"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค กลับมานั่งแท่นจ่าฝูงอีกครั้ง หลังบุกไปเอาชนะ ชาลเก้ 2-0 ในเกมบุนเดสลีก้า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เกมบิ๊กแมตช์นัดนี้ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ เนื่องจาก มานูเอล นอยเออร์ นายทวารทีมชาติเยอรมัน และ ราฟินญ่า กองหลังตัวเก่ง ได้กลับมาเยือน ชาลเก้ อีกครั้ง หลังย้ายไปร่วม ทีมบาเยิร์น มิวนิค ในช่วงซัมเมอร์
จุ๊ปป์ ไฮย์เกส กุนซือ "เสือใต้" ขาดผู้เล่นตัวหลักทั้ง อาร์เยน ร็อบเบน, มาริโอ โกเมซ และ ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น แต่ยังมี ฟรองค์ ริเบรี่ และ โทมัส มุลเลอร์ นำทีม ส่วน ชาลเก้ มี ราอูล และ คลาส ยาน-ฮุนเตลาร์ เป็นคู่หัวหอก
ปีเตอร์เซ่น ซึ่งได้รับโอกาสให้เป็นตัวจริงแทน โกเมซ เล่นได้อย่างวูบวาบ ก่อนที่จะพังประตูให้ บาเยิร์น มิวนิค ขึ้นนำในนาทีที่ 21 จากจังหวะตามซ้ำลูกยิงของตัวเองที่ถูก ราล์ฟ ฟาร์มันน์ ผู้รักษาประตู ชาลเก้ ปัดออกมาได้ในตอนแรก
หลังเสียประตู ชาลเก้ พยายามโหมบุกหนัก และน่าจะตีเสมอได้จากลูกยิงของ ฮุนเตลาร์ แต่ลูกวอลเลย์ของเขาหลุดกรอบไปนิดเดียวในนาทีที่ 33 ก่อนที่จะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-0 ของทีมเยือน
ครึ่งหลัง "เสือใต้" เริ่มกลับมาเป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่าอีกครั้ง โดยที่ ปีเตอร์เซ่น มีโอกาสบวกสกอร์อีกหลายครั้ง แต่พลาดเองไปหมด จนกระทั่งนาทีที่ 75 บาเยิร์น ก็มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จนได้จากลูกยิงของ มุลเลอร์
ช่วงเวลาที่เหลือทีมเยือนเริ่มเล่นแบบประคองเกม ในขณะที่ เกมรุกของ ชาลเก้ ขาดความเฉียบขาดทำให้จบ 90 นาที บาเยิร์น มิวนิค บุกมาชนะ 2-0 พร้อมกับคว้าชัยชนะในลีกเป็นนัดที่ 5 ติดต่อกัน และกลับไปเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง ด้วยการมี 2 แต้มนำ แวร์เดอร์ เบรเมน และ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค