พิมพ์

[Armin]

เกมนี้เรียกว่าเป็นเกมที่ฟัดกันมันส์สุดๆเลยทีเดียว เพราะต่างฝ่ายต่างเปิดเกมรุกแลกกันระดับห้าดาว ลงท้ายเป็น "แจ็ค วิลเชียร์" ที่รับบทฮีโร่ซัดไปเต็มๆพา "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล บุกเจ๊า "มวยโลก" เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-1 มี 16 แต้มแต่ประตูได้เสียดีกว่าทวงจ่าฝูงคืนได้อีกครั้ง



พรีเมียร์ลีก
วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2556
เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-1 อาร์เซนอล

               ออกสตาร์ทเกมช่วงครึ่งแรกมาไม่ต้องห่วงเลยเพราะคู่นี้เล่นรู้ทางกันแน่นอนเพราะเคยเจอกันมาก่อนในแคปิตอล วัน คัพแถมเล่นถึงช่วงต่อเวลานอนเช้ากันเลยจำได้ไม่มีลืมแม้คราวก่อนเป็นชุดเล็กแต่กุนซือหน้าเดิมก็เลยจะเห็นเกมรับที่ระแวดระวังเวลาอีกฝ่ายสปีดเร่งจะโจมตีในช่วงต้นเกม

แต่โอกาสแรกของเจ้าถิ่นเกือบเป็นประตูหลังเบราฮิโน่แข้งผิวหมึกลากเลื้อยแล้วส่องหน้าเขตโทษบอลไปติดบล็อกฟลามินี่แล้วพุ่งแฉลบกำลังจะเสียบมุมแต่เชสนี่ที่ขยับไปอีกทางนึงยังปฏิกริยาไวพุ่งสุดตัวปัดเอาไว้ได้ทัน ลูกนี้กำลังจะเข้าอยู่แล้วเชียว

นาที 25 "ปืนใหญ่"เซ็ตบอลกันสวยและเกือบลุ้นได้ประตูเช่นกันหลังวิลเชียร์มิดฟิลด์ยาสูบเอาตัวรอดหน้าเขตโทษจากตัวประกบแล้วแตะให้ชิรูด์ที่หันหลังให้โกล์เลยแตะเบาๆทำชิ่งให้เจ้าหนูแจ็ควิ่งมายิงเต็มๆเท้าซ้ายบอลหักมุมมากไปนิดเลยเฉี่ยวเสาแบบเสียวกันทั้งสนาม

มวยโลกเหมือนจะรับมือกับการเคาะบอลทำชิ่งของอาร์เซนอลได้ดีเอาเรื่องเลยเพราะบีบให้โอกาสของลูกทีมอาร์แซน เวนเกอร์มีไม่เยอะแถมแนวรับทีมเยือนต้องวิ่งกันน้ำบานหลังเจอพาทัวร์ทั้งซ้ายทั้งขวารวมทั้งเจอลูกหนักเข้าบอลทีมือไม้เล็บมาหมด เล่นเอาวิลเชียร์จอมกระดูกเปราะลงไปนอนวัดพื้นหลายหนกันเลยทีเดียว

ก่อนหมดเวลา 5 นาทีอาร์เซนอลได้ลุ้นอีกจากลูกเตะมุมบอลล้นยาวออกมานอกเขตโทษเป็นแรมซีย์ยิงตูมเดียวร้อนถึงมายฮิลล์ที่พุ่งล้มปัดแต่บอลกระเด้งอยู่แถวๆในกรอบ 6 หลาก่อนที่แนวรับจะช่วยกันเคลียร์ทิ้งก่อนที่แข้งทีมเยือนจะกรูมาซ้ำ

แต่แล้วนาที 42 อาร์เซนอลที่ถูกมวยโลกรุกใส่เป็นจังหวะๆก็มาเสียประตูจนได้จากจังหวะเตะมุมที่ตอนแรกถูกเคลียร์ทิ้งออกมาได้แต่ถูกตั้งขึ้นมาใหม่และเป็นอมาลฟิตาโน่ครอสบอลจากปีกขวาบอลย้อยต่ำๆไปที่จุดนัดพบระยะ 6 หลาเสาแรกก่อนที่ยาค็อปจะเอียงตัวโขกลงพื้นบอลติดปลายมือเชสนี่แต่มันบนเส้นแล้วก็เลยตุงตาข่ายเข้าไปเลย ลูกนี้เจนกินสันประกบหลวมมาก รับไปเต็มๆ แล้วนี่เป็นประตูแรกของจาค็อปแข้งตัวรับชาวอาร์เจนไตน์ในพรีเมียร์ลีกอีกด้วย หมดครึ่งแรกเวสต์บรอมออกนำ 1-0

              กลับมาในช่วงครึ่งหลังของเกมสกอร์เกือบขยับเป็น 2-0 หลังเบราฮิโน่โชว์แตะอ้อมตัวตรงริมเส้นพื้นที่แคบๆจนหลุดทะลุขึ้นมาทางซ้ายก่อนลากจี้มาถึงริมเขตโทษแล้วปาดไปเสาสองให้อเนลก้าวิ่งมาเข้าฮอร์ตโล่งๆ 6 หลาแต่จังหวะไม่เป็นใจกลายเป็นวิ่งเลยและเหยียบบอลจนตัวถลำ แหม่น่าจะแปง่ายๆโล่งๆไปแล้ว เกือบยิงทีมเก่าได้ด้วยสำหรับนิโก้

ภาพตัดกลับมา"ปืนใหญ่"บุกสวนขึ้นมาและเกือบตีเสมอได้หลังชิรูด์ได้บอลจากโอซิลตรงหน้าเขตโทษแล้วไหลให้วิลเชียร์ที่วิ่งทำทางและสปีดไวกว่าแนวรับเจ้าถิ่นจนควบเข้าเขตโทษแต่พอจังหวะจะยิงเจอสไลด์แหย่บล็อกบอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 52 มวยโลกไม่ยอมปิดสกอร์หลังอเนลก้าหลุดกับดักล้ำหน้าลากเดี่ยวโล่งๆชนิดที่ว่าสั่งบะหมี่น้ำรอให้เย็นก่อนยังทันแต่ตอนเลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษแล้วเอียงตัวแปปั่นไซด์สวนตัวเชสนี่กะให้เสียบเสาไกลแต่เบี่ยงเผื่อมากไปนิดเลยเฉี่ยวเสาหลุดกรอบออกไป แฟนบอลร้องเซ็งส่วนคล้ากเอามืดปิดหน้า พลาดได้ยังไง

นาที 63 อาร์เซนอลตีเสมอจนได้และต้องบอกว่าเป็นการประสานงานตามสไตล์โดยเริ่มจากโอซิลวิ่งตาถลนมาเอาบอลที่กำลังจะออกเส้นข้างพอเกี่ยวได้ทีนี้เห็นชิรูด์เลยแทงเลียดทะลุไปหน้าเขตโทษก่อนที่หล่อเหลาจะลากตัดเข้าในหนีตัวประกบและแปะต่อให้โรซิคกี้ตัวสำรองที่แปคืนย้อนหลังให้วิลเชียร์และแม้บอลจะกระเด้งลอยขึ้นแต่มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษไม่สนวิ่งมากดตะบันเต็มๆบอลแฉลบหน้าแข้งโอลส์สันแล้วเบียดเสาตุงตาข่ายเข้าไปอย่างสุดมัน 1-1

ตอนนี้ทั้งคุ่ต่างฝ่ายต่างจดจ้องจะเอาประตูชัยกันแล้วทำให้เกมรับทำงานหนักยิ่งกว่ากรรมกรและนาที 73 มวยโลกเกือบนำหนสองหลังถ่ายบอลขวางหน้าเขตโทษจนมาจบที่มูลัมบูที่กดเต็มๆแต่เชสนี่ทิ้งตัวปัดสองมือ

อีก 3 นาทีต่อมาอาร์เซนอลก็เกือบพลิกขึ้นนำเช่นกันและหนนี้้จะแจ้งกว่าเยอะหลังวิลเชียร์หยอดบอลยาวให้ชิรูด์ไม่ล้ำหน้าแล้ววิ่งเข้าเขตโทษไปแตะบอลหนีมายฮิลล์ที่วิ่งออกมาบวกแต่เหลี่ยมหล่อเหลาดีกว่าก่อนทิ้งตัวสไลด์ยิงแต่มายฮิลล์โคตรไววิ่งมาทิ้งตัวบล็อกรอดตายเหลือเชื่อ

อีกนาทีเดียวมวยโลกรอดเสียจุดโทษเหลือเชื่อหลังโอซิลแตะลอดดากตัวประกบตรงริมเส้นฝั่งขวาแล้วตบบอลตั้งให้วิลเชียร์วิ่งมาจะยิงตรงระยะจุดโทษแต่มูลัมบูมาจากด้านหลังสไลด์เกี่ยวบอล ผู้ตัดสินนิ่งเป็นศาลพระภูมิอดกันเป็นแถว

ช่วงเวลาที่เหลือรวมทดเจ็บ 4 นาทีทั้งคู่ยังไม่ลดละเปิดเกมรุกสร้างโอกาสเพราะผลเสมอกับการเล่นวันนี้ดูไม่มีใครพอใจแต่สุดท้ายทำอะไรเพิ่มไม่ได้แต่ก็เพียงพอทำให้อาร์เซนอลกลับมานำเป็นจ่าฝูงอีกครั้งด้วยประตูได้เสียที่ดีกว่าลิเวอร์พูลส่วนเวสต์บรอมอยู่อันดับ 12 มี 9 แต้ม