฉลบไหล่ของ "ริโอ เฟอร์ดินานด์" เข้าประตูไปให้สกอร์บอร์ดโชว์ 3-0

"ป๋าเฟอร์กี้"  เห็นท่าไม่ดีส่ง ฮาเวียร์ “ชิชาริโต้” เอร์นานเดซ ลงมาแทน แอชลี่ย์ แลเว และเหมือนเป็นตัวนำโชคเมื่อทีมมาได้จุดโทษในนาทีที่ 58 จากจังหวะที่ เอวร่า พาบอลเข้าไปในเขตโทษก่อนโดน "สเตอร์ริดจ์" ทำฟาวล์ และเป็น "รูนี่ย์" ที่ยิงให้แมนฯ ยูไนเต็ด ไล่ตามมาเป็น 3-1

ประตูนี้จุดมีความหวังให้ทีมเยือนเต็ม โดยมีการส่ง "พอล สโคลส์" นั้นลงมาช่วยคุมจังหวะแดนกลางด้วยและทำให้รูปเกมดีขึ้น เพียงแต่ก็เกือบโดนทีเด็ดของ "เชลซี" เหมือนกันในจังหวะที่ "ฟลอร็องต์ มาลูด้า" ลากไปสุดเส้นก่อนจ่ายมาให้ "มาตา" หวดเต็มๆแต่ติดเซฟของ "เด เคอา"

มาถึงนาทีที่ 68 "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูไล่ตามมาเป็น 3-2 จากจุดโทษอีกแล้ว เมื่อ "เวลเบ็ค" นั้นพาบอลลุยในเขตโทษก่อนโดน "อิวาโนวิช แซะนิด" เดียวจนล้มลงไป ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษ และเป็น รูนี่ย์ ที่รับอาสาสังหารเข้าไป

งานเข้า "สิงห์" เชลซี อย่างจังจนทำให้ "วิลลาส-โบอาส" ต้องถอด "สเตอร์ริดจ์" ออกและให้  "โอริออล โรเมอู" ลงมาช่วยแพ็กแดนกลางที่เป็นรองอย่างเห็นได้ชัด โดยแมนฯ ยูไนเต็ด เกือบตีเสมอได้เมื่อ "กิ๊กส์" ตัดบอลแดนกลางก่อนไหลให้ ชิชาริโต้ หลุดเข้าไปซัดในเขตโทษแต่บอลหลุดเสาไกลออกไป ขณะที่เจ้าบ้านก็โยนโอกาสคลายความกดดันทิ้งเหมือนกันเมื่อ ตอร์เรส ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษแต่เงอะงะจนไม่ได้ยิงสุดท้ายโดนสกัดไปก่อน

ในนาทีที่ 84"ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด บี้ไม่หยุดและสุดท้ายก็ตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะที่ "รูนี่ย์" ได้ซัดในเขตโทษแล้วโดน "ปีเตอร์ เช็ก" เซฟได้แต่บอลยังไม่พ้นอันตราย "กิ๊กส์" เก็บบอลได้ก่อนเปิดกลับไปกลางประตู และเป็น ชิชาริโต้ ที่โขกตีเสมอให้ทีมได้สำเร็จเป็น 3-3 อย่างไม่มีใครอยากเชื่อ

แต่ "สิงห์ไฮโซ" เชลซี ยังมีสติและพยายามตั้งหลักกลับมาโดยมีโอกาสอีกครั้งเมื่อ "เมยเรเลส" ได้พุ่งโหม่งในเขตโทษแต่บอลข้ามคานออกไป ก่อนที่จะพยายามเปิดฉากบุกใส่ทีมเยือนบ้างหลังลงไปรับนานจนโดนตามตีเสมอได้

และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีแรก "ลุยซ์" ลุยขึ้นมาเรียกฟรีคิกให้ทีมได้ โดยเป็น "มาตา" ที่ปั่นบอลเน้นๆจากระยะ 25 หลา บอลพุ่งโค้งจะเสียบสามเหลี่ยมแน่นอนอยู่แล้วแต่ "เด เคอา" ก็โชว์ลีลาซูเปอร์เซฟบินมาปัดบอลด้วยมือเดียวออกไปได้อย่างเหลือเชื่อสุดๆ ก่อนที่เกมจะจบลงด้วยการเสมอกันแบบสุดมัน 3-3
บันทึกการเข้า
  
ร่วมสนุกลุ้น ผลบอลวันนี้ กับเรา