ต้องบอกว่าเป็นการพิจารณาโทษแบบเด็ดขาด และเป็นมาตรฐานเดียวกันเลยสำหรับประเด็นความผิดของ
เจมี่ วาร์ดี้ และสโมสร
เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูง
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในเกมล่าสุดที่พวกเขาเปิดบ้านไล่ตีเจ๊า
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไป 2-2
เพราะล่าสุดมีการออกมาตั้งข้อหาจากสมาคมลูกหนังอังกฤษหรือเอฟเอใส่
เจมี่ วาร์ดี้ แล้ว โดยเป็นข้อหาเพิ่มเติมจากกรณีที่นักเตะโดนใบเหลืองสองใบกลายเป็นใบแดง แล้วไปต่อว่าผู้ตัดสิน
จอน มอสส์ ก่อนออกจากสนามด้วยคำหยาบ
เป็นความผิดฐานแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ซึ่งหาก
เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่ทำการอุทธรณ์ข้อกล่าวหานี้ของ
วาร์ดี้ ก่อนเวลาหกโมงเย็นของวันที่ 21 เมษายน นักเตะก็จะโดนแบนเพิ่มทันทีหนึ่งเกม ตามบทลงโทษเช่นกรณีที่
ดีเอโก้ คอสต้า กองหน้าเชลซีเคยได้รับมาแล้ว แต่หากว่า
เลสเตอร์ ซิตี้ เลือกที่จะยื่นอุทธรณ์ก็จะต้องมีการรับคำชี้แจงจากทางเลสเตอร์ เพื่อประกอบการพิจารณาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามนอกจากข้อหาแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของวาร์ดี้แล้ว เอฟเอก็ยังได้ตั้งข้อหาใส่
สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ จากกรณีเหตุการณ์ที่นักเตะในทีมเลสเตอร์แสดงความไม่พอใจ หลังจากที่ผู้ตัดสิน
จอน มอสส์ เป่าให้จุดโทษกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ดในนาทีที่ 83 ของเกมการแข่งขันอีกด้วย โดยเป็นข้อหาไม่สามารถควบคุมนักเตะของตนเองได้
สำหรับประเด็นจุดโทษดังกล่าวถือเป็นหนึ่งไฮไลท์ที่ถูกพูดถึงหลังเกมมากที่สุดด้วยว่า ในจังหวะนั้นมีนักเตะของเลสเตอร์ดึงนักเตะทีมเยือนในกรอบเขตโทษจริง ทว่าจังหวะการล้มลงของนักเตะทีมเยือนกลับเป็นการล้มพุ่งไปข้างหน้าเลย โดยเปรียบเทียบกับการที่วาร์ดี้โดนใบเหลืองที่สองไล่ออกจากสนามด้วยข้อหาพุ่งล้ม
กระนั้นในส่วนของบทลงโทษข้อหานี้ของสโมสรเลสเตอร์ตามการรายงานข่าวจากสื่อ ยังไม่ได้มีระบุออกชัดเจนว่าจะเป็นการลงโทษแบบใด แต่พอคาดเดาได้ว่าน่าจะเป็นการลงโทษปรับเงินคล้ายๆกับหลายเคสเดิมๆ ที่เอฟเอตั้งข้อหาใส่สโมสรต่างๆซึ่งไม่ใช่ความผิดแบบเจาะจงนักเตะรายใดรายหนึ่ง