"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชะล่าใจเพราะนำก่อน 2-0 แต่มาเจอทีเด็ด "เจ้าสัว" ฮึดไล่เจ๊าโชคยังดีที่ "เฆซุส นาบาส" กับ "เจมส์ มิลเนอร์" สวมบทซูเปอร์ซับยิงประตูช่วงท้ายให้ทีมของ "มานูเอล เปเญกรินี่" กุนซือชาวชิลีชนะไป 4-2 เก็บอีก 3 แต้มขึ้นรั้งรองจ่าฝูงตามลิเวอร์พูลแต้มเดียว
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2556
ฟูแล่ม 2-4 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สนาม คราเวน ค็อตเทจ เปิดฉากเริ่มเกมมาฝั่งของเจ้าบ้าน "ฟูแล่ม" เกือบมีลุ้นได้ประตูเลยในจังหวะที่กลีชี่ทำพลาดโดนริชาร์ดสันฉกบอลไปได้ก่อนจ่ายเข้ามาให้ทารับต์แต่งบอลก่อนหนึ่งจังหวะแล้วยิงตูมไปแฉลบกลีชี่นิดนึงแล้วก็ติดมือของฮาร์ทที่เซฟได้สวยเรียกความมั่นใจได้เยอะเลย
ซิตี้มีโอกาสใกล้เคียงสุดๆกับการได้ประตูขึ้นนำเมื่อเชโก้จับบอลได้ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วไหลต่อให้ซิลบาที่เติมขึ้นมาพอดิบพอดีได้อัดเต็มๆทว่าบอลไปชนคานดังสนั่นก่อนที่กองหลังฟูแล่มจะช่วยกันเคลียร์ออกไป
นาทีที่ 20 ฟูแล่มมีลุ้นอีกแล้วเมื่อเดชาก้าห์ลากบอลหนีกลีชี่มาได้ก่อนต่อให้ทารับต์ที่วิ่งเข้ามารับแล้วไม่รู้ทำอะไรจัดการยิงไกลจาก 25 หลาทันทีแต่บอลไปตรงตัวของฮาร์ทที่รับเข้าซองสบายบรื๋อ
"เรือใบสีฟ้า"มาได้ลุ้นเลยเมื่อได้ฟรีคิกหน้าปากประตูระยะ 20 หลากลางประตูเลยเป็นโคลารอฟกับยาย่าที่เล็งจะยิงกันทั้งคู่ก่อนที่จะเป็นดาวเตะไอวอรี่ โคสต์วิ่งเข้ามาปั่นบอลข้ามกำแพงแล้วชนสามเหลี่ยมขวามือแบบสุดสวยก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งมาเฮกับซุ้มม้านั่งสำรองกับการซัดฟรีคิกลูกที่ 4 ของตัวเองในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้
เกมผ่านมาครึ่งชั่วโมงเนเกรโด้ทำได้เยี่ยมเมื่อพลิกบอลทีเดียวหายแล้วจ่ายให้เชโก้จับบอลได้กลางประตูแต่ไม่ยอมส่งไปให้แฟร์นานดินโญ่ที่รออยู่เลือกยิงเองเลยติดบล็อคเลย
ถัดมาจากนั้นนิดเดียวเจ้าบ้านมาบ้างและเป็นทารับต์คนเดิมที่ลองส่องแถวๆหน้าปากเขตโทษร้อนถึงฮาร์ทต้องพุ่งปัดทิ้งไม่งั้นโดนตีเจ๊าแน่นอน
สเตเคเลนเบิร์กต้องงัดซูเปอร์เซฟมาโชว์เลยเมื่อโคลารอฟลากบอลขึ้นมาทางริมเส้นซ้ายแล้วปาดเข้ากลางให้เชโก้ยิงเหน่งๆแถวเขตโทษแต่มือกาวดัตช์ไม่ยอมปล่อยปัดทิ้งไปได้อย่างสวยและหลังจากนั้นเชโก้ก็มาได้โขกอีกยังไม่ผ่านมือของอดีตจอมหนึบโรม่าเหมือนเดิม
ฟูแล่มน่าได้ลูกตีเสมอเหลือเกินโดยยาย่าเสียบอลตรงกลางสนามทำให้ทารับต์ได้ลากเดี่ยวจี้เข้าหากองหลังก่อนตัดสินใจยิงเองไม่ส่งให้เพื่อนบอลไปโดนบล็อคของกอมปานีแล้วแฉลบออกหลัง
นาทีที่ 43 "เรือใบสีฟ้า"ออกจากฝั่งสบายใจแล้วในจังหวะฟรีคิกที่ซิลบาโยนยาวมาทางเสาไกลให้เดมิเคลิสโขกเต็มหัวไปโดนเซฟของสเตเคเลนเบิร์กก่อนบอลปลิ้นมาเข้าทางของกอมปานีจิ้มทีเดียวตุงตาข่ายไม่เหลือ
กลับเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังมาได้แค่ 5 นาที "เจ้าสัว" ไล่มาจนได้ในจังหวะสวนกลับเร็วที่ซิดเวลล์แทงบอลยาวไปให้ทารับต์ลากหนีกลีชี่ทีเดียวหายเลยก่อนปาดเข้ากลางไปทางเสาสองที่มีริชาร์ดสันวิ่งเติมขึ้นมายิงเข้าไปตุงตาข่าย
เจ้าบ้านยิ่งเล่นยิ่งได้ใจและเป็นเดชาก้าห์ที่เปิดมาตรงริมเส้นด้านขวาให้ทางเสาสองที่มีทารับต์ตั้งหัวรอโขกโล่งๆทว่าซิดเวลล์บินมาแต่ไกลแล้วโขกออกไปเฉยเลยพร้อมทำหน้างงๆอยู่บนพื้นหญ้า
เกมดำเนินมาครบชั่วโมงแล้วซิลบาไหลให้เนเกรโด้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนยิงโดนบล็อคบอลกระเด้งมาเข้าทางนาบาสที่เพิ่งลงมาลองพยายามยิงแต่บอลปล้นหลังเท้าออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
แต่แล้วในนาทีที่ 68 "เรือใบสีฟ้า"ก็พลาดท่าจนได้เมื่อรีเธอร์เปิดบอลเข้ากลางไม่มีอะไรเลยกอมปานีพยายามจะเคลียร์ทิ้งแต่เตะบอลผิดเหลี่ยมปลิ้นหลังเท้าแล้วลอยข้ามหัวฮาร์ทเข้าไปกองก้นตาข่ายเฉยเลย
ฟูแล่มดีใจได้ไม่นานก็โดนเลยเมื่อซิลบาแทงบอลทะลุช่องให้นาบาสหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาเมื่อเงยหน้ามองไม่เจอใครเลยยิงยัดไปเลยและบอลก็ผ่านมือของสเตเคเลนเบิร์กเข้าไปแบบเด็ดขาด
นาทีที่ 83 ซิตี้มาได้ประตูตอกฝาโลกเมื่อนาบาสทำชิ่งกับเนเกรโด้ก่อนที่ดาวยิงสเปนเปิดไซร้ก้อยจากริมเส้นขวามาให้มิลเนอร์ที่เพิ่งลงมาเหมือนกันดีดบอลเข้าไปโล่งๆไม่มีเหลือ
ครบ 90 นาที"เรือใบสีฟ้า"เอาตัวรอดออกจากคราเวน ค็อตเทจพร้อมกับ 3 แต้มทำให้พวกเขาแซงเชลซีและอาร์เซน่อลไปอยู่อันดับ 2 ของตารางมี 35 คะแนนตามหลังลิเวอร์พูลเพียงแต้มเดียวเท่านั้น
ผู้เขียน
หัวข้อ: "เรือ" หวิดจม~!! "นาบาส-มิลเนอร์" กู้ชีพท้ายเกมเฉือน "เจ้าสัว" หืดจับ 4-2 ขึ้นรองฝูง (อ่าน 896 ครั้ง)
