กุนซืออนาคตหม่นหมองอย่าง "เดวิด มอยส์" ยังคงต้องทนรับเสียงสาปส่งต่อไปหลังจากที่ยกพลบุกเยือน "สิงห์บลูส์" เชลซี ถึงถิ่นเจอความเด็ดขาดที่มากกว่าได้ "ซามูเอล เอโต้" รับหน้าที่สำแดงสดเหมาคนเดียวกดแฮตทริกช่วยให้ "สิงห์ไฮโซ" เอาชนะ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมแชมป์เก่าไป 3-1 อยู่อันดับ 3 ต่อไปพร้อมไล่หลังทีมหัวแถวเท่าเดิมและเป็นชัยชนะในพรีเมียร์ลีกนัดที่ 100 ให้ "โจเซ่ มูรินโญ่" ด้วย
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2557
เชลซี 3-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดฉากเริ่มเกมมา "ปีศาจแดง" เกือบจะได้ออกนำก่อนตั้งแต่ทีแรกเลยด้วยจังหวะบอลโดนกสัดเข้าทางของคาร์ริคถ่ายออกไปทางซ้ายให้ยังทำชิ่งกับเวลเบ็คหลุดเข้าเขตโทษมาก่อนจะเลือกยิงอัดเสาแรกแต่เช็กยืนรอยังเซฟเอาไว้ได้ก่อน
แล้วนาที 17 กลายเป็น"สิงห์บลูส์"ที่ยังบุกน้อยกว่าแต่มีประตูออกนำไปก่อนเรียบร้อยด้วยจังหวะที่บอลโยนยาวขึ้นหน้ามาแล้วอีแวนส์โหม่งสกัดเข้าทางของเอโต้ก่อนจะโยกหลอกโจนส์เลี้ยงตัดจากขวามาหน้าเขตโทษตามด้วยซัดก่อนจะไปแฉลบคาร์ริคกลายเป็นดีบอลลอยโด่งผ่านมือเด เกอาเข้าไปซุกก้นตาข่ายกลายเป็นเชลซีออกนำไปแล้ว 1-0
หลังจากนั้นกลายเป็นเชลซีเครื่องติดเริ่มทำเกมบุกได้มากขึ้นแม้จะยังไม่มีโอกาสยิงจะๆอีกหนแต่ทำแมนฯ ยูไนเต็ดป่วนได้เหมือนกันจากอาซาร์ที่เลื้อยทางซ้ายทีทางขวาทีแต่จังหวะสุดท้ายยังเชื่อมกันไม่ติดเท่าไหร่
เป๋ไปซักพักแมนฯ ยูไนเต็ดก็กลับมาบุกได้ต่อเนื่องอีกแล้วก่อนจะมามีลุ้นจากเอฟร่าไปตัดบอลได้จากออสการ์ก่อนจะลากขึ้นมาเองทางซ้ายยาวจนถึงหน้าเขตโทษสุดท้ายจัดการสับไกเต็มข้อแต่บอลยังพุ่งเข้าเพียงแค่ข้างตาข่ายเท่านั้น
ผ่านครึ่งชั่วโมงมาเชลซีก็ยังเอาอยู่หยุดเกมรุกแมนฯ ยูไนเต็ดได้พอสมควรและมีโอกาสได้ลุ้นบ้างจากอิวาโนวิชจ่ายให้ออสการ์พาบอลขึ้นมาทางขวาค่อยๆเข้าเขตโทษมีเพื่อนวิ่งอ้อมหลังแต่ไม่จ่ายตัดสินใจยิงเองเลยสุดท้ายบอลหลุดเสาสองไกลโข
นาที 38 โอกาสสำคัญของ"ปีศาจแดง"เลยน่าได้ประตูออกนำจากจังหวะที่เคาะบอลกันไปมาก่อนทางซ้ายที่ยานาไซจ์หลุดมาได้ก่อนจะเปิดเรียดเข้าไปในเขตโทษเหมือนไม่มีอะไรแต่ดันปล่อยผ่านมาหมดหลุดถึงเวลเบ็คยืนรอกลางประตูจับบอลก่อนจะสับไกแต่จังหวะยิงก็มีอัซปิลิกวยต้ามาตามจิ้มด้วยทำให้ยิงไม่ถนัดโดนเช็กเซฟได้
ช่วงท้ายครึ่งแรกผลัดกกันบุกผลัดกันได้ลุ้นคนละทีเริ่มต้นที่แมนฯ ยูไนเต็ดก่อนจากยานาไซจ์ที่วันนี้ตัวแสบน่าดูลองยิงหน้าเขตโทษติดบล็อก ก่อนเชลซีจะสวนกลับอาซาร์ให้กับเอโต้ในเขตโทษพยายามกลับตัวยิงติดบล็อกลอยโด่งมาหน้าประตูออสการ์เลยลังกายิงซะเลยแต่ก็หลุดกรอบไม่ค่อยได้ลุ้น
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกเจ้าบ้านได้เฮอีกรอบมีประตูส่งท้ายครึ่งแรกจากเตะมุมสกัดออกมาได้ก่อนรามิเรสเก็ตกตรงกลางก่อนจ่ายเข้าเขตโทษให้กับเคฮิลล์ที่อยู่ทางขวาในเขตโทษหลุดไปแล้วเปิดเรียดไปตรงกลางที่เอโต้ไร้ตัวประกบโล่งเหลือเกินวิ่งมาแปผ่านเด เกอาเข้าไปจนได้ เชลซีปิดด้วยการนำ 2-0
กลับเข้าสู่เกมช่วงครึ่งหลังได้ไม่ทันไร "สิงห์บลูส์" ก็ได้ประตูเพิ่มอีกแล้วด้วยเตะมุมทางขวาเปิดเข้ามาตรงกรอบ 6 หลาเคฮิลล์วิ่งหลบตัวประกบมาโขกเต็มเหน่งยังติดเซฟเด เกอาแต่บอลเจ้ากรรมยังมาตกอยู่ตรงหน้าเอโต้โดนวาเลนเซียกอดแต่ขายังอิสระซ้ำจ่อๆหลาเดียวเข้าไปกลายเป็นแฮตทริกพร้อมส่งเชลซีนำเพิ่มเป็น 3-0
พอโดนลูกสามเหมือนแมนฯ ยูไนเต็ดช็อกไปแล้วกลายเป็นเชลซีได้ลุ้นอีกในนาที 60 จากวิลเลียนเลี้ยงมาทางซ้ายก่อนจะจ่ายเข้าในแล้วไปติดนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ดแต่โดนจิ้มมาเข้าทางของรามิเรสขอลองส่องไกลเข้าไปเลยแต่สุดท้ายบอลยังข้ามคาน
แมนฯ ยูไนเต็ดตื้อไปแล้วส่วนเชลซีอีกได้โอกาสลองส่องทีสองทีเริ่มต้นจากวิลเลียนกดหน้าเขตโทษแล้วแฉลบยังตรงตัวเด เกอาอยู่ กับอีกจังหวะอาซาร์มาทางซ้ายลากตัดเข้าในมายิงแฉลบอีกแต่จังหวะนี้โด่งออกหลัง
นาที 69 ทำเสียวกันทั้งสแตมฟอร์ด บริดจ์เพราะมีจังหวะที่เชลซีหวิดโดนตีไข่แตกไล่มาแล้วจากบอลคืนหลังไปให้กับเช็กแล้วจับยาวไปหน่อยเจอวิ่งบีบมาเร็วโดยชิชาริโต้ยังดีล็อกได้สวยทำชิชาริโต้สไลด์วืดหน้าประตูตัวเองระยะราว 2 หลาเท่านั้นทำเอามูรินโญ่มีแอบใจหายเหมือนกัน
เกมเข้าช่วง 15 นาทีสุดท้ายพอมีแรงฮึดขึ้นมาอีกนิดสำหรับ"ปีศาจแดง"ได้ประตูตีไข่แตกไล่มาแล้วจากเกมขึ้นทางขวาวาเลนเซียจ่ายให้กับเวลเบ็คในเขตโทษแหวกมาสองก่อนตบกลับไปตรงกลางที่โจนส์ไม่ยิงเลือกจ่ายออกไปทางซ้ายให้ชิชาริโต้ระยะไม่ถึง 6 หลาเข้าชาร์จไปจนได้ แมนฯ ยูไนเต็ดไล่มาห่างๆ 3-1
ท้ายเกมแฟนเชลซีจะได้ยลฟอร์มนักเตะใหม่เล็กๆเมื่อเนมันย่า มาติชถูกเปลี่ยนลงสนามมาแทนที่วิลเลียนเรียบร้อยแล้วมาในช่วงที่เกมเงียบลงไปทั้งสองฝั่งไม่ค่อยจะได้ลุ้นอะไรแล้ว
ทดเจ็บหนักกว่าเดิมอีกเมื่อแมนฯ ยูไนเต็ดมาโดนใบแดงในจังหวะที่อาซาร์เลี้ยงขึ้นมาเรื่อยๆไม่มีอะไรก่อนวิดิชจะมาทิ้งตัวเสียบเข้าไปแล้วฟิล ดาวด์มาโหดแจกใบแดงให้เลยเสียหายหนักกระเทือนถึงเกมต่อไปด้วย
จบเกมเชลซีเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 กลายเป็นชัยชนะในพรีเมียร์ลีกนัดที่ 100 ของมูรินโญ่พาทีมกลับไปตามหลังแมนฯ ซิตี้กับอาร์เซน่อลเท่าเดิม ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ดอยู่อันดับ 7 เหมือนเดิมแต่นิวคาสเซิ่ลไล่จี้เหลือคะแดนนเดียว