เรียกว่าไม่ใช่ผู้วิเศษมาจากไหนหากแต่ผลงานที่ออกมาประจักษ์แก่สายตาคนทั้งโลกนั้น มาจากเบื้องหลังการทำงานหนักล้วนๆเลย สำหรับคำกล่าวให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุดของกุนซือป็อปปูล่าที่สุด ณ เวลานี้อย่าง
เคลาดิโอ รานิเอรี่ หลังถูกสื่อถามถึงความรู้สึกที่ถูกสื่อทั่วโลกโดยเฉพาะในยุโรปตีข่าวถึงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้อย่างที่ทราบกันรานิเอรี่เข้ามาทำทีม
เลสเตอร์ ซิตี้ ในซีซั่นนี้ และกำลังพาทีมสร้างประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ด้วยการเดินหน้าคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี หลังผ่าน 33 เกมไปแล้ว และยังนำเป็นจ่าฝูง ด้วยจำนวนแต้มที่มากกว่าอันดับสองอยู่ถึงเจ็ดแต้ม
ทั้งๆที่ก่อนเปิดซีซั่นแทบไม่มีใครมองว่า
ทีมจิ้กจอกสยาม จะเป็นหนึ่งทีมที่ลุ้นจบห้าอันดับแรกของตารางคะแนนด้วยซ้ำ จากผลงานดังกล่าวนี้ จึงทำให้หลายสื่อตีข่าวตีสกู๊ปของ
รานิเอรี่ ออกมามากมาย ล่าสุดก็เป็นสื่อในอิตาลีเจ้านึงที่ลงภาพของเจ้าตัวในหน้าหนึ่งของเล่มเลย
อย่างไรก็ตาม
รานิเอรี่ ออกมากล่าวแบบหล่อๆดังเช่นทุกครั้งที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ตนเองนั้นไม่ใช่ผู้วิเศษมาจากไหนที่เข้ามาสร้างปาฏิหาริย์ให้กับทีมจิ้กจอก หากแต่ผลงานที่ออกมานั้นเป็นผลพวงมาจากความตั้งใจทุ่มเททำงานหนักร่วมกับนักเตะ พร้อมกับอธิบายถึงสิ่งที่ทำให้การทำงานกับ
เลสเตอร์ ซิตี้ แตกต่างไปจากการทำงานร่วมกับทีมชาติกรีซ ที่ตัวเขาโดนเด้งลงจากตำแหน่งด้วยว่า
"มันเป็นเรื่องที่ดีนะ แต่จะว่าไปผมก็เคยได้ลงหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ในอิตาลีรวมถึงกรีซหลายครั้งแล้ว (เมื่อครั้งโดนเด้งลงจากตำแหน่งกุนซือทีมชาติกรีซ) ที่จริงผมก็เป็นผู้จัดการทีมธรรมดาๆนี่แหละ ทุกอย่างเหมือนเดิมเลยตอนที่ผมอยู่กรีซผมมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับนักเตะเพียง 15 ครั้งเองจากระยะเวลา 4 เดือน ว่ากันก็คือผมมีโอกาสได้เตรียมทีมก่อนลงสนามแข่งจริงแค่ครั้งละสามวัน แถมไม่มีเกมอุ่นเครื่องให้เล่นอีกมันแตกต่างจากการทำงานร่วมกับสโมสรอย่างต่อเนื่อง ผมไม่ใช่ผู้วิเศษมาจากไหน กับการไม่มีอะไรให้ได้ทำอย่างนั้นแล้วผมจะไปช่วยทีมได้อย่างไร"